ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 53
ตอนที่ 53 ความฟุ่มเฟือยของเจียงหยู่
เจียงหยู่ไม่สนใจสาวบ้านตระกูลซ่ง เค้าจึงไม่คิดที่เสียเวลาคุยอะไรกับเธอ
“ฉันมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอีก ไม่งั้นก็ค่อยคุยวันหลังไหม?”
เจียงหยู่ทำท่าจะไป
ซ่งอานลู่รีบร้อนขึ้นมาทันที อยากท่าเยอะแต่ท่าไม่เก็ท จึงต้องหาทางชะงักเจียงหยู่เอาไว้
“พี่เจียงหยู่ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับครอบครัวของพี่ ฉะนั้นฉันก็ค่อยสะดวกที่จะพูดเท่าไหร่ แต่ในเมื่อพี่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร งั้นฉันพูดที่นี่เลยละกัน วันนี้ฉันเจอภรรยาของพี่ บุตรคนที่ห้าของตระกูลหวา ชื่อหวาเหวินใช่มั้ย?”
เจียงหยู่มองเธอแบบไร้ความรู้สึก ท่าทีคลุมเครือของผู้หญิงคนนี้พูดมาต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
สุดท้ายซ่งอานลู่จึงใช้น้ำเสียงที่ฟังดูเหยียดๆพูดขึ้น“ฉันเห็นเธอกับพี่จื๋อจ้วนอยู่ด้วยกันที่โรงพยาบาลใจกลางเมือง ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น พี่จื๋อจ้วนบอกว่า เขากับแฟนพี่เป็นเพื่อนกัน พากันลูบขนแมวแล้วก็โดนแมวของภรรยาพี่ข่วน แฟนพี่กังวลใจต่อพี่จื๋อจ้วนมาก ก็เลยพามาโรงพยาบาลฉีดวัคซีน ยังให้เงินพี่จื๋อจ้วนอีกหมื่นนึงให้เขาซื้อผลไม้ทาน….เรื่องนี้น่ะ ฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ พี่คิดดูว่าตอนนี้สถานะเธอคือภรรยาพี่ ยังคงอยู่กับพี่จื๋อจ้วนอีกอย่างนี้ก็ได้เหรอ? ทำไมฉันรู้สึกว่าพวกเขาสองคนถ้าคุยกันนานไป อาจจะทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อพี่หรือเปล่า?”
ซ่งอานลู่เล่าเรื่องให้มันดูใหญ่โต ยิ่งใหญ่ยิ่งดี ประมาณว่ายุแยงตะแคงให้รั่วก็ไม่ปราน
แต่จะไปโทษเธอหมดก็ไม่ได้ ในเมื่อเรื่องที่เล่าก็ผสมเรื่องที่แซ่จื๋อจ้วนคุยโวโม้ใส่อยู่ในนั้น
แต่เรื่องทั้งหมดนี้ คนที่บริสุทธิ์ที่สุดก็คือหวาเหวิน
โดนหลอกอย่างไม่มีสาเหตุ โดนดึงเข้ามามีส่วนร่วมโดยไม่มีสาเหตุ แล้วก็ยังมาโดนคนเข้าใจผิดว่าคบชู้สู่ชายอะไรอีก?
ยังดีที่เจียงหยู่มีไหวพริบดี ฟังจบก็ได้แต่หัวเราะ
“อา เรื่องนี้เหรอ ไม่มีอะไรหรอก”
“พี่เจียงหยู่ไม่ใส่ใจเรื่องนี้เหรอ?” ซ่งอานลู่แปลกใจ
“ภรรยาฉันเป็นคนยังไง ใจฉันย่อมรู้ดี ขอบคุณเธอนะที่บอกเรื่องนี้กับฉัน”
เจียงหยู่ไม่ได้แสดงอาการโกรธ และก็ไม่ได้พูดอะไรที่ฟังดูไม่ดี พูดยิ้มๆเสร็จก็เดินจากไป
แต่มันทำให้ซ่งอานลู่รู้สึกโกรธเนืองๆ
“พี่เจียงหยู่ทำไมดูซื่อบื้ออย่างนี้นะ…..ไฟจะไหม้หลังบ้านตัวเองอยู่ละยังไม่คิดจะรีบร้อนอีก ดูสิถ้าไปเมียโดนแย่งไปจะทำยังไง? ฮึ? แต่จะว่าไปแล้ว ถ้ายัยหวาเหวินคบชู้สู่ชายจริง โดนบ้านตระกูลเจียงไล่ตะเพิดออกมา อน่างนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีสิ ถึงเวลานั้นตระกูลแซ่ไม่เอาเธอ ตระกูลเจียงก็ไม่เอาเธอ เธอก็คงต้องอับอายขายหน้ายันบ้านตัวเองเลยแหล่ะ”
เมื่อคิดเข้าข้างตัวเองดังนี้ ซ่งอานลู่ก็ออกไปอย่างสบายใจ
แต่หวาเหวินไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย
ตกเย็นเจียงหยู่กลับมาถึงบ้าน หวาเหวินกำลังดื่มชา ทานผลไม้
รายการ Lecture Roomในทีวีที่ห้องรับแขก
หวาเหวินดูอย่างออกอรรถรสเจียงหยู่เข้ามาข้างใน ถอดเสื้อคลุมออก และเดินเข้าไป
“ดูอะไรน่ะ?”
หวาเหวินชี้ไปที่ทีวีไม่ได้พูดอะไร
ชุนเถาเทชาให้เจียงหยู่
หยินซิ่งกำลังถูพื้น คนใช้สองคนอยู่ในห้องนั่งเล่นพอดี
เจียงหยู่หยิบกุญแจรถในกระเป๋าขึ้นมาวางไว้ที่โต๊ะชา
หวาเหวินมองดู……
“อาเหวิน วันนี้ไปดูที่4s รู้สึกว่ารถรุ่นออดี้a8ไม่เลวเลย คุณภาพก็ดี ก็เลยซื้อมาสองคันให้เธอขับเล่น”
หวาเหวิน………
เธอคงฟังไม่ผิดใช่ไหม?
ซื้อออดี้a8มาขับเล่นสองคัน?
รถรุ่นนี้ไม่ใช่ถูกๆเลย ราคาสูงสุดก็ล้านกว่าบาท แถมซื้อตั้งสองคัน?
ชุนเถากับหยิงชิ่งตกใจจนตะลึง คุณผู้ชายเร็วอย่างกับความไวแสงเลย
เดิมทีชุนเถาก็กังวลอยู่ว่าเอาออดี้ไปซ่อมแล้ว สองสามวันนี้คุณหนูจะออกไปข้างนอกอย่างไร?
แม้ว่าที่โรงรถจะมีรถอยู่หลายคัน แต่นั้นก็เป็นของเจียงหยู่ทั้งนั้น นิสัยของหวาเหวินนั้นไม่ชอบใช้ของของคนอื่น
“นายอยู่ดีดีซื้อรถให้ฉันทำไม?” หวาหวินเอียงศีรษะมองที่เขา
“ได้ยินว่าวันนี้รถเธอบังเอิญโดนชน ฉันคิดว่าถ้าออกไปข้างนอกคงไม่สะดวกแน่ ที่บ้านมีรถสปอตหลายคัน เธออาจจะรู้สึกว่าเป็นการโอ้อวด คิดไปคิดมาก็เลยซื้อออดี่้a8สองคันไว้สำรองใช้ด้วย รถเป็นชื่อของเธอ เธอขับให้สบายใจ จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าเป็นภาระ”