ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 40
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 40 กุหลาบขาวแดง
เจียงหยู่มองท่าทีของเธอที่ปลีกตัวหนีอย่างเร่งร้อน น่ารักอย่างยิ่ง
ดูเหมือนจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก ดังเมื่อแกล้งนิดหน่อยก็หน้าแดงร้อนตัวทันที
หลังจากนั้นเจียงหยู่จึงแกล้งเธออย่างไม่ลดละ ชี้ไปที่รูปภาพ “ภาพนี้ไม่เลว ขายให้ผมได้นะ?”
“ไม่ขาย” หวาเหวินปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
“ผมจ่ายในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดสามเท่าเลยเอ้า” “สิบเท่าก็ไม่ขาย” หวาเหวินโมโหแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นภาพนี้ชื่อว่าอะไร พอจะบอกผมได้ไหม?” เขาจ้อมองไปที่ภาพวาดน้ำหมึกรูปนั้น
น้อยนักที่จะเห็นหญิงสาวที่วาดภาพขาวดำสไตล์จิตรกรรมหมึกจีน
ตำแหน่งจุดทิวทัศน์ที่หวาเหวินวาดภาพอยู่ไม่ไกล ผ่านการรังสรรค์จากมือของเธอ น่าตื่นตะลึงจนไร้ที่เปรียบจริงๆ
โดยเฉพาะคนที่มีความเชี่ยวชาญ เพียงแค่มองดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือนักจิตรกรรมฟ้าประทาน
พูดถึงชื่อของภาพ น้ำเสียงสลบลงกว่าเดิม “ฉันยังไม่ได้คิด”
“ให้ผมช่วยคุณคิดเป็นไง?”
หวาเหวินไม่ส่งเสียง……ไม่พูดก็แสดงว่ายอมรับแล้ว
หลายวันนี้ที่พบปะกันอยู่เรื่อยๆ เจียงหยู่สัมผัสอารมณ์ได้อย่างชัดเจน
“ชื่อว่าห่านป่าเป็นไง?”
“คุณรีบไปไกลๆให้ฉันเลยนะ”
หวาเหวินโกรธจนอยากจะหักแปรงพู่กันทิ้ง วาดสวยขนาดนี้ ภาพจิตรกรรมหมึกจีนที่งดงามขนาดนี้
เจ้าบ้านี่ตั้งชื่อว่าห่านป่า หยาบคายสิ้นดี
หวาเหวินโกรธจนอยากจะไล่คนไป เจียงหยู่หัวเราะอย่างเบิกบาน
หลังจากที่เห็นว่าเธอโกรธจริงๆ จึงรีบเปลี่ยนคำพูด
“ไม่โกรธนะไม่โกรธ เอาดีๆละ ผมคิดว่าควรจะชื่อ…..หวนสู่พายัพ เป็นไงบ้าง?”
หวาเหวินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จึงเอ่ยถาม “ทำไมจึงเรียกว่า หวนสู่พายัพล่ะ”
เจียงหยู่ชี้ไปที่ห่านป่าท่ามกลางภูเขา “คุณดูสิ ผืนน้ำในภาพของคุณยังไม่แข็งตัว อธิบายได้ว่าไม่ใช่ช่วงฤดูหนาว ด้านข้างยังมีหญ้าป่า ดอกไม้ป่าซึ่งอธิบายได้ว่าดอกไม้ผลิบานยามวสันต์ฤดู ห่านป่าที่บินลงฝั่งใต้ เมื่อหมดหนาวก็จะหวนกลับฝั่งเหนือ ซึ่งหมายถึงการกลับบ้าน นี่อบอุ่นมาก”
หวนสู่พายัพ ที่จริงความหมายไม่เลวอีกทั้งเรียบง่าย เป็นสไตล์ของหวาเหวิน
แต่ว่า…..
ห่านป่าที่เขาวาดมันดีงั้นหรือ ในภาพวาดนี้เดิมทีมันใช่เรื่องของห่านป่าหรือไง?
ผู้ชายคนนี้ยกย่องตัวเองอยู่งั้นหรือ?
“ห่านป่าเป็นสิ่งที่คุณวาด ชื่อคุณก็ตั้ง ต้องการลงนามว่าว่าเจียงหยู่ไหม คุณคิดว่าไง?” หวาเหวินถามอย่างไม่ยินดี
เจียงหยู่ปรบมือดังเผาะ “ขอบคุณเมียที่เคารพ”
“ใครเป็นเมียคุณ เจียงหยู่ คุณรีบออกไปให้พ้นเลยนะ”
หวาเหวินผลักเขาไปที่อื่นอย่างโมโห
นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนมีการสัมผัสใกล้ชิดกันขนาดนี้
ถึงแม้จะถูกไล่ออกมา เจียงหยู่ก็ยังเบิกบาน
ณ ผับวอร์มชิค
ระยะสองสามวันมานี้นอนไม่หลับดี ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปวันๆ เหมือนคนเมาที่อยู่แต่ในโลกแห่งความฝัน
หลังจากที่มีความคิดจะตื๊อคุณหนูห้าตระกูลหวากลับมา ก็คิดแผนมุ่งร้ายมาตลอด
เดิมทีคิดจะหาโอกาสค่อยๆเข้าหา ผลคือคนเขาไม่ไว้หน้าโดยสิ้นเชิง
นี่ทำให้เขาหมดหนทาง……
ดังนั้นจึงแค่นัดพรรคพวกสองสามคนมาดื่มเหล้าด้วยกัน
บรรดาพรรคพวกเองก็ทราบว่าระยะนี้เขาหงุดหงิดก็เพราะเรื่องผู้หญิง จึงพากันกล่าวโน้มน้าวอยู่หลายประโยค
มีคนทะลึ่งพูดหยอกล้อขึ้นมา “ชายเซี่ย เคยได้ยิน [ดอกกุหลาบแดง] ของEason chao บ้างไหม? จริงๆแล้วผู้ชายอย่างพวกเราน่ะก็เป็นแบบนี้ มีดอกกุหลาบแดงก็คิดถึงดอกกุหลาบขาว พอมีดอกกุหลาบขาวก็เริ่มจะคิดถึงดอกกุหลาบแดง ในความสับสนมักไม่ได้อยู่เสมอ…..นี่เพราะว่านายไม่ได้มาดังนั้นจึงไม่ยินยอม ในความเป็นจริงถ้าหากนายได้มาแล้วก็จะค้นพบเองว่า คุณหนูหาก็ธรรมดาทั่วไป ผู้หญิงน่ะก็เหมือนกันหมด เมื่อเวลาผ่านไป ใครๆก็เบื่อ ถึงแม้ต่อให้เป็น Anne Hathaway นายก็จะรู้สึกว่าเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น นางฟ้าอะไรกันล้วนยกยอเกินจริงทั้งนั้น”
เซี่ยจื๋อจ้วนหยิบขวดเบียร์ขึ้นมาถือในมืออย่างกลัดกลุ้ม พลันถอนใจหายใจเบาๆ “ปัญหาก็คือ ตอนนี้ฉันยังไม่ได้มา สำหรับการที่จะเบื่อ นั่นก็เป็นเรื่องหลังจากที่ได้มาแล้ว”
“แต่ว่านะชายเซี่ย นายคิดจะแย่งผู้หญิงกับลูกชายตระกูลเจียงจริงๆน่ะหรือ เจ้านั่น….ไม่ใช่คนที่ควรยั่วยุเลย” มีพรรคพวกคนหนึ่งเอ่ยเตือนสติด้วยความหวังดี