ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 236
ตอนที่ 236 พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดก่อน
หวาเหวินมองเขาแล้วจึงเอ่ยปาก “วันนี้ฉันเจอแซ่จื๋อจ้วน”
“อืม แล้วจากนั้นล่ะ?” เจียงหยู่ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรมากมาย อันที่จริงรู้อยู่แล้วว่าหวาเหวินไม่ได้มีความรู้สึกต่อแซ่จื๋อจ้วน
“เขาเหมือนจะรู้เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับคุณ แต่ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ จริงๆแล้ว ตามความเป็นจริงของความสัมพันธ์ที่พวกเราทำงานร่วมกัน เรื่องส่วนตัวของคุณฉันก็ไม่ควรถาม แต่ฉันกลัวว่าถ้าต่อไปเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อการร่วมงานของพวกเรา ดังนั้นจึงอยากจะถามคุณ คุณมีเรื่องอะไรที่ปิดบังฉันอยู่ไหม?”
“ปิดบัง?” เจียงหยู่ตกตะลึง คิดอย่างละเอียดรอบคอบ
“ไม่มีนะ ฉันซื่อสัตย์มาโดยตลอด สถานะภาพทางสังคมของฉันคุณก็รู้ รูปตอนเด็กๆของฉันคุณก็เคยดู เรื่องที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ คุณก็รู้”
“ไม่ใช่พวกนี้ มีเรื่องอื่นอีกไหม เช่น……คุณมีลูกนอกกฎหมาย?”
หวาเหวินยอมรับว่าตนเองจินตนาการไปไกลจริงๆ แต่การมีลูกนอกกฎหมายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆกับครอบครัวที่ร่ำรวยจริงๆเช่นกัน
ท่าทางที่อยากจะพูดแต่ไม่พูดออกมาของแซ่จื๋อจ้วนอย่างนั้น ต้องรู้เรื่องส่วนตัวของเจียงหยู่อยู่บ้างแน่ๆ ทั้งยังเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ดีอีกด้วย อาจจะเกี่ยวข้องกับตนเองก็ได้ หวาเหวินคิดแล้วคิดอีก อาจจะเป็นเพราะตอนที่เจียงหยู่อายุน้อยเคยทำเรื่องวุ่นวายมาก่อน ดังนั้นจึงมีลูกนอกกฎหมาย ตระกูลเจียงกลัวว่าเรื่องเลวร้ายจะถูกเปิดเผยออกมา จึงปิดบังมาโดยตลอด? เหตุผลที่ใช้ในการครุ่นคิดนี้ไม่เลว
แต่ถามขนาดนี้ เจียงหยู่ก็เกือบจะตกจากโซฟาลงมาอยู่แล้ว ไม่ได้เตรียมใจมาเลยจริงๆ
“เหวินเหวิน คุณจริงจังใช่ไหม?” เขาอยากจะหัวเราะ
“แล้วตอนไหนที่ฉันไม่จริงจัง” หวาเหวินมองเขาอย่างอธิบายไม่ถูก
“ฮา ฉันคิดว่าคุณพูดเล่น ก็ได้ ในเมื่อคุณถามฉันอย่างจริงจัง ฉันก็จะตอบคุณอย่างจริงจัง คุณฟังนะ ฉันเจียงหยู่ ไม่มีลูกนอกกฎหมาย ไม่มีจริงๆ”
“แล้วเคยเลี้ยงดูผู้หญิงคนอื่นมาก่อนไหม?”
“ไม่เคยเลี้ยงดู แล้วก็ไม่มีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับเลขาผู้หญิงด้วย คุณไปตรวจสอบที่บริษัทฉันก็ได้” เจียงหยู่รีบอธิบาย
“ฉันไม่สนใจจะตรวจสอบอะไรทั้งนั้น ถึงจะมีจริงๆ ก็ไม่เป็นไร แต่คุณต้องบอกฉัน อันที่จริงตอนนี้พวกเราทำงานร่วมกัน ฉันมีสิทธิที่จะรู้ อย่ารอให้ต่อไปเกิดเหตุการณ์อะไร ที่ทำให้ฉันตกอยู่ในภาวะอึดอัดใจ ถึงเวลานั้น อย่าโทษว่าฉันไม่ให้เกียรติคุณแล้วกัน”
“เหวินเหวิน นี่คุณพูดเรื่องที่ไม่น่าฟังก่อนแล้วใช่ไหม?”
