ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 228
ตอนที่ 228 หลังจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น
ช่วงบ่าย แซ่จื๋อจ้วนกลับไปที่บริษัทยาจื๋อจ้วนจำกัด คนของเขามารายงาน “ประธานแซ่ ตรวจสอบแล้ว โจวหยูเจี๋ยตายไปแล้วจริงๆ ได้ยินว่าหลังจากที่โดนทอดทิ้งในปีนั้นสภาพจิตใจก็ไม่ดี ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ มีคนบอกว่าเธอตั้งใจให้รถชนเพื่อจบชีวิต”
ฟังถึงตรงนี้ แซ่จื๋อจ้วนก็รู้สึกอึดอัดใจ แต่ก่อนเขาเลวจริงๆ
โดยเฉพาะช่วงที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ได้รับอิทธิพลจากการไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เขารู้สึกมาโดยตลอดว่าการเปลี่ยนแฟนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร โดยเฉพาะทุกครั้งที่เลิกกันเขามักจะให้เงินก้อนใหญ่เป็นค่าชดเชยอยู่เสมอ
เพียงคิดไม่ถึงว่า ปีนั้นที่ตนเองชอบเล่นมากจนเกินไป ไม่นึกเลยว่าจะเป็นการทำร้ายให้คนตายโดยทางอ้อม
แต่ที่น่าเศร้าก็คือ ตอนนี้เขาความจำเลือนรางจำไม่ได้เลยว่าโจวหยูเจี๋ยหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่? เพราะกี่ปีมานี้ เขาเปลี่ยนผู้หญิงข้างกายมาโดยตลอด
ส่วนใหญ่หน้าตาล้วนแต่คล้ายๆกัน นางแบบ พิธีกร นักแสดง มีทุกสายอาชีพ ดังนั้นเขาก็จำไม่ได้จริงๆว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
“พูดต่อ” แซ่จื๋อจ้วนสูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อนข้างไม่สบายใจ
“โจวหยูเจี๋ยมีน้องชายหนึ่งคนชื่อโจวเสี่ยวจุน คนนี้เป็นน้องชายที่จางสร้อยรู้จักมาหลายปีแล้ว กล่าวกันว่ามีระยะหนึ่งที่จางสร้อยเข้ามาจีบโจวหยูเจี๋ยผ่านทางโจวเสี่ยวจุน แต่เธอไม่ยินยอม คงจะเป็นตอนที่เธอกำลังเรียนวิศวกรรมการบินอยู่ ก่อนจะคบกับคุณ หลังจากที่โจวหยูเจี๋ยเสียชีวิตไปแล้ว คนของตระกูลโจวก็ย้ายออก ออกไปจากเมืองเจียงตั้งนานแล้ว ก็ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก”
แซ่จื๋อจ้วนก็จำได้ ตอนที่เลิกกันเหมือนจะให้เงินค่าเลิกกันไปแสนกว่า เขารู้สึกว่าให้เงินปลอบใจ ก็สามารถทำให้สบายใจที่ได้ทำเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
ตอนนี้เพิ่งจะพบว่าแต่ก่อนตนเองผิดไปแล้วจริงๆ……
ดูแล้วที่จางสร้อยพูดมาไม่ผิดเลยโจวหยูเจี๋ยเป็นเทพธิดาที่เขาชอบ เขารักแต่ไม่ได้ครอบครอง แต่กลับโดนแซ่จื๋อจ้วนหลับนอนด้วยอย่างง่ายดาย แล้วยังโดนทิ้งอีก
ในใจของจางสร้อยมีความเกลียดชังอย่างแน่นอน เพียงแต่นี่เป็นเรื่องเมื่อสามปีก่อนแล้ว สามปีนี้จางสร้อยคงจะหาโอกาสแก้แค้นเขามาโดยตลอดสินะ
จะว่าไป จางสร้อยให้บทเรียนที่โหดร้ายกับเขาอย่างแท้จริง ถ้าไม่มีคำพูดของหวาเหวินที่ทำให้ตื่นจากความฝัน บางทีเขาอาจจะล้มละลายแล้วก็ต้องกลับบ้านไปอย่างคนขี้ขลาดแล้ว
