ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 5
ตอนที่ 5 สั่งสอนเยอะๆ หน่อย
เจียงหยู่พิงเสาแล้วเอียงหัวพูดขึ้นมาว่า “ง่ายนิดเดียว ผมไม่อยากถูกคนจูบฟรีๆแล้วไม่รับผิดชอบ”
หวาเหวินหน้าแดงขึ้น จูบเมื่อกี้ก็เป็นจูบแรกของเธอเหมือนกันนะ
แต่ในสถานการณ์แบบนั้น บาทหลวงพูดออกมาแล้วและคนอีกมากมายกำลังมองดูอยู่ จะไม่ให้จูบได้อย่างไรกัน
จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนี้จะคิดแค้นอะไรขนาดนี้ แค่จูบเดียวก็ต้องรับผิดชอบ
“เจียงหยู่ นั่นมันเหตุสุดวิสัย หากคุณคิดว่าเสียเปรียบ คุณสามารถเอาคืนได้” หวาเหวินอดกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วอธิบาย
“เอาคืนได้ ความหมายของคุณคือให้ผมจูบคุณคืนงั้นหรือ คิดได้ดี”
หวาเหวิน :………………
ในใจของหวาเหวินตอนนั้นคิดได้แค่ว่าทำไมในโลกนี้ยังมีผู้ชายที่หน้าด้านแบบนี้อยู่อีก
ตัวเองต่างหากที่ได้เปรียบแต่ยังจะมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมอีก แต่ที่เขาพูดมามันก็มีเหตุผล ดังนั้นคุณเองก็หนีไม่ได้
ได้แต่อดทน
พอเห็นหวาเหวินโกรธเจียงหยู่ก็พูดต่อว่า “ผมรู้ว่าสถานะทางบ้านของตระกูลหวาในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงอันตราย ต้องการเงินทุนก้อนใหญ่ไปหมุน ไม่เช่นนั้นคงไม่รีบร้อนแต่งงานกับตระกูลแซ่หรอก ตระกูลแซ่สามารถให้ได้ ตระกูลเจียงของเราก็สามารถให้ได้เช่นกัน หวาเหวินแต่งงานกับผมคุณมีแต่ได้กับได้นะ ผมไม่กล้าบอกว่าตัวเองมีดีอะไรบ้าง แต่ผมสามารถบอกได้ว่าตัวเองดีกว่าแซ่จื๋อจ้วนแน่นอน”
“คุณยินดีที่จะช่วยบ้านของฉันจริงหรือ”
นี่ทำให้หวาเหวินรู้สึกตกใจ เธอออกจากบ้านไปตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยสนิทกับพ่อแม่พี่น้องเท่าไหร่
แต่เธอกลับสนิทกับคุณย่าของเธอ วันนี้ตระกูลหวากำลังเดือดร้อน คุณย่าเองก็กำลังเครียดอยู่เช่นกัน
เดิมทีก็สุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ตอนนี้ยังจะต้องมาป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลอีก
ไม่เช่นนั้น หวาเหวินเองก็คงไม่เสียสละตัวเองมาแต่งงานแบบนี้หรอก กลับมาแต่งงานเพื่อช่วยตระกูลเธอไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น
เจียงหยู่พยักหน้า
“งั้นคุณมีข้อเสนออะไร” หวาเหวินถาม
“เป็นภรรยาของผม แล้วก็แสดงบทของคุณต่อไปในงานแต่งนี้ ผิดไปแล้วก็ให้มันผิดไป ทำให้เรื่องปลอมเป็นเรื่องจริง” เจียงหยู่พูด
“ต้องนานแค่ไหน” หวาเหวินถามจนทำให้เจียงหยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง
หากจะบอกว่านานแค่ไหน ข้อนี้เขาเองก็ยังไม่ได้คิด
แต่เพื่อให้หวาเหวินสบายใจเขาจึงได้บอกไปว่า “นานสุดสามปี หลังจากสามปีหากคุณไม่ยินยอมที่จะอยู่ต่อผมยินดีที่จะหย่าให้คุณ ให้คุณเป็นอิสระ”
“คำพูดมันเชื่อไม่ได้” หวาเหวินยังคงไม่วางใจ
“พวกเราสามารถร่างสัญญาขึ้นมาได้ แต่ต้องเป็นความลับ ห้ามไม่ให้บุคคลที่สามรู้เด็ดขาด” เจียงหยู่พูดเสริมเพื่อให้ฟังดูน่าเชื่อถือขึ้น
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตกลง
“ตกลง”
ดูหวาเหวินตกลงแล้ว ในใจของเจียงหยู่กลับมีความรู้สึกอะไรบางอย่าง
นั่นก็คือ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่น่าสนใจคนหนึ่ง กลัวว่าสามปีให้หลัง พวกเขาจะมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินกว่านี้
“ถ้าเช่นนั้น ก็ขอฝากชีวิตที่เหลือด้วยแล้วกันนะ” ประโยคนี้เจียงหยู่พูดจริงครึ่งเล่นครึ่ง
หวาเหวินลุกขึ้น จากนั้นค่อยๆหันหน้ามาจ้องมองเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “สามปี”
ความหมายของเธอคือเตือนเขา ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันแค่สามปี ดังนั้นไม่ต้องพูดอะไรถึงชีวิตที่เหลือ
แต่พวกนี้ก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ นี่คือครั้งแรกที่เจียงหยู่ได้เห็นตัวจริงของหวาเหวิน
ตอนที่จูบก่อนหน้านี้กะทันหันเกินไป เขาไม่ทันได้มองดู เธอก็เอาผ้าคลุมลงแล้ว เมื่อกี้ที่พูดเธอก็ไม่ได้หันมา ตอนนี้ตาจ้องตา ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจจริง
รูปร่างแบบนั้น ใบหน้าแบบนั้น….หากจะให้ใช้สี่คำมาบรรยายก็คงต้องบอกว่า สวยโลกละลาย
มีคนบอกว่าเธอพูดติดอ่าง แต่เธอกลับพูดจาฉะฉาน
มีคนบอกเธอหน้าตาขี้เหร่ แต่ความจริงคือเธอสวยมาก
ดังนั้น ข่าวลือก็คือข่าวลือ
เจียงหยู่ไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่พอเห็นหวาเหวินเขาก็ตาค้างใจลอยทันที