ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 232
ตอนที่ 232 ยึดมั่นในศีลธรรม
เจียงหยู่พยักหน้า “อืม ฉันไม่มีอนาคตอย่างนี้มาโดยตลอดเลย คุณนายเจียงคุณเพิ่งจะรู้หรือ?”
ในตอนนี้ เสี่ยวเฮยก็ยืดตัวบิดขี้เกียจอย่างกับรู้เรื่อง ร้องเหมียวๆแล้วก็กระโดดออกไปจากอ้อมกอดของหวาเหวิน
เจียงหยู่จึงถือโอกาสนั่งอยู่ต่อหน้าของหวาเหวิน ถอดเสื้อคลุม ก็ปรากฏเสื้อเชิ้ตธุรกิจสีเทาด้านในออกมา
“เมื่อครู่เห็นข่าวพูดเรื่องแซ่จื๋อจ้วนกับหวาผิงไหม?” เจียงหยู่กำลังชวนคุย
“ไม่นึกว่าคุณจะยังเชื่อเรื่องซุบซิบพวกนี้?”
“ไม่ได้เชื่อ ฉันแค่รู้สึกว่าน่าสนใจทีเดียว แต่ครั้งนี้แซ่จื๋อจ้วนผ่านวิกฤตมาได้อย่างรวดเร็ว ฉันคิดไม่ถึงเลย ที่ยิ่งคิดไม่ถึงกว่านั้นคือ การยกเลิกการขายยายับยั้งเส้นประสาทสมองที่ทำเงินให้เขาได้มากที่สุด ความเด็ดขาดนี้ทำให้ฉันนับถือในตัวเขาจริงๆ” เจียงหยู่ไม่ใจแคบที่จะชื่นชมผู้อื่น ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าฝีมือแซ่จื๋อจ้วนก็ไม่ได้น่าสนใจ วันนี้ได้เห็น กลับรู้สึกว่าค่อนข้างน่าสนใจอยู่เล็กน้อย
หวาเหวินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจพูดความจริง ต่อไปจะได้ไม่มีปัญหากัน
“จริงๆยังมีอีกเรื่อง ที่ฉันอยากจะพูดมาโดยตลอด” หวาเหวินเอ่ยปาก
เจียงหยู่มองเธออยู่ ไม่ได้พูดออกมา รอเธอพูดต่อ
“ตอนที่แซ่จื๋อจ้วนอยู่ในช่วงวิกฤติ พี่สะใภ้ของเขามาพบฉัน บอกให้ฉันไปพูดไม่กี่คำ ส่วนเพราะอะไรถึงอยากให้ฉันไปพูด ฉันเชื่อว่าคุณรู้เหตุผลนั้นอยู่แล้ว ฉันไม่ได้คิดอะไรมากจริงๆ สะใภ้ตระกูลแซ่มาพบฉันด้วยความนอบน้อมและจริงใจขนาดนั้น ฉันเลยรับปาก แล้วก็ไปพบแซ่จื๋อจ้วน ให้แนะนำไปไม่กี่คำ”
“อ้อ ยังมีเรื่องนี้?” เจียงหยู่รู้อยู่ตั้งนานแล้ว เพราะตอนที่หวาเหวินไปบริษัทยาจื๋อจ้วนจำกัด ก็มีคนที่ไม่ปรารถนาดีจำนวนหนึ่งเปิดเผยข้อมูลให้เขารู้ ดังนั้นเขาจึงรู้ตั้งแต่แรกแล้วจริงๆ เพียงแค่ไม่ได้ถามหวาเหวินเท่านั้น เพราะเขาเชื่อเธอ แต่วันนี้ได้ยินเธอพูดเรื่องนี้เอง เขายิ่งสบายใจ อย่างน้อยก็รู้สึกว่าในใจของหวาเหวินยังมีเขาอยู่บ้าง ไม่ใช่คนที่เธอไม่ใส่ใจสักนิดเลย
“อืม แต่พวกฉันไม่มีเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง จริงๆแล้วนี่ก็ไม่มีอะไร แต่ฉันอยากจะบอกให้คุณรู้สักหน่อย ต่อไปจะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดกัน คุณพูดถูก แม้ว่าสามปีนี้พวกเราจะแกล้งเป็นสามีภรรยากัน แต่……หากว่ามีข่าวคราวด้านลบที่ทำให้อีกคนไม่พอใจ ก็คงจะไม่ดี” หวาเหวินอธิบายอย่างชัดเจน
เจียงหยู่พยักหน้า “อืม ฉันชอบนิสัยตรงไปตรงมาอย่างนี้ของคุณ เรื่องที่น่ากลัวที่สุดระหว่างคนสองคนก็คือคนหนึ่งไม่พูด คนหนึ่งไม่ถาม เป็นเวลายาวนานอย่างนั้น คงจะหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่มีมากขึ้นเรื่อยๆได้ยาก แต่เรื่องนี้ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่ว่าคุณจะพูดออกมาจากใจ หรืออดสงสารไม่ได้ ในตอนที่คนอื่นลำบาก ให้กำลังใจไม่กี่คำ จริงๆก็สำคัญมากนะ บางทีเพราะคำพูดที่คุณไม่ใส่ใจแต่กลับสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ แน่นอนว่า ถ้าเป็นฉัน ฉันก็จะช่วย แซ่จื๋อจ้วนเคยมาพบฉัน ฉันก็ถามแล้วว่าต้องการความช่วยเหลือไหม เขาปฏิเสธ ฉันรู้อยู่แล้วว่าเขาก็ค่อนข้างหยิ่งในศักดิ์ศรี”
“คุณไม่ถือสาสักนิดจริงหรือ? ไม่กลัวหรือ?” หวาเหวินประหลาดใจ
“กลัวอะไร?”
“ไม่กลัวว่าต่อไปแซ่จื๋อจ้วนทำจนใหญ่โตแล้ว จะข่มขู่คุณ กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของคุณหรือ?”
เจียงหยู่หัวเราะ “พูดจริงๆ ฉันไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้เลย แน่นอนว่าถ้าต่อไปเขาทำได้ดีมาก ยอดเยี่ยมมาก ชนะฉัน นั่นก็เป็นความสามารถเฉพาะตัวของเขา ฉันจะกลัวอะไร? โลกใบนี้มีเรื่องมากมาย ไม่ใช่ว่าคุณกลัวแล้วจะไม่เกิดขึ้น แทนที่จะทำอย่างนี้ ฉันยอมที่จะเผชิญหน้าอย่างสงบดีกว่า อย่างนี้ตนเองก็จะอิสระอยู่บ้าง ฉันไม่ค่อยชอบเอาเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นมาเป็นกังวล นั่นไม่ใช่นิสัยของฉัน”
หวาเหวินฟังคำพูดนี้จบ ในใจค่อนข้างชื่นชมเจียงหยู่มากทีเดียว ในทันทีก็รู้สึกว่าแบบแผนของผู้ชายคนนี้ยิ่งใหญ่มากเลย
เห็นหวาเหวินไม่พูดไม่จา เจียงหยู่ก็เลยแกล้งเธอ “เป็นอย่างไร? คุณนายเจียง รู้สึกว่าสามีของคุณเป็นคนที่ยึดมั่นในคุณธรรมไหม