แล้วบางทีก็อาจจะยังเป็นพี่น้องกับจางสร้อยอยู่ ยิ่งไม่รู้เรื่องราวภายในที่มากมายขนาดนี้
“ทนายความว่าอย่างไรบ้าง?” แซ่จื๋อจ้วนค่อนข้างเหนื่อยล้า เสียงก็อ่อนแรง
“ตอบประธานแซ่ ทนายความของพวกเราบอกว่า สถานการณ์อย่างนี้ของจางสร้อยเลวร้ายมาก ถือเป็นการแข่งขันที่ไม่ปกติ อีกทั้งยังใช้ลูกไม้หลอกล่อด้วยผลประโยชน์ติดสินบนทำให้คุณเสียหายอย่างร้ายแรง จากสถานการณ์ตอนนี้ อย่างน้อยที่สุดก็สิบปีขึ้นไป”
“อืม” แซ่จื๋อจ้วนพยักหน้า
“หานตงหลิน ตู้ชุนเย้นยังมีสามีของตู้ชุนเย้นล้วนแต่ยินยอมที่จะเป็นพยานให้ รวมไปถึงท้ายที่สุดก็จะทำให้คุณบริสุทธิ์จากเรื่องทั้งหมด”
แซ่จื๋อจ้วนไม่ได้พูดอะไร จริงๆตอนนี้ สำหรับเขา เรื่องเล็กๆเหล่านี้ก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
“แต่พวกเขาทำผิดก็ต้องได้รับโทษ ในแผนการร้าย พวกเขาถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ก็ต้องติดคุกสักหลายๆปี”
“อืม ฉันรู้แล้ว คุณออกไปเถอะ”
แซ่จื๋อจ้วนโบกๆมือ ให้ลูกน้องรีบออกไป ตนเองนั่งอยู่คนเดียวพักใหญ่
ช่วงหนึ่งเดือนมานี้ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็เหมือนกับความฝัน ภาพเหล่านั้นปรากฏขึ้นในหัวของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
มีภาพที่เขาไปภาคตะวันตกเฉียงเหนือ มีภาพแถลงถึงผลิตภัณฑ์ยาตัวใหม่ มีภาพที่หุ้นของเขาทรุดฮวบ แล้วก็มีภาพของหวาเหวินที่พูดกับเขาด้วยคำพูดเหล่านั้น
ยังมีจางสร้อย โจวหยูเจี๋ยอีกเป็นต้น……
หลังจากที่ได้รู้ความจริงทั้งหมด แซ่จื๋อจ้วนไม่ได้ดีใจขนาดนั้นอย่างที่คาดหวังเอาไว้ ในทางตรงกันข้ามในใจกลับหนักหน่วงเหลือเกิน
แต่จะพูดอย่างไร หลังจากที่เรื่องวุ่นวายผ่านไปแล้ว เขาก็รู้สึกว่าตนเองมีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไปจิตใจสงบมากกว่าแต่ก่อน เข้มแข็งมากขึ้น
เย็นวันนั้นเขาไปสถานีตำรวจอีกครั้ง อยากจะพบจางสร้อยตามลำพัง แต่กลับโดนจางสร้อยปฏิเสธแล้ว ในใจของเขาคงจะไม่ยอมให้อภัยเขาอย่างเด็ดขาด
เช้าวันถัดมา เงินของหวาผิงที่ยินยอมให้เขายืมเข้าบัญชีอย่างตรงเวลา
รวมกับค่าชดเชยส่วนหนึ่งที่บริษัทของจางสร้อยให้เขา เขาก็มีเงินทุนเพื่อเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว
“ประธานแซ่ ขั้นแรกพวกเราต้องทำอะไรหรือคะ?” ผู้ช่วยหญิงตื่นเต้นมาก มองหัวหน้าที่อายุน้อยหล่อเหลาด้วยใบหน้าที่เลื่อมใสศรัทธา
“ขั้นแรก ยกเลิกการขายยายับยั้งเส้นประสาทสมองพวกนี้อย่างถาวร” แซ่จื๋อจ้วนสั่งอย่างชัดเจน
ผู้ช่วยหญิงตกใจอย่างมาก “ประธานแซ่ แต่นี่เป็นยี่ห้อที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทพวกเรา เป็นบ่อเงินบ่อทองเลยนะคะ”