ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 274
ตอนที่ 274 หน้าที่ของความรัก
เมื่อป๋ายห้าวได้ยินก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมาทันที เขารู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อย
“เสี่ยวหลิน ฉันไม่มีทางเสียใจแน่นอน จริง ๆ นะ เธอให้โอกาสฉันสักครั้ง ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง เราจะเผชิญหน้าไปด้วยกัน”
หวาฟ้านรู้สึกสับสนอยู่ในใจมากทีเดียว เธอชอบป๋ายห้าว และก็อยากจะแต่งงานกับเขา
ดังนั้นก่อนหน้าเธอจึงได้ร้อนใจอยู่หลายครั้ง ต่อให้ต้องทะเลาะกัน ก็จะต้องเจอหน้ากันสักครั้งให้ได้ ดีกว่าแกล้งเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน
แต่ตอนนี้ หลังจากที่ได้รู้อาการป่วยของตัวเอง หวาฟ้านรู้สึกท้อใจขึ้นมาทันที
สามารถทำให้รู้สึกท้อใจขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าผลตรวจจะยังไม่ออกมา แต่เธอก็คิดในทางที่ไม่ดีไปแล้ว
ดังนั้นด้วยความที่เธอนั้นชอบป๋ายห้าว ถึงไม่อยากเป็นภาระเขา แต่เธอก็ไม่อยากให้ป๋ายห้าวต้องเสียชื่อเสียงหลังจากที่ตัวเองตายจากไป
ดังนั้นหลังจากที่คิดทบทวนดีแล้ว เธอจึงโยนแหวนนั้นไป
“ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับนาย แหวนวงนี้เล็กเกินไป ไม่เหมาะสมกับสถานะคุณหนูผู้มั่งคั่งอย่างฉันหรอก”
เมื่อพูดจบ หวาฟ้านก็เมินหน้าหนีป๋ายห้าวทันที
ป๋ายห้าวกลับยังอยู่ที่เดิม เขารู้ว่าตอนนี้หวาฟ้านตั้งใจจะพูดยั่วโมโหเขา ต้องการให้เขาถอยออกไป
ดังนั้นเขาจึงเก็บแหวนขึ้นมา แล้วช่วยใส่ให้กับเธอ “ถึงจะเล็กหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไร ฉันจะพยายามหาเงินมาเปลี่ยนให้ใหญ่กว่าเดิม เมื่อก่อนฉันจะไม่ชอบทำงานพาร์ทไทม์เลย เป็นเพียงแค่ตำรวจที่ไม่มีความคิดที่จะก้าวหน้า เอาแบบนี้ไหม หลังจากนี้ฉันจะไปหางานพาร์ทไทม์พิเศษทำหลังเลิกงาน และจะเลี้ยงดูเธอให้ได้”
ในที่สุดหวาฟ้านก็กลั้นไม่อยู่อีกต่อไป น้ำตาของเธอร่วงลงมา…..
เธอปวดใจ และปลาบปลื้มใจ
เหตุที่เธอปวดใจก็คือ เธอได้รับช่วงเวลาแห่งความสุขก็ตอนอยู่ในสถานการณ์นี้ และก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะเป็นยังไง?
ส่วนเรื่องที่เธอปลาบปลื้มใจก็คือ ตัวเองมองคนไม่ผิด ป๋ายห้าว เป็นคนที่เธอสามารถฝากฝังไปชั่วชีวิตของเธอได้ ซึ่งสังคมในความเป็นจริง ผู้ชายโดยส่วนใหญ่เมื่อรู้ว่าแฟนสาวป่วยด้วยโรคร้าย จะต้องเผชิญหน้ากับค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างมีราคาสูงและอาการของโรค ก็มักจะเลือกทอดทิ้งเธอไป แต่ป๋ายห้าวกลับมาอยู่กับเธอในช่วงเวลานี้ ต่อให้เป็นภาระสำหรับเขา แม้ว่าคู่สมรสจะต้องตาย เขาก็ยังเลือกที่จะอยู่
“อย่าร้องเลย ผลตรวจยังไม่ออกมาเลย เธอเป็นคนจิตใจดี ไม่น่าจะต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างเธอ ตราบใดที่เธอยังไม่ทอดทิ้งฉันก็ยังจะเป็นคนธรรมดาแบบนี้ต่อไป”
น้ำเสียงของป๋ายห้าวอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วินาทีที่ซื้อแหวน เขาตัดสินใจดีแล้ว
เขาเชื่อว่าตัวเองจะสามารถโน้มน้าวพ่อกับแม่ได้ ต่อให้หวาฟ้านเป็นมะเร็งปอดจริง ๆ มีชีวิตอยู่ได้แค่ครึ่งเดือนก็ตาม เขาก็จะไม่มีวันเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง
หวาฟ้านมองไปทางผู้ชายที่ตัวเองรักสุดหัวใจทั้งน้ำตา ด้วยหลากหลายความรู้สึก
“ป๋ายห้าว ฉันไม่อยากได้ความเห็นใจจากนาย นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะ”
“ไม่ ไม่ใช้เพราะเห็นใจ นี่เป็นหน้าที่ของฉัน หน้าที่ของความรัก มันเป็นหน้าที่แสนหอมหวาน เสี่ยวหลิน ฉันมันโง่เอง ฉันพูดคำเพราะ ๆ น่าฟังไม่เป็น แต่ฉันเชื่อว่าเธอรู้ และสัมผัสมันได้ ฉันรักเธอ รักเธอมาก ที่แท้ฉันมันก็แค่ไอคนขี้ขลาด หลังจากนี้…… ฉันจะไม่วิ่งหนีอีกแล้ว …….ไม่วิ่งหนีอีกแล้ว”
ป๋ายห้าวยังคงเสียใจที่เมื่อก่อนเอาแต่ยึดมั่นถือมั่นในศักดิ์ศรีอันน่าสงสารเหล่านั้น จนต้องทอดทิ้งหวาฟ้านไป
เกือบจะทำลายโอกาสสุดท้ายที่เธอมี
หวาฟ้านถอนหายใจออกมายาว ๆ สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรอีกไม่ได้ตอบรับป๋ายห้าว แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ตอนที่ ป๋ายห้าวเดินออกมา หวาฟ้านได้หลับเพราะฤทธิ์ยาแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลา ตี 1 แล้ว หวาเหวินก็ยังคงอยู่ เธอนั่งรออยู่บนม้านั่งหน้าประตู ชุนเถาก็ยังอยู่ข้างกายเธอตลอด
“หวาเหวิน ขอบคุณมากนะ ผมขอแต่งงานหล่อนสำเร็จแล้ว”
หวาเหวินตกใจเล็กน้อย…
“ผมซื้อแหวนมาให้ขอหล่อนแต่งงาน ผมขอหล่อนแต่งงานได้แล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ไม่ว่าจะโดนปฏิเสธเท่าไหร่ ผมก็จะต้องแต่งงานกับหล่อนให้ได้ ถึงผมจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ต้องมากังวลใด ๆอีกตลอดชีวิต มันจะไม่เกิดข้อผิดพลาดอีกแล้ว”
การกระทำในครั้งนี้ของป๋ายห้าว ทำให้หวาเหวินเปลี่ยนความคิดใหม่
“ดี ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวเองคะ” หวาเหวินตอบได้เพียงแค่ประโยคสั้น