ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 225
ตอนที่ 225 พัวพันอยู่ในนั้น
มองตู้ชุนเย้นที่ใบหน้าแสดงความสับสนออกมา แซ่จื๋อจ้วนยิ้มอย่างเย็นชา “ดูแล้วคนคุ้นเคยของคุณไม่ค่อยได้บอกเรื่องราวเบื้องหลังให้คุณรู้สักเท่าไหร่ คุณคงเป็นแค่เครื่องมือที่โดนเขาใช้ประโยชน์เท่านั้นเอง”
“ฉัน……ฉันไม่ใช่ ฉันไม่มี ฉันไม่ได้ทำ ทองพวกนี้ฉันก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน”
ตู้ชุนเย้นยังกำลังดิ้นรนเฮือกสุดท้ายอยู่ คิดไว้ว่าต่อให้ตายก็จะไม่ยอมรับ
แซ่จื๋อจ้วนรู้สึกว่าท่าทางอย่างนี้ของเธอช่างน่าสงสารจริงๆ “พวกคุณสองสามีภรรยาต่างก็น่ามหัศจรรย์นะ คุณอยู่ข้างนอกออกนอกลู่นอกทางโดนผู้ชายใช้ประโยชน์ หาเงินมาได้สามีของคุณก็ไม่ถามสักคำว่าทองเหล่านี้มาได้อย่างไร ยังกล้าที่จะเอาไปใช้หนี้คืนที่คาสิโน สามีคุณโอนเงินไปแล้วหกแสนกว่า แต่ในบ้านยังมีอีกเยอะขนาดนี้ ดูแล้วหานตงหลินคงจะปฏิบัติกับคุณไม่เลวเลยสินะ จัดการได้อย่างใจกว้างมากทีเดียว”
ได้ยินแซ่จื๋อจ้วนสืบหามาอย่างชัดเจนเช่นนี้ แม้กระทั่งเรื่องที่สามีเธอโอนเงินล้วนแต่รู้หมดแล้ว ตู้ชุนเย้นจึงรู้แล้ว ว่าปิดบังเอาไว้ต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน
เธอคุกเข่าลงบนพื้นอย่างตกใจทันที ร้องไห้ไปแล้วก็คำนับแซ่จื๋อจ้วนไปด้วย
ลูกสาวของเธอที่ยืนอยู่ด้านข้างตกใจจนตัวสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะพูดแล้ว
“บอสแซ่ เป็นฉันที่ไม่ดีเอง ฉันไม่ควรใส่ร้ายคุณ ฉันยอมรับผิดแล้ว ขอร้องคุณปล่อยพวกฉันไปเถอะนะ”
“ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ? ตอนแรกที่ยกโลงของพ่อคุณไปที่ทางเข้าบริษัทของฉันแล้วแสดงท่าทางวางอำนาจบาตรใหญ่ระรานคนอื่นไปทั่วล่ะ? คุณเป็นภรรยาที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างนี้ยังรู้จักสิ่งที่เรียกว่ากงเกวียนกำเกวียนไหม ดูสิว่าเวรกรรมจะไปตกอยู่ที่ใคร?”
แซ่จื๋อจ้วนอยากจะสับเธอให้กลายเป็นเนื้อบดจริงๆ หากว่าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ก่อเรื่องอย่างรุนแรง บริษัทจะตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนี้ได้อย่างไร?
