ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 265
ตอนที่ 265 ไม่มีผู้สืบทอด
อาการป่วยของหวาฟ้าน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหัน ถึงแม้ว่าหวาเหวินจะตอกกลับพี่รองหวาหรุงด้วยความโกรธในที่ประชุมกับตระกูลหวาก็ตาม แต่กลับเปลี่ยนแปลงวิธีคิดที่มีแต่ความโลภอยู่ในใจเธอไม่ได้
หลังจากที่หวาหรุงกลับมาจากที่ทำงาน ก็เอาแต่แสดงสีหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ตลอดเวลา สามีของเธอ หลิวยู่โจวเองก็หน้าชื่นอกตรม ในใจขุ่นเคืองแต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากออกมา
หลิวยู่โจวดูมีพลังออร่าอยู่ไม่น้อย รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาใช้ได้ มีบุคลิกคงแก่เรียน ตอนที่พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ เขาไม่ใช่คนที่ปฏิบัติในทางที่มิชอบ และไม่มีมาดขรึมของตระกูลรุ่นสองแต่อย่างใด แต่กลับเป็นคนที่มีความสามารถปราดเปรื่อง เป็นวิศวกรชาย ปัจจุบันนี้ทำงานอยู่ในสถาบันวิจัย เข้าร่วมการวิจัยออกแบบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
หวาหรุงและหลิวยู่โจวแต่งงานกันได้ไม่กี่ปี พ่อสามีก็มาป่วยตายจากไป เธอจึงไม่ได้สนใจผู้ชายคนนี้อีก จนกระทั่งมีข้อจำกัดในการร่วมเตียงกัน
ตระกูลหวามีกำลังไม่มากพอ ถึงแม้ว่าพวกเธอจะมีพี่น้องกันถึง 5 คนด้วยกันก็ตาม แต่รุ่นต่อไปกลับไร้ความหวังอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้ตระกูลหวามีหลานสาวแค่เพียงคนเดียว นั้นก็คือลูกสาวของพี่ใหญ่หวาซวงและสามีของเธอหลิวเด๋อข่าย ซึ่งก็อายุ 8 ขวบแล้ว เพราะหลิวเด๋อข่ายแต่งเข้ามา ดังนั้นลูกสาวจึงต้องใช้นามสกุลของผู้เป็นแม่ ซึ่งเธอมีชื่อว่า หวาเสี่ยวหาน แต่โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายก็คือร่างกายของหวาเสี่ยวหาน ไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก ๆ มักจะเป็นหวัดอยู่บ่อยครั้ง จนกลายมาเป็นแขกประจำของโรงพยาบาลไปโดยปริยาย เด็กคนนี้ไม่ชอบพูด อาจจะเป็นเพราะว่าความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเข้มงวดของแม่ ดังนั้นจึงค่อนข้างเงียบขรึมมาตั้งแต่เด็ก ๆ คุณย่าของเธอพาไปเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ๆ หลังจากที่เข้าเรียนแล้วจึงค่อยพากลับมาอยู่ข้างกาย
จะว่าไปแล้ว ถึงแม้จะบอกว่า หวาเสี่ยวหานเป็นหลานเพียงคนเดียวของตระกูลหวาในตอนนี้ก็ตาม แต่เธอกลับไม่ได้รับความสนใจจากตระกูลหวาเท่าไหร่นัก ขนาดปู่กับย่าของตระกูลหวาเองก็ยังคิดว่าเธอนั้นเป็นเด็กที่เลี้ยงยาก จึงไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร่โปรดปรานเท่าไหร่นัก
ดังนั้นหวาหรุงจึงคิดมาตลอดว่าถ้าเธอให้กำเนิดลูกชาย ทรัพย์สมบัติในอนาคตทั้งหมดของตระกูลหวา ก็จะเข้ากระเป๋าของเธอเองได้อย่างง่ายดาย
มีเรื่องหนึ่งที่เธอสู้พี่ใหญ่ไม่ได้ หลังจากแต่งงานกันมาหลายปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะตั้งครรภ์เลยสักนิด ตอนแรกคิดว่าเป็นปัญหาที่สามี แต่ต่อมาหลังจากที่ตรวจอย่างละเอียดแล้วพบว่ารังไข่ของเธอนั้นอุดตัน ปัญหาอยู่ที่เธอเอง อีกทั้งโอกาสในการตั้งครรภ์ก็ค่อนข้างต่ำมากด้วย จำนวนไข่ก็ไม่ได้ตามต้องการ จะทำเด็กหลอดแก้วก็ไม่มีความหวัง
เรื่องนี้ได้สร้างความเจ็บปวดแก่หวาหรุงมาโดยตลอด ไม่มีลูก ก็ไม่มีผู้สืบทอด เธอสร้างเงินได้ตั้งมากมายขนาดนี้ แล้วจะโอนถ่ายให้กับใครละ?
