ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 288
ตอนที่ 288 ตื่นตระหนกตกใจ
หยินซิ่งพยักหน้าทันที “ใช่ค่ะ ฉันก็ประหลาดใจ คุณว่าของดีๆของพวกเราที่นี่ก็ไม่น้อยเลย หยกเอย แจกันเอย……แต่เขากลับซื้อพัดเก่าๆขาดๆเล่มหนึ่งเสียได้ พัดเล่มนั้นฉันว่ามันก็ใกล้จะขาดหมดแล้ว ลักษณะไม่แข็งแรงเลย คุณผู้หญิงคะ คุณว่า อีกเดี๋ยวเขาจะกลับมาหาพวกเราไหมคะ แบล็กเมล์พวกเรา บอกว่าพวกเราเป็นพวกต้มตุ๋นไหมคะ?”
หยินซิ่งกังวลใจจริงๆ ก็ยังคงรู้สึกกลัวว่าเขาจะกลับมาหา ซื้อพัดพังๆเล่มหนึ่งด้วยเงินห้าหมื่น ไม่ได้โดนหลอกลวงจริงๆใช่ไหม?
“ไม่หรอก เขาได้กำไรแล้ว จะกลับมาหาพวกเราได้อย่างไร?” หวาเหวินยิ้ม
“คะ? ได้กำไร?”
“อืม พัดสมปรารถนาของฉันเล่มนั้น หากได้รับการวินิจฉัยสินค้า สองแสนก็ไม่ใช่เรื่องยาก แน่นอนว่า……คนที่เห็นคุณค่าอย่างแท้จริงมีไม่มาก ดังนั้นฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะขายจริงๆ ราคาห้าหมื่นที่ติดเอาไว้คิดว่าจะได้วางเอาไว้อย่างนั้น หากได้เจอคนที่ดวงสมพงศ์กันค่อยว่ากันอีกที ไม่คิดเลยว่าจะขายออกได้เร็วขนาดนี้”
“คุณพระ……ก็ได้ค่ะๆ โลกของเศรษฐีพวกเราไม่เข้าใจหรอก”
หยินซิ่งอยู่กับหวาเหวินมานานแล้ว แต่เธอกับชุนเถาล้วนไม่มีพรสวรรค์เหมือนกันทั้งคู่
ไม่ว่าคุณผู้หญิงจะสอนอย่างไร ก็ไม่เข้าใจสิ่งของเหล่านี้เลย ถึงตอนนี้ของจริงหรือของเลียนแบบ ยังคงแยกไม่ออก
ดังนั้นหวาเหวินก็เลยเอาเรื่องการรับซื้อพวกนี้ไปให้อวู๋ผิงจัดการ อวู๋ผิงเป็นนักเรียนเกียรตินิยมของสาขาประวัติศาสตร์ สายตาเฉียบคมมากจริงๆ
แล้วยังช่วยเธอหาสิ่งของที่คุณภาพไม่เลวได้บ้างอีกด้วย
นึกถึงพัดเล่มนั้น หวาเหวินเพียงแค่ยิ้มไม่พูดอะไร
หยินซิ่งชงชามะลิมาให้หวาเหวินถ้วยหนึ่ง เจ้านายและสาวใช้ก็อยู่ในร้านเล็กๆนี้ นั่งพักกันสักครู่
พัดเล่มนั้นพูดขึ้นมายังคงมีความเป็นมาเล็กๆส่วนหนึ่ง คือมีอยู่ปีหนึ่งเธอกับคุณย่าตอนที่ไปสักการบูชาที่วัดแห่งหนึ่ง เดินผ่านบ้านพักที่อยู่ตีนเขาโดยบังเอิญ ในบ้านพักมีคุณย่าคนหนึ่ง ในมือกำลังถือพัดเล่มนี้ แค่หวาเหวินได้เห็นก็ชอบมาก จึงซื้อมาด้วยเงินสามหมื่นหยวน แล้วก็ถือเล่นมาโดยตลอด จริงๆพัดเล่มนี้ดูแล้วก็ขาดๆเก่าๆ แต่วัสดุที่ใช้ทำกลับเป็นงานฝีมือจากไม้ไผ่ที่หายากที่สุด งานฝีมือของพัดเล่มนี้คือการนำไม้ไผ่มาเลื่อยเป็นกระบอกตัวไม้ไผ่เลาะเอาปล้องและผิวสีเขียวออกเหลือไว้แต่เนื้อไม้ไผ่ด้านใน หลังจากที่ผ่านกระบวนการต้ม กด ขัดเป็นต้นแล้ว นำไม้ไผ่กับแผ่นไม้มาติดเข้าด้วยกัน ครั้นแล้วก็สลักรูปภาพไว้ด้านบนบางส่วน หวาเหวิน สลักภาพบ่อดอกบัวลงไป พูดตามความจริงฝีมือการแกะสลักธรรมดาๆ แต่เนื่องจากงานฝีมือจากไม้ไผ่ได้หายสาบสูญไปแล้ว ดังนั้นพัดเล่มนี้จึงเป็นของหายาก เพียงแค่คนที่รู้จักก็น้อยมากแล้ว
