ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 3
ตอนที่ 3 สวยโลกละลาย
ขณะที่เจียงหยู่กำลังลังเลว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ก็เห็นหญิงสาวที่สวมใส่ชุดแต่งงานสีขาวเดินเข้ามาหาเขาจากนั้นก็ใช้มือจับผ้าคลุมขึ้นแล้วจูบไปที่ปากของเขาทำให้ผู้คนต่างตกตะลึงกันไปต่างๆนานา
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง
ขนาดเจียงหยู่เองก็ยังนึกไม่ถึง ว่าเขาจะถูกผู้หญิงคนนี้จูบ
จนถึงขั้นไม่รู้ว่าจูบนั่นรสชาติเป็นเช่นไร เธอก็จากไปแล้ว ราวกับว่าเสร็จงานแล้ว
หลังจากนั้นก็ปล่อยมือจากผ้าคลุมทำให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวไม่ทันมองเห็นว่านางหน้าตาเป็นเช่นไร
แบบนี้ เรื่องบ้าบอที่มีความไม่คาดคิดเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าก็สิ้นสุดลงจนได้
เจ้าสาวก็ถูกคนของตระกูลหวาพยุงเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว
เจ้าบ่าวเองก็เดินตามไปติดๆ แต่พอถึงหน้าห้องแต่งตัวก็ถูกห้ามเอาไว้
“คุณผู้ชายคะ”
“ผมมีเรื่องจะคุยกับเธอ” เจียงหยู่พูด
“รอสักครู่นะคะ ให้คุณหนูเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
เจียงหยู่ได้แต่หักห้ามอารมณ์อดทนรอประมาณห้านาทีเห็นจะได้
ประตูห้องแต่งตัวถูกเปิดออก “เชิญค่ะ”
เจียงหยู่สาวเท้าก้าวใหญ่ๆเดินเข้าไป ถึงได้เห็นว่านี่เป็นห้องที่กว้างมากเหมือนกัน
เวลานี้ เจ้าสาวคนนั้นที่เย็นชา ฉลาดเป็นกรดและช่วยตนเองแก้ไขสถานการณ์ได้
ได้เปลี่ยนจากชุดแต่งงานสีขาวมาสวมใส่ชุดราตรีสีแดง
เขาคิดว่าจะเดินไปข้าวหน้าอีกไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงของสาวน้อยคนนั้นพูดขึ้นว่า “ขอบคุณคุณมากสำหรับเรื่องในวันนี้”
“อ้อ แค่ขอบคุณคำเดียวก็จบแล้วหรือ เหมือนว่าผมจะช่วยคุณเอาไว้มากเลยนะ”
วันนี้หากไม่มีเจียงหยู่ช่วย ตระกูลหวาจะต้องกลายเป็นขี้ปากของคนเมืองนี้แน่
ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดในสี่ตระกูลใหญ่แต่วันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำให้เธอไม่ได้ดูดีเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะให้ใครมาเหยียบย้ำศักดิ์ศรีได้
ดังนั้น เจียงหยู่ช่วยเธอเอาไว้ในวันนี้เป็นเรื่องจริง
“ฉันรู้แล้ว กลับไปฉันจะส่งของที่มีค่าไปให้ชิ้นหนึ่ง แสดงความขอบคุณ ขอบคุณที่วันนี้คุณเจียงหยู่ช่วยฉันเอาไว้ ฉันหวาเหวินจะจำเอาไว้ หากวันหน้าต้องการจะให้ฉันช่วยอะไรก็บอก ฉันจะช่วยเต็มที่ คุณเจียงหยู่คิดว่าแบบนี้ดีไหม”
น้ำเสียงของหวาเหวินเพราะน่าฟังมาก ยิ่งพูดก็ยิ่งน่าฟัง
ไม่เสแสร้ง ไม่สำออย ฟังน้ำเสียงแล้วเหมือนกับว่าแฝงไปด้วยความหยิ่งทะนง
ที่ทำให้เจียงหยู่รู้สึกสนใจคือ หวาเหวินเวลาพูดเหมือนผู้หญิงในอดีตพูดเลย ซึ่งการพูดแบบนี้หาได้ยากในยุคสมัยนี้
ดังนั้นเขาจึงได้คิดเรื่องสนุกขึ้นมาทันที “อ้อ งั้นพวกเราสองคนที่สาบานกันในวันนี้ก็โกหกน่ะสิ อย่าลืมนะว่าเมื่อกี้พวกเราสองคนสาบานต่อหน้าแขกพันกว่าคนมาจะอยู่ด้วยกันไปตลอด”
“เรื่องมันเกิดขึ้นกะทันหันเกินไปทำให้ต้องทำแบบนั้นไปก่อน คุณเจียงหยู่เป็นคนฉลาด นี่เป็นเพียงแค่งานแต่งตามพิธีเท่านั้นไม่ได้มีผลอะไรกับกฎหมาย รอให้เรื่องนี้เงียบลง ตระกูลหวาจะขอหย่าเอง พอถึงเวลานั้นจะให้บอกว่าฉันมีนิสัยที่แปลกประหลาดไม่เหมาะที่จะเป็นสะใภ้ตระกูลเจียง จะไม่ทำให้คุณเจียงหยู่เสียชื่อแน่นอน แบบนี้ดีไหม”
ทุกครั้งที่เธอพูดคำว่า ดีไหม ออกมาทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรไหลวนอยู่ในใจของเขา
ความรู้สึกนั้นแปลกประหลาดมาก และยืนอยู่ในระยะห่างแบบนี้มองดูใบหน้าของเธอ ทำให้เขารู้สึกว่าเธอคือหญิงสาวที่สวยงามมากคนหนึ่ง ถึงแม้เขาจะไม่ใช่พวกสายตาดี แต่เขาก็มีความรู้สึกว่านี่สวยมาก
เจียงหยู่ได้ยินดังนั้นก็เอามือขึ้นมาปิดปากหัวเราะแล้วพูดว่า “ยังจะมาบอกว่าไม่ได้ทำลายชื่อเสียงของผมอีก ผมผู้ชายโสดคนหนึ่งถูกคุณมัดจับแต่งงานเป็นสามีคุณแล้วก็หย่า กลายเป็นพ่อหม้าย ความเสียหายนี้ใครจะรับผิดชอบ”
“ฉันบอกแล้วว่าจะส่งของมีค่าไปให้เป็นการตอบแทน ฉันไม่โกหกแน่นอน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“อ้อ ดังนั้นคุณคิดว่า ……..บ้านผมจนมากงั้นหรือ” เจียงหยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