ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 25
ตอนที่ 25 ใจไม่ยินยอม
เซี่ยเจ๋อจ้วนตกตะลึงไปหลายสิบวินาที จึงเอ่ยด้วยความสับสน “นายล้อผมเล่นใช่ไหม?”
“ชายเซี่ยพูดเล่นแล้ว แต่ไรมาผมก็ไม่เคยล้อเล่น โดยเฉพาะกับคนที่ไม่สนิท”
คำพูดนี้ของเจียงหยู่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด ข้อแรกคือตนไม่ชอบพูดเล่น ข้อสอง ในความเป็นจริงแล้วตนกับเซี่ยจื๋อจ้วนไม่สนิทกัน
“จะ จะเป็นไปได้อย่างไร?”
ความแตกต่างนี่มากเกินไป เซี่ยจื๋อจ้วนไร้ความสามารถที่จะปรับตัวได้ให้ทันท่วงที
เนื่องด้วยในใจเขา คุณหนูห้าตระกูลหวาผู้นั้น เล่าลือกันมาว่าหน้าตาน่าเกลียด พูดจาติดอ่าง เป็นเด็กสาวที่คนในตระกูลหวาก็ยังไม่อยากพบ
ตอนแรกที่พูดถึงงานแต่งเชื่อมสัมพันธ์ ให้เขาตายก็ไม่ยินยอม
ในภายหลังบิดาเขายังบอกอีกว่าดูเหมือนตระกูลหวามีที่ดินผืนหนึ่งอยู่ที่หนานเฉิง(เมืองหนาน) ตระกูลหวายังรับปากว่าจะส่งสินสอดเจ้าสาวสมน้ำสมเนื้อให้กับตระกูลเซี่ย
ที่ดินผืนนั้นถึงแม้มูลค่าจะใช่ว่ามากมายเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากทำเลที่ตั้งนั้นเป็นพื้นที่พัฒนาซินเฉิงเขตใต้ ดังนั้นคนตระกูลเซี่ยจึงมีแนวโน้มที่ดี
บิดาของเซี่ยเจ๋อจ้วนต้องการจะสร้างย่านชุมชนชั้นสูงระดับโลก บังเอิญว่าที่ดินตระกูลหวาผืนนั้นด้านหลังเป็นภูเขา และด้านหน้าเป็นทะเลสาบเซียนหนี่ว์
ดูจากฮวงจุ้ยแล้ว เป็นสถานที่ดีเยี่ยมอย่างยิ่ง
บิดามารดายืนกรานเห็นชอบกับเรื่องงานแต่ง ด้วยเหตุนี้ในวันนั้นเซี่ยจื๋อจ้วนจึงหลบหนีการแต่งงาน กลายเป็นตลกร้ายฉากหนึ่ง
เขาไหนเลยจะคิดถึงว่าคุณหนูห้าตระกูลหวา ไม่เพียงไม่อัปลักษณ์ อีกทั้งโฉมหน้ายังดุจล่มเมือง
“คุณเซี่ย ถ้าหากไม่มีธุระแล้ว โปรดหลีกทางสักครู่ ผมกับภรรยาต้องการรับประทานอาหาร”
เจียงหยู่ออกคำสั่งไล่แขก
เซี่ยจื๋อจ้วนจ้วนออกจากห้องส่วนตัวลงมาชั้นล่างด้วยอาการสับสน ขณะกลับถึงรถยังรู้สึกจิตใจเหม่อลอย
หลังจากเซี่ยจื๋อจ้วนกลับไป เจียงหยู่ก็หยิบเมนูอาหารส่งให้กับหวาเหวิน
“อาหารร้านนี้สดใหม่ทุกอย่าง คุณอยากทานอะไรสั่งเองได้เลย”
หวาเหวินหยิบเมนูอาหารดูผ่านตา “ผัดกวางตุ้งจานค่ะ”
เจียงหยู่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ดูความจำผมสิ ลืมว่าคุณไม่ทานเนื้อ ทานแต่ผัก ถ้าไม่งั้นพวกเราเปลี่ยนร้านกันเถอะ”
“ไม่จำเป็น ที่นี่ก็ค่อนข้างดีค่ะ” หวาเหวินเองก็ขี้คร้าน
เจียงหยู่กวาดสายตาเมนูผัก จึงสั่งเพิ่มมาอีกหลายอย่าง หลังจากนั้นจึงส่งคืนให้พนักงาน
หลังจากพนักงานบริการออกไปจากห้องส่วนตัว เจียงหยู่จึงเป็นฝ่ายเริ่มรินน้ำอุ่นให้หวาเหวินแล้วดันแก้วไปตรงหน้าเธอ
“ขอบคุณค่ะ” เธอเฉยชา
“คนเมื่อสักครู่….ก็คือเซี่ยจื๋อจ้วน คุณคงเคยพบเขาครั้งแรกสินะ?”