วันนี้พัดเล่มนี้สามารถขายออกไปได้ จึงมองออกอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่สายตาดีมาก แค่เสียดาย……ที่หวาเหวินไม่ได้เจอกับลูกค้าลึกลับคนนั้น
เวลาเย็นตอนที่กลับมาเฟิงหวาหลี่ เจียงหยู่ก็เพิ่งถึงบ้าน
ยากมากที่จะได้กลับมาเร็ว หลังจากเจียงหยู่เปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านแล้ว ก็เข้าไปอุ้มเสี่ยวเฮยมาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนเป็นประเพณีลูบแมวที่สืบต่อกันมา
หวาเหวินยังคงสงบเงียบมาก หลังจากฝึกเขียนพู่กันอยู่ที่ห้องหนังสือ ก็เลยค่อนข้างเมื่อยล้า
จึงลงมานั่งพิงโซฟาดูโทรทัศน์……
เจียงหยู่ที่กำลังอุ้มเสี่ยวเฮยอยู่รีบเข้าไปใกล้ทันที “เสี่ยวเฮยเหมือนหนักขึ้นไม่น้อยเลย คงไม่ท้องใช่ไหม?”
หวาเหวินมองเจียงหยู่อย่างจำใจ “มันเป็นแมวตัวผู้”
เจียงหยู่: ……
ชุนเถากับหยินซิ่งเกือบจะหัวเราะออกมาแล้ว ในใจก็คิดว่าวิธีการจีบสาวของคุณผู้ชายช่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ น่าขำจะแย่แล้ว
“อ่า อย่างนั้นอาหารของพวกเราที่นี่คงจะอร่อยเกินไปสินะ ทำให้เสี่ยวเฮยกินจนอ้วนเลย อุ้มตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนข้อมือจะหักแล้ว” เจียงหยู่รีบหาหนทางที่ดีขึ้นให้ตนเอง
เวลานี้ ในโทรทัศน์ถ่ายทอดข่าวหนึ่งออกมา “ข้อมูลจากสถานีวิทยุวันนี้ตอนบ่ายเวลา16:50น.ค้นพบศพผู้หญิงร่างเปลือยเปล่าในถังขยะของเขตพัฒนาวิลล่าหนานซี เนื่องจากหน้าตาโดนทำลาย จึงต้องรอยืนยันตัวตน ตำรวจเข้าไปร่วมตรวจสอบแล้ว หากประชาชนคนใดมีเบาะแสต้องการแจ้ง โปรดติดต่อสถานีวิทยุ ในระยะนี้หากผู้ใดมีผู้หญิงข้างกายหายตัวไปก็ขอให้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน”
หวาเหวินกลับสีหน้าสงบนิ่ง เจียงหยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกถึงตอนที่ใกล้จะเลิกงาน คนในบริษัทก็พูดกันถึงเรื่องนี้
“ช่วงนี้เหมือนว่าจะไม่ค่อยปลอดภัย หลังจากฟ้ามืด คุณผู้หญิงทั้งหลายพยายามอย่าออกนอกบ้านนะ”
“คุณผู้ชาย มีฆาตกรโรคจิตใช่ไหมคะ?” หยินซิ่งถามอย่างตื่นตระหนก