“ใช่”
“อา ฉันชอบท่าทางที่จริงจังอย่างนี้ของคุณ น่ารักจริงๆ”
หวาเหวิน ……
“พอแล้ว หมดเรื่องแล้ว คุณออกไปเถอะ ฉันอยากนอนแล้ว” หวาเหวินหันตัวไป ขึ้นเตียงทันที เจียงหยู่ก็ไม่ดึงดัน แค่ออกมาจากห้องของเธอ แต่เรื่องนี้กลับเก็บไว้ในใจแล้ว แซ่จื๋อจ้วนเหมือนกับจะรู้ความลับพวกนั้นหรือ? เจียงหยู่เองไม่รู้อะไรเลย
เช้าวันวันถัดมา
ตอนที่หวาเหวินไปมหาวิทยาลัย ก็ได้ยินมาว่าอวู๋ผิงไม่สบายแล้ว ให้น้ำเกลืออยู่ในห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัย หลังจากหวาเหวินได้ฟัง ก็รีบไปที่ห้องพยาบาลทันที
อย่างที่คิดเอาไว้ อวู๋ผิงนอนอยู่ในนั้นคนเดียว โดดเดี่ยวไม่มีคนดูแล กำลังให้น้ำเกลืออยู่ ท่าทางเศร้าๆเล็กน้อย
“เป็นหวัดแล้วใช่ไหม?” หวาเหวินเดินเข้าไป
“เหวินเหวิน เธอมาแล้ว” เห็นหวาเหวิน อวู๋ผิงรีบลุกขึ้นมานั่ง หวาเหวินก็หยิบหมอนวางไว้ที่ด้านหลังของเธอ ให้เธอพิงอย่างสบายเล็กน้อย
อวู๋ผิงค่อนข้างตกใจที่ได้รับการดูแลอย่างไม่คาดคิด ราวกับคิดไม่ถึงว่านิสัยของหวาเหวินอย่างนี้ก็จะดูแลคนได้
“ฉันแค่ตัวร้อนนิดหน่อย ไม่เป็นอะไรมาก”
“ทำไมไม่ไปโรงพยาบาล?” หวาเหวินรู้สึกว่าความสามารถของห้องพยาบาลมีขีดจำกัด หมอก็ไม่เฉพาะทาง ไม่ดีเท่าโรงพยาบาลอย่างแน่นอน
“โรงพยาบาลแพงน่ะสิ แค่ให้น้ำเกลือก็สามร้อยกว่าแล้ว ที่นี่ถูก แค่ห้าสิบเอง” อวู๋ผิงหัวเราะ หวาเหวินปวดใจอยู่เล็กน้อย
“คือว่า เหวินเหวิน เธอช่วยหางานให้ฉันได้ไหม ฉันต้องการใช้เงินจำนวนหนึ่ง ค่อนข้างเร่งด่วน งานอะไรก็ได้ทั้งนั้น ฉันทนลำบากได้ ทำความสะอาดห้องน้ำก็ได้ เธอก็รู้ว่าเพื่อนในห้องไม่ค่อยชอบฉัน ฉันก็ไม่อยากรบกวนพวกเธอ แค่คิดว่าเธออาจจะรู้จักเพื่อนอยู่บ้าง”
“เธอจะเอาเงินไปทำอะไร?” หวาเหวินถามตรงๆ เพราะเธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตั้งใจทำให้อวู๋ผิงได้รางวัลก็ทำให้เธอได้เงินไปสองหมื่นแล้ว