หากว่าเป็นแซ่จื๋อจ้วนคนก่อนที่เจ้าอารมณ์ แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นๆ ระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรงก่อนเลย อย่างน้อยที่สุดก็ต้องทำให้เธอหน้าตาเปลี่ยนแปลงไปหมด
แต่ตอนนี้ เขาไม่ใช่แซ่จื๋อจ้วนคนเดิมแล้ว หลังจากได้พบกับหวาเหวิน เขาก็ไม่ใช่คนที่อารมณ์ดุร้ายคนนั้นอีกแล้ว
“คุณไม่ต้องขอความเมตตา ฉันไม่ทำร้ายคุณ พวกคุณสามีภรรยา เพียงรอไปเป็นพยานในศาลก็พอ ฉันจะไว้ชีวิตที่ไร้ค่าที่ยังมีประโยชน์ของพวกคุณเอาไว้ แต่จำไว้ว่า อย่าคิดจะมีลูกไม้อะไรอีก มิเช่นนั้นความปลอดภัยของลูกสาวคุณ ฉันก็ไม่สามารถรับประกันได้”
ทิ้งประโยคนี้ไว้ แซ่จื๋อจ้วนก็พาลูกน้องออกไป ก่อนออกไปยังส่งคนไว้ที่ทางเข้าให้ครอบครัวของตู้ชุนเย้นเอาไว้ดูต่างหน้า พวกเขาจะได้ไม่มีกลอุบายอะไรอีก
แซ่จื๋อจ้วนก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหานตงหลินได้ ระหว่างทางที่เขาจะไปพบหานตงหลินถึงกับคิดอยู่ตลอด ตนเองมีเรื่องที่เคยทำผิดกับเขาด้วยหรือ?
ในความจริงแล้ว ก็ไม่มี แต่ก่อนหานตงหลินเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทซินเซิ้ง ว่าจ้างโดยหน่วยงานภายนอก ค่าแรงประจำปีก็หลักล้าน
บริษัทยังให้รถประจำตำแหน่งอีกด้วย จากนั้นหลังจากที่บริษัทซินเซิ้งโดนแซ่จื๋อจ้วนเข้าควบคุม เขากลัวว่าจะมีปัญหากัน จึงตัดสินใจลาออก ตอนที่ออกไปแซ่จื๋อจ้วนยังให้เงินเดือนอีกสามเดือนเพื่อเป็นค่าชดเชย
แต่เขาไม่นึกเลยว่าจะใช้ตู้ชุนเย้นมาใส่ร้ายเรื่องของตน ในจุดนี้ แซ่จื๋อจ้วนคิดไม่ออกจริงๆ
จะบอกว่าเขาทำเพื่อเงินหรือ? เขาก็ไม่ได้ขู่เข็ญเอาเงินจากตนถามเอาเงินจากตน จะบอกว่าเป็นความแค้นส่วนตัวหรือเปล่า แต่แซ่จื๋อจ้วนก็ไม่ได้มีความอาฆาตแค้นกับเขาจริงๆ
หานตงหลินเก็บตัวอยู่ที่ร้านไพ่นกกระจอกแห่งหนึ่ง หลังจากที่คนของแซ่จื๋อจ้วนเดินเข้าไป ก็ขับไล่คนอื่นๆออกไปทันที จากนั้นก็ล็อกประตู
หลังจากนั้นอีกครั้ง สิ่งที่ปฏิบัติกับหานตงหลินก็คือต่อยอย่างโหดร้ายอยู่พักหนึ่ง ต่อยจนเกือบจะจำหน้าตาตอนแรกไม่ได้อยู่แล้ว แซ่จื๋อจ้วนถึงจะแสดงเจตนาให้หยุด
“อย่าต่อยอย่าต่อย ประธานแซ่……ตรงไหนที่ผมทำให้คุณไม่พอใจ ทำไมคุณถึงทำกับผมเช่นนี้?” หานตงหลินเริ่มร้องโวยวายไม่หยุด
แซ่จื๋อจ้วนนั่งยองๆลงไปดึงผมของเจ้าอ้วนเอาไว้ “ถึงตอนนี้แล้ว ยังจะแกล้งโง่กับฉันอีก? แสดงละครได้ไม่เลว นายเหมาะจะไปเป็นนักแสดงนะ”
“ประธานแซ่ ผมไม่รู้จริงๆ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ?”
“เข้าใจผิด? ตู้ชุนเย้นก็เข้าใจผิดใช่ไหม? ทองคำก็เข้าใจผิด?”
ได้ยินแซ่จื๋อจ้วนพูดอย่างนี้ ในทันทีหานตงหลินก็ตกใจจนสีหน้าราวกับหมดอาลัยตายอยาก รู้ว่าเรื่องราวโดนเปิดโปงแล้ว
“พูดมาสิ ใครให้คุณทำอย่างนี้” แซ่จื๋อจ้วนค่อยๆลุกขึ้น ลูกน้องส่งกระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งให้ เขาเช็ดๆมือ สีหน้าอึมครึม