ถ้า…..หวาผิง หวาฟ้าน แต่งงานออกเรือนกันไป ทุกคนก็จะให้กำเนิดเด็กผู้ชายกัน ไม่ใช่เธอเหรอที่เสี่ยงที่สุด?
เมื่อคิดได้ หวาหรุงก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที เธอนั่งสูบบุหรี่อยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำในห้องรับแขก
“เสี่ยวหรุง เธอสูบให้มันน้อยลงหน่อยเถอะ มันไม่ดีต่อร่างกาย” เมื่อหลิวยู่โจวเห็นหวาหรุงสูบบุหรี่ ก็ห้ามปรามขึ้นมา
หวาหรุงกลอกตาไปทางสามี “ร่างกายดีแล้วยังไง? ยังไงมันก็คลอดลูกไม่ได้ ฉันอ่าเกลียดตัวเองที่สุดเลย ฉันไปทำกรรมอะไรกับใครกันนะ ? เรื่องง่าย ๆ แค่คลอดลูกเนี่ย ฉันก็ยังทำไม่ได้?”
“เรื่องลูกมันแล้วแต่โชคชะตา เธออย่ากดดันตัวเองเลยนะ ฉันไม่มีทางทิ้งเธอไปหรอก” เสียงของหลิวยู่โจวนั้นค่อนข้างต่ำ แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เมื่อเขาพูดแบบนี้ หวาหรุงก็ยิ่งขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
มือที่คีบบุหรี่ได้ชี้ไปทางเขา “นายอยากจะทิ้งฉัน? ตลกไปป่ะ? หลังจากที่พ่อนายตายไป ….. ตระกูลหลิวของพวกนายก็กลายเป็นดั่งสุภาษิตที่ว่าเมื่อต้นไม้ล้ม ลิงบ่างก็กระจัดกระจาย ญาติสนิทมิตรสลายก็พากันตีตัวออกห่าง ตอนที่แม่นายนอนโรงพยาบาลฉันก็เป็นควักเงินจ่าย ฉันดูแลทั้งคนแก่และเด็ก พวกนายเป็นหนี้ชีวิตฉัน ยังกล้าทิ้งฉันอีกเหรอ?”
“ใช่ เธอต้องเหนื่อยลำบากมาหลายปี ฉันเองก็จะพยายามให้มากขึ้น” ถึงแม้จะบอกว่าหลิวยู่โจวดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรก็ตาม แต่ก็เขาก็หวานอมขมกลืนไม่น้อย
“นายขยันไปก็ไร้ประโยชน์ ถึงแม้ว่าในตอนสุดท้ายนายจะได้นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัย ถึงตอนนั้นเงินเดือนของนายจะเพิ่มเป็นห้าแสนกว่าไปแล้วก็ตาม แต่ยังไงมันก็ยังไม่พอค่ากระเป๋าแอร์เมสของฉันหรอก เก็บไว้เถอะ อย่าทำให้เสียหน้าเลย”
เมื่อพูดจบ หวาหรุงก็หมุนตัวเดินขึ้นชั้นบนไป ไม่สนใจเขาอีกแต่อย่างใด หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป หวาหรุงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าแต่งตา แล้วออกไปหาความสุขนอกบ้าน
สามีของเธอรู้ว่าการที่เธอออกไปเที่ยวข้างนอกแบบนี้ย่อมมีผู้ชายเข้ามายุ่มย่ามอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่กล้าถาม ถึงอย่างไร………..ที่หวาหรุงพูดก็ถูก หลังจากที่พ่อของเขาตายไป ความเละเทะในบ้านมากมายก็ฝีมือของภรรยาที่เข้ามาช่วยจัดการให้ พวกเขาทั้งสองไม่ได้เป็นสามีภรรยาเหมือนคู่อื่น ๆ ดูเหมือนว่าคู่ของพวกเขาจะถูกของเหล่านี้กักขังเอาไว้ให้อยู่ด้วยกัน ซึ่งรวมไปถึงคุณธรรม เงินทอง สิทธ์ การพึ่งพากันและกัน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือความรักระหว่างสามีภรรยา
ความกังวลของหวาหรุงก็คือความเจ็บปวดของหวาซวง หลังจากที่เธอเลิกงานกลับบ้าน ก็เห็นลูกสาวผู้อ่อนแอฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะทำการบ้าน เธอจึงได้แต่ทอดถอนใจออกมาเล็กน้อย “เสี่ยวหาน ความปรารถนาเดียวของเขาไม่มีอีกแล้ว จะทำยังไงกันดี?”
“ไม่เป็นไร ที่รัก พวกเราก็รีบเกิดลูกชายออกมาคนหนึ่ง” หลิวเด๋อข่ายช่วยนวดหลังให้กับภรรยาสุดที่รัก อย่างแนบชิด