ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 281
ตอนที่ 281 แสร้งทำดีให้ตายใจ
ได้ยินหวาผิงพูดอย่างนี้ หวางเซียวอี้ก็เกาหน้าผากยิกๆ ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆออกมา พูดตามความจริง ด้วยช่วงเวลาเหล่านี้ เขาก็รู้จักนิสัยของหวาผิงเป็นอย่างดีแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ดูท่าทางแข็งแกร่ง แต่จริงๆแล้วในบางเวลาก็เหมือนกับเด็กที่ไร้เดียงสา ดังนั้นทำพฤติกรรมท่าทางอย่างนี้ออกมา จึงพอจะเข้าใจได้
“คะ?”
ได้ยินหวาผิงพูดอย่างนี้ ผู้หญิงคนนั้นจึงมองไปที่หวางเซียวอี้
“พวกฉันยังมีธุระ คุณหลบไปก่อนได้ไหม?”
หวางเซียวอี้มองหวาผิง ถ้าไม่ได้พูดก็ไม่เป็นไร แต่พูดแล้วหวาผิงก็ยังไม่ไปอีก กลับนั่งลงข้างกายหวางเซียวอี้ทันที
จากนั้นก็ดึงแขนของเขาอย่างสนิทสนม “ที่รัก ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ไม่สามารถคุยกันต่อหน้าฉันได้ วันนั้นที่ไปกินข้าวที่บ้านคุณ คุณย่าก็กำชับเอาไว้แล้ว ต่อไปไม่ว่าคุณมีเรื่องอะไรก็ห้ามปิดบังฉัน หากว่าคุณรังแกฉัน ฉันก็จะฟ้องคุณย่า”
อะไรเนี่ย คุณย่าๆทุกคำ เรียกอย่างสนิทสนมเหลือเกิน อย่างนี้หวางเซียวอี้ก็ลุ่มหลงแล้ว เป็นนักแสดงอย่างสมภารภูมิ แสดงเก่งจริงๆ
“คุณแน่ใจว่าอยากจะฟัง?”
“อืม แน่ใจสิ” หวาผิงพยักหน้าด้วยความดีใจ ในใจก็คิดว่า ตาบ้านั่นเห็นฉันไม่ก่อกวนงานแต่งของนาย นายคงโมโหจะแย่แล้วล่ะสิ
“ก็ได้ ตามใจคุณแล้วกัน คุณจ้าวพวกเราเริ่มกันเลย”
หลังจากผู้หญิงคนนั้นได้สติกลับมา ก็หยิบซองเอกสารออกมา ส่งให้หวางเซียวอี้
“นี่เป็นโครงการที่พวกเราจัดเตรียมไว้ในตอนนี้ เนื่องจากเวลาที่เร่งรัดจึงทำได้เพียงเท่านี้ค่ะ หากประธานหวางดูแล้วคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ฉันจะให้คนมาดำเนินการเพิ่มเติมข้อมูลอย่างละเอียดต่อไป หลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแก่คุณค่ะ”
“ได้ ฉันขอดูสักหน่อย”
หวางเซียวอี้รับเอกสารมา ดูอย่างตั้งใจ
หวาผิงเพ่งมอง บนเอกสารเขียนไว้ว่า——เอกสารวางแผนปรับปรุงและปฏิรูปของบริษัทลี่ย่าที่มีต่อด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในโครงการทะเลสาบของบริษัทหวางซื่อ
“เอ่อ พวกคุณคุยเรื่องงาน?”
