ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 56
ตอนที่ 56 กิ่งทองใบหยก
ป๋ายห้าวพยักหน้า หลังเขาทักทายเพื่อนร่วมงานก็พาหวาฟ่านมาที่ร้านกาแฟข้างๆสำนักงาน
หวาเหวินสั่งกาแฟสองแก้วแล้ว จากนั้นสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “ป๋าวห้าว เรื่องวันนั้น ครอบครัวฉันขอโทษคุณด้วย”
“ฟ่าน คุณอย่าพูดแบบนี้สิ ผมไม่โกรธคุณหรอก”
“แล้วทำไมถึงหลบหน้าฉันล่ะ ส่งวีแชทไปก็ตอบแบบนิ่งๆ โทรหาก็ไม่รับ”
“คงยุ่งน่ะครับ คุณก็รู้ว่างานผมมันเป็นลักษณะพิเศษ แล้วก็ยุ่งวุ่นวาย”
ขณะที่ป๋ายห้าวพูดอยู่นั้นไม่ได้มองหวาฟ่านเลย ซึ่งชัดเจนที่สิ่งที่เขาพูดมันไม่ใช่ความจริง
พวกเขาสองคบกันก็มาช่วงหนึ่งแล้ว แต่ช่วงก่อนนี้นั้นหวานละมุนมาก
ต่อให้ป๋ายห้าวยุ่ง บางครั้งเลิกงานดึกก็จะต้องซื้อผลไม้ไปให้หวาฟ่านที่หอพัก
ตั้งแต่ไปงานฉลองครบรอบวันเกิดบ้านตระกูลหวาครั้งนั้น ก็มีทีท่าเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเลย
หวาฟ่านเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในพื้นที่ เธอสอนประวัติศาสตร์ หรือพูดง่ายๆคือเป็นปัญญาชน
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับครอบครัวนั้นธรรมดา ดังนั้นพอได้ทำงานแล้วก็เลยย้ายออกมาอยู่ข้างนอก
โดยที่ทางมหาลัยจัดห้องพักเดี่ยวให้เธอ เธอจึงได้อยู่อย่างอิสระ
หลายเดือนก่อนทางมหาลัยได้ปาร์ตี้คนโสด
มีครูในมหาลัยที่โสดและแขกรับเชิญก็คือตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และตำรวจพิเศษ
หวาฟ่านและป๋ายห้าวก็รู้จักกันที่นี่ ทั้งสองมีโอกาสพูดคุยกัน
วันนั้นก็แลกวีแชทกัน จากนั้นก็แอบคุยกันจนเริ่มคบกับจริงในที่สุด
ช่วงเวลานั้นป๋ายห้าวไม่รู้สถานะครอบครัวของหวาฟ่าน เพียงคิดว่าคงเป็นลูกของครอบที่ดีธรรมดาๆ ยังคิดว่าพ่อแม่เธอเป็นครูเหมือนกัน
จนกระทั่งก่อนหน้าไม่กี่วัน ที่งานฉลองวันเกิดแม่เธอ ตอนที่เธอเชิญเขาไปด้วยในวันนั้นถึงได้รู้ความจริง
ถึงแม่ว่าในใจป๋ายห้าวจะรู้สึกแย่แต่เขาก็ไป
เพียงแค่ทัศนะของบ้านตระกูลหวา เขาก็รับไม่ได้ตั้งแต่นั้นมา
“คุณคิดว่าที่คุณพูดมาฉันจะเชื่อเหรอ? เมื่อก่อนนี้คุณไม่เคยยุ่ง แต่สองสามวันถึงเริ่มจะงานยุ่ง ป๋ายห้าว สรุปคุณหมายความว่ายังไงกันแน่? คุณเป็นผู้ชายแท้ๆกลับเอาแต่หลบ ไม่แก้ปัญหา นี่คือนิสัยคุณเวลาเจอปัญหาเหรอ?”
หวาฟ่านโมโหจนระเบิด ซึ่งที่จริงแล้วตัวเธอนั้นก็โดนทำร้ายจิตใจเหมือนกัน น้อยใจเช่นกัน
ป๋ายห้าวนิ่งครู่หนึ่ง เหลือบมองหวาฟ่าน
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ งั้นผมก็ขอพูดให้ชัดเจนเลยละกัน ฟ่าน เราเลิกกันเถอะ
หวาฟ่านได้ยินคำนี้ ใจเธอหล่นตุ้บ รู้สึกเหมือนโดนหินก้อนใหญ่ทับลงมา ทับจนหายใจไม่ออก
“ทำไม?” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย
“ชัดเจนมาก เราไม่ได้สมกันดั่งทองใบหยก ที่จริง…..ถ้าคุณบอกผมตั้งแต่แรกว่าคุณเป็นคนตระกูลหวา เราก็คงไม่ได้เริ่มต้น ผมก็คงไม่ทะเยอทะยาน ฐานะเราสองคนต่างกันอย่างชัดเจน ครอบครัวคุณก็ไม่ชอบผม”
“แล้วคุณคบอยู่กับฉันหรือคบอยู่กับครอบครัวฉันล่ะ?” หวาฟ่านกลั้นใจ
“ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่…ผมก็ทำไม่ได้อยู่ดี พ่อแม่ผมเป็นแค่คนอาชีพธรรมดา จะให้คบคนที่ฐานะสูงกว่าไม่ไหวจริงๆ…..อายุคุณไม่น้อยแล้ว ผมก็ไม่อยากจะถ่วงเวลาคุณ”
“ป๋ายห้าว นี่พูดมาจากใจใช่ไหม? จะเลิกกันเลยใช่ไหม? คุณจะพยายามเพื่อฉันหน่อยไม่ได้เลยใช่ไหม?”
หวาฟ่านกลั้นน้ำตาไว้ อีกนิดเดียวก็เกือบจะไหลออกมา
“ฟ่าน ขอโทษ ผมไม่อยากลองดูอีกแล้ว วันนั้น…..ความภาคใจในตัวเองของผมถูกบดขยี้ครั้งแรกในชีวิต ผมคิดว่า…..พวกเราไม่ใช่คนบนทางเดียวกัน อาฮะ หรือจะบอกว่าพวกเราไม่ได้อยู่โลกเดียวกันก็ได้ คุณคือคุณหนูของบ้านตระกูลหวาที่เกิดมาพร้อมกุญแจสีทอง ผมก็แค่คนตัวเล็กธรรมดาคนนึง คุณอย่าทำให้ลำบากใจเลย จบดีไหม?”
หวาฟ่านฟังจบน้ำตาก็ไหลลงมาทันที
เธอร้องไห้โดยไม่มีเสียง ