ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 4
ตอนที่ 4 ผิดก็คือผิด
ถามประโยคหนึ่งจนหวาเหวินไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
ตระกูลเจียงจนหรือ คำตอนคือไม่ เงินของตระกูลเจียงใช้กี่ชาติก็ไม่หมด
ตระกูลเจียงในวันนี้กำลังรุ่งเรือง อีกสามตระกูลล้วนอยากมาพึ่งบุญบารมีกันทั้งนั้น
กำไลหยกที่ข้อมือของคุณนายเจียงมีค่าเป็นหมื่นเป็นพัน
ดังนั้น ที่หวาเหวินพูดว่าจะส่งของมีค่าไปให้ เจียงหยู่ไม่ได้สนใจเลยสักนิด
นางรู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีว่าทำไมเมื่อกี้นี้ถึงเลือกที่จะแลกเปลี่ยนกับเขาคนนี้
อย่างมากก็แค่ขายหน้าทำไมต้องพยายามขนาดนี้ด้วย
ฟังดูแล้วผู้ชายคนนี้ก็ใช่ว่าจะไล่ให้เขาไปได้ง่ายๆสักที่ไหนกัน
“คุณหวาเหวินทำไมไม่พูดล่ะ” เขาพูดมาคำนึงทำให้เธอพูดต่อไม่ได้ยังจะมีหน้ามาพูดทำไมเธอไม่พูดอีก ใครจะไปตามเขาทันล่ะคนใจดำแบบนี้
แต่หวาเหวินก็ยังคงถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “ถ้างั้นคุณเจียงหยู่จะเอาอะไรเป็นของตอบแทนดีล่ะ”
“ฉันต้องการอะไรเธอก็จะให้แบบนั้นใช่ไหม” เจียงหยู่คิดเรื่องนี้น่าสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“ฉันก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรขนาดนั้นหรอกแต่ขอแค่เป็นสิ่งที่ฉันให้ได้ ฉันยินดี” หวา
เหวินเองก็ไม่อยากเสียเวลาคุยต่อปากต่อคำกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
“ผมคิดว่าตอนนี้สิ่งที่ผมขาดคือภรรยาคนหนึ่ง”
พูดจบประโยคนี้หวาเหวินสะดุ้ง ราวกับว่ามีเรื่องไม่ดีอะไรเกิดขึ้น
เจียงหยู่พูดต่อว่า “ปีนี้ผมอายุยี่สิบเจ็ดปี ไม่เคยมีข่าวชู้สาว เคยมีข่าวว่าผมเป็นเกย์ นี่ทำให้ชื่อเสียงของผมเสียหายนิดหน่อย ดังนั้นผมอยากมีภรรยาเพื่อมาปกป้องชื่อเสียงของผมและทำลายข่าวลือพวกนั้น คุณเองก็รู้นี่ว่าสะใภ้ตระกูลเจียงจะต้องไม่ใช่สาวชาวบ้านธรรมดา คุณเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย พวกเราสองคนคู่ควรที่สุด ผมคิดว่ายังไงก็ผิดไปแล้วก็ให้มันผิดไปเลย ให้พวกเราอยู่ด้วยกันต่อในฐานะสามีภรรยากันต่อไปคุณคิดว่าดีไหม”
น่ารังเกียจ คำพูดประโยคสุดท้าย ดีไหม นั่นมันคำพูดของหวาเหวิน
ผู้ชายคนนี้ตั้งใจแต่เธอเองก็ไม่สามารถกลับคำได้ ยังไงเสียเขากก็ช่วยเธอเอาไว้จริงๆ
หวาเหวินถอนหายใจเบาๆ “ขอบคุณความหวังดีของคุณเจียงหยู่ แต่ฉันหวาเหวินเป็นคนต่ำต้อยไม่มีวาสนาจะได้เป็นสะใภ้ตระกูลเจียงหรอก ดังนั้นช่างมันเถอะ”
“ผมบอกว่าคุณมีคุณก็มีสิ” เหมือนกับว่าเขาจะเอาเธอแน่นอน
“คุณเจียงหยู่ดีขนาดนี้ หากจะหาภรรยาสักคนคงมีคนให้เลือกมากมาย หญิงสาวที่มาจากตระกูลที่มั่งคั่งก็ใช่ว่าจะมีแค่ลูกสาวของตระกูลหวาแต่มีอยู่ทั่วเมืองทำไมต้องบังคับกันด้วยล่ะ”
ดูดู ขนาดคำว่าบังคับยังพูดออกมาแล้วเลย ดูเธอไม่ยอมจริงๆ
เจียงหยู่ไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่เขากลับหัวเราะออกมา “คุณหวาเหวินนี่คือจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวหรือ”
“ไม่กล้าหรอกค่ะ”
“คุณหวาเหวินพูดว่าผมบังคับคุณ งั้นเมื่อกี้ในงานแต่งคุณทำให้ผมลำบากใจทำไมคุณไม่คิดถึงความรู้สึกผมบ้างล่ะ” เจียงหยู่กระดกคิ้วขึ้น
หวาเหวิน:…….
โอเค ฉันผิดไปแล้ว เมื่อกี้ไม่น่าไปชี้มั่วๆแบบนั้นเลย
แถวหน้าคนนั่งอยู่เยอะแยะ ทำไมต้องไปชี้ตรงกับเจียงหยู่ด้วยก็ไม่รู้
สถานะของเขานั้นสำคัญขนาดไหนเธอเองก็รู้ดี
ส่วนหวาเหวินเองเธอก็ไม่ได้มีความคิดนั้นที่อยากจะเกาะแข้งเกาะขาเขาสบาย
นี่มันหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ
ตอนนี้ฟังเหตุผลนี้แล้ว อยากจะสะบัดหนีก็หนีไม่พ้นแล้ว
หวาเหวินถอนหายใจแล้วค่อยๆหลับตาลง “ดังนั้นเจียงหยู่ คุณจะเอายังไงกันแน่”
เจียงหยู่คำเดียวทำให้นิสัยที่แท้ของนางออกมา นางไม่ใช่คุณหนูที่ดูอ่อนหวาน แต่ดูเป็นคนที่มีเขี้ยวเล็บซ่อนอยู่เหมือนแมวป่า