หวาผิงทำตัวไม่ถูก เธอใจจดใจจ่อคิดว่านี่เป็นคู่ที่หวางเซียวอี้นัดหมายเอาไว้ ถึงขั้นคิดว่าเป็นหยางห้วนห้วนอะไรนั่น
แต่ก็ชัดเจนว่าเธอไม่ได้แซ่หยาง แล้วเมื่อครู่ได้ยินผู้หญิงคนนั้นเรียกหวางเซียวอี้ว่าประธานหวาง ความหมายก็คงไม่ได้สนิทกันมากสินะ
หลังจากนั้นหยิบเอกสารการวางแผนออกมา หรือนี่จะเป็นหุ้นส่วนที่ทำงานด้วยกัน? ฉันอยากจะบ้า……
“ใช่ ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่น่าเบื่อ จะนั่งต่อไปก็ได้ ถึงอย่างไรก็ไม่ได้เกะกะอยู่แล้ว” หวางเซียวอี้พลางดูเอกสารพลางพูดไปด้วย
“แหะๆ อย่างนั้นฉันไม่รบกวนแล้วกัน ฉันก็ยังมีธุระอีกนิดหน่อย”
หวาผิงแค่เห็นว่าแผนการไม่สำเร็จ จึงรีบร้อนลุกขึ้นวิ่งออกไป
หลังจากหวาผิงไปแล้ว คุณจ้าวยังถามต่อ “ประธานหวาง ดาราดังหวาผิงเป็นแฟนของคุณจริงๆหรือคะ? ทำไมถึงไม่ได้ยินสื่อต่างๆพูดถึงเลย ช่วงก่อนยังเห็นมีข่าวใหม่บอกว่าเธอกับประธานแซ่……”
“ข่าวสมัยนี้มีเรื่องจริงสักกี่เรื่องที่เชื่อถือได้?” หวางเซียวอี้ยิ้ม
หญิงสาวรู้สึกตัวอย่างทันที “ค่ะๆๆ ประธานหวางพูดถูก ฉันเข้าใจอย่างตื้นเขินไปแล้ว”
หลังจากหวาผิงกลับไป ก็คุยงานกับผู้จัดการต่อ แต่ใจกลับไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย กวาดสายตาไปทางฝั่งนั้นอยู่บ่อยๆ
จนกระทั่งตอนที่หวางเซียวอี้กับผู้หญิงคนนั้นคุยงานเสร็จ หญิงสาวเดินออกไปก่อน และหลังจากที่หวางเซียวอี้คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วลุกขึ้น
“หวางเซียวอี้ คุณหยุดก่อน” หวาผิงตะโกนหยุดเขาไว้
“มีเรื่องอะไรหรือ?”
“คุณตั้งใจเมินฉัน จะแสร้งทำเป็นใจดีเพื่อควบคุมฉันทีหลังสินะ คุณอย่าคิดว่าฉันจะไม่เข้าใจทางมุกของคุณนะ ฉันไม่ชอบ ความคิดของคุณในจุดนี้ฉันว่ามันไม่มีประโยชน์”
“แสร้งใจดีเพื่อควบคุมหรือ? คุณคิดมากจริงๆ แต่ถ้าคุณคิดอย่างนั้นก็ตามนั้นแหละ ยังมีเรื่องอีกไหม ถ้าไม่มีฉันจะไปแล้ว”
“มี เอาใบเสร็จมาสิฉันจ่ายให้เอง” หวาผิงวางอำนาจอย่างมาก
จริงๆน้ำชายามบ่ายทั้งหมดก็ไม่เท่าไหร่หรอก เธอแค่อยากจะหาเรื่องทะเลาะเท่านั้นเอง
“คิดเงินไปแล้ว” เขาวางตัวเฉย
หวาผิงทำตัวไม่ถูกนิดหน่อย “เฮอะ แค่จ่ายเงินก็ไม่ได้ ทำบัตรให้ฉันสักใบก็แล้วกัน”
“นี่ให้คุณ” หวางเซียวอี้หยิบแบล็กการ์ดของโรงแรมนี้ออกมาจากกระเป๋าที่หน้าอกเขา
ผู้ถือบัตรนี้จะได้รับส่วนลดสูงสุดและบริการของแบล็กการ์ดที่ยิ่งกว่าทรงเกียรติ เงินไม่ใช่ตัววัดระดับแล้ว นี่เป็นสัญลักษณ์ของฐานะทางสังคมต่างหาก
“นี่ก็ยังพอใช้ได้” หวาผิงรับไปด้วยความชื่นมื่น จริงๆเธอมีเงิน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ได้ยึดสิ่งของของหวางเซียวอี้แล้ว เธอก็รู้สึกสบายใจ
เมื่อครู่ที่รับบัตรมา ยังไม่ทันได้มีการตอบสนอง หวางเซียวอี้ก็โอบหัวของหวาผิงเข้ามาทันที จุ๊บลงไปที่หางตา
หวาผิงตกตะลึงอยู่ตรงนั้น……ที่นี่มันภัตตาคารน้ำชายามบ่ายนะ แล้วยังมีลูกค้าอีกตั้งมากมาย?
หวางเซียวอี้อยากตาย หรือจะเป็นบ้ากันแน่?