ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 328
ตอนที่ 328 โลกนี้น่าอยู่ขึ้น
“คืนพรุ่งนี้ฉันอยากชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน”
“หืม? เพื่อนที่ไหน?”
หวาเหวินเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบคบเพื่อนซะเท่าไหร่ ดังนั้นเรื่องที่จะชวนเพื่อนมาที่บ้านนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เธอชินสักเท่าไหร่
“เธอรู้จักทุกคนเลย ก็มีแค่ฉินชุงเจี้ยน เสี่ยวเห้อ หวางเซียวอี้พวกนั้น และแน่นอนว่าเพื่อบรรยากาศที่ครึกครื้น ฉันก็เลยคิดว่าจะชวนหวาผิง และหวาฟ้านแล้วก็ป๋ายห้าวด้วย หวังว่าเธอจะอณุญาตนะ เพราะยังไงเธอก็เป็นเจ้าของบ้าน”
อาจเพราะกลัวว่าหวาเหวินจะไม่เข้าใจ เจียงหยู่ก็เลยเพิ่มอีกประโยคว่า “ตั้งแต่เราแต่งงานกันแล้วย้ายเข้ามา พวกนั้นยังไม่เคยมาเที่ยวเลย ทำให้รู้สึกว่าฉันไม่ยอมให้เพื่อนมาเที่ยวบ้านงั้นแหละ ความรู้สึกแบบนี้มันแปลกมาก”
หวาเหวินคิดอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้า “ได้ ฉันอนุญาต”
“ขอบคุณคุณนายเจียงครับ” เจียงหยู่ดีใจอย่างมาก โผล่เข้ากอดหวาเหวินอย่างลืมตัว แล้วจูบลงบนไอ้ตัวดำขนยาวเบาๆ
แท้จริงแล้ว เขาก็พอจะเดาได้ว่าหวาเหวินจะตอบตกลง เพราะเธอไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักรการสร้างมิตรกับคนอื่น
ถึงแม้เธอจะรักความสงบสุข แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะไม่ต้อนรับแขก
“ว่าแต่เราจะเตรียมอาหารกันยังไง? ฉันไม่เคยต้อนรับเพื่อนเลย……ฉันทำไม่ค่อยเป็น”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ให้ฉันเป็นคนจัดการ”
“งั้นฉันให้ชุนเถากับหยินซิ่งมาช่วยนายนะ สองคนนั้นฝีมือทำอาหารก็ไม่แย่”
“ไม่เป็นไร มันจะยุ่งยากเกินไป เดี๋ยวฉันไปซื้อหม้อไฟกับอาหารทะเลก็ได้แล้ว สะดวกแล้วก็อร่อยด้วย” เจียงหยู่คิดไว้แต่เช้าแล้ว แล้วก็ไม่อยากลากยัยสองคนนั้นมาเหนื่อยด้วย
“ก็ดี” หวาเหวินไม่มีความเห็นอะไร
เพียงเท่านี้ สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันคู่นี้ตัดสินใจเรื่องที่จะชวนเพื่อนมาที่บ้าน เมื่อถึงกลางคืน เจียงหยู่โทรหาพวกเพื่อนๆของเขา
เจียงหยู่ชวนด้วยตัวเอง แน่นอนว่ายังไงก็ต้องมา และที่จงใจเลือกเป็นช่วงกลางคืน ก็เพราะอยากรอให้ทุกคนเลิกงาน จะได้กินอย่างช้าๆไม่ต้องรีบ
หวาผิงและหวาฟ้านมีหวาเหวินที่เป็นคนชวนด้วยตัวเอง เดิมทีหวาผิงก็ไม่ได้มีอารมณ์ร่วม แต่พอได้ยินว่ามีหวางเซียวอี้ด้วย ก็เปลี่ยนคำพูดแล้วตกลงว่าจะมา
หวาเหวินดูออกแต่ก็ไม่พูดอะไร พอตกดึกสามีภรรยาคู่นี้ ก็นอนอยู่บนเตียงแล้วพูดคุยว่าจะซื้อผลไม้กับของหวานแบบไหน
หวาเหวินรู้สึกขึ้นมาว่า แท้จริงแล้วในชีวิตของเรายังมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ ที่ต้องจัดเตรียม แม้จะยุ่งแต่ก็รู้สึกเติมเต็ม
ความจริงแล้วเดิมที่หวาเหวินก็อยากจะชวนอวู๋ผิงมาด้วย แต่พอลองคิดดูแล้ว คงไม่เหมาะสม
อวู๋ผิงกับคนพวกนี้ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันแล้ว ไม่ใช่เพราะว่ารังเกียจต้นกำเนิดของเธอ แต่เธอไม่สามารถกลมกลืนเข้ากลุ่มมาได้เอง เดี๋ยวจะรู้สึกอึดอัดกันเปล่าๆ
กับหวาฟ้านยังคงเหมือนเดิม หวาฟ้านเกิดในบ้านที่มีฐานะ แต่แค่อยากใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา แต่ออร่าความรวยก็ยังคงอยู่
เดิมที อวู๋ผิงก็ไม่มั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว เธอไม่อยากให้เขาดูถูกตัวเองเพราะคำชวนของเธอเพิ่มอีก คิดไปคิดมา เธอก็เลยยอมแพ้ที่จะชวน
ในคืนวันที่สอง หวาเหวินจงใจเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดเดรสที่ค่อนข้างเป็นทางการ เป็นเดรสยาวผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้ม เข้าทรงช่วงบริเวณเอว และตัดต่อลูกไม้ปลายแขนเสื้อ
เป็นสไตล์ย้อนยุคแบบยุโรป ดูยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ชุดเดรสนี้เป็นชุดลิมิเต็ดอิดิชั่นของแบรนด์แบรนด์หนึ่ง ที่ย่าของเธอให้ไว้ในวันเกิดปีหนึ่ง
แต่เธอกลับไม่กล้าที่จะหยิบออกมาใส่ เพราะรู้สึกว่าดูเป็นทางการมาก จึงไม่ค่อยหยิบออกมาใส่
วันนี้จะได้ต้อนรับเพื่อนๆ และเป็นครั้งแรกของเธอเหมือนกัน ดังนั้นจึงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เกรงว่าตัวเองจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง
เจียงหยู่ดูความตื่นเต้นของหวาเหวินออก เขาคอยปลอบเธอว่าไม่เป็นไร พอถึงหนึ่งทุ่ม ทุกคนต่างก็มาถึงที่หมาย
ห้องครัวของเฟิงหวาหลี่ มีอาหารรสเลิศมากมายวางไว้เต็มโต๊ะ แม้แต่ชุนเถากับหยินซิ่งก็โดนเชิญให้มานั่งด้วยกัน รวมๆแล้วมีสิบกว่าคนดูมีสีสันเป็นอย่างมาก
“พี่สะใภ้ครับ เมื่อก่อนคิดว่ากลิ่นเทพธิดาติดตัวพี่มาตลอด แต่วันนี้เริ่มมีกลิ่นดอกไม้ไฟแล้ว ฮ่าๆ……เป็นยังไงบ้าง หลังจากแต่งงาน คุณรู้สึกว่าโลกน่าอยู่ขึ้นไหมครับ?” เกาเห้อเป็นคนที่มีอารมณ์ขันมาตลอด เขาจึงชอบพูดไม่หยุด คำพูดประโยคนี้ ทำให้หวาเหวินเขินอายเป็นอย่างมาก