เจียงหยู่คาดเดา หวาเหวินนิสัยเฉยชาขนาดนี้ คาดว่าก่อนแต่งคงไม่เคยพบเซี่ยจื๋อจ้วนเลยสักสักครั้ง
โดนเขาเดาถูกจริงๆ เป็นความจริงที่ไม่เคยพบมาก่อน
แต่เกี่ยวกับที่เซี่ยจื๋อจ้วนเป็นคนแบบใด หวาเหวินรู้ชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่ในใจ
“ใช่ค่ะ”
“มีความคิดเห็นอะไรไหมครับ?” เจียงหยู่ถามเธอ
ดูเหมือนจะเป็นการทดสอบความประทับใจแรกที่มีต่อเซี่ยจื๋อจ้วน
แต่หวาเหวินหัวโบราณขนาดนั้น บางทีอาจจะไม่เต็มใจบอกความคิดเห็น
เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าเธอจะบอกจริงๆ
เธอดื่มน้ำอุ่นอึกเล็กๆ ให้ความคิดเห็นออกมาสี่คำ….คนเป็นดั่งชื่อ(ถ้าจะดูคนให้ดูที่ชื่อ)
เมื่อเจียงหยู่ได้ฟัง อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากอีกครั้ง
ในใจคิดกำลังว่าสะใภ้บ้านเราปากคอเราะร้ายเสียจริง
คนเป็นดั่งชื่อ นี่เป็นคำที่ดี
แต่พอเป็นเซี่ยจื๋อจ้วนมันก็ไม่ใช่แล้ว เขากระทำตัวเป็นเพลย์บอยมาโดยตลอด มักขึ้นหัวข่าวบันเทิงอยู่บ่อยๆ
ถ้าไม่แอบคบอยู่กับดาราหญิงคนนี้ ก็ต้องค้างแรมกับดาราหญิงคนนั้น
ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงเขาจึงย่ำแย่มากมาตลอด
หวาเหวินกล่าวว่าคนเขาเป็นดั่งชื่อ คงจะเป็นการบอกว่า เป็นเช่นเดียวกับข่าวลือภายนอก ไม่ใช่ตัวดีอะไร
แต่ กระทั่งการด่าคนยังด่าแฝงความหมาย กลั่นเกลาออกมาได้อย่างประณีต….
เจียงหยู่รู้สึกว่า ยิ่งนับวันก็ยิ่งชอบภรรยาตัวน้อยคนนี้แล้วสิ
ภายในเฟอร์รารีสีแดง
เซี่ยจื๋อจ้วนใจไม่ยินยอม หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “เดท ช่วยฉันตรวจสอบคนหนึ่ง คุณหนูหาตระกูลหวา ลองหาให้ฉันหน่อย ขอข้อมูลรูปถ่ายตั้งแต่เล็กจนโต ฉันต้องการทุกอย่าง”
“ชายเซี่ย นายนี่ยังไงกัน?” พรรคพวกด้านข้างยากที่จะทำความเข้าใจ
ก่อนหน้านี้คนก็ส่งเข้างานแต่ง นายก็ไม่เอา ตอนนี้คนเขาแต่งกับเจียงหยู่ไปแล้ว นายกลับจะมาสนใจ
–อัพเดทครั้งต่อไป 21/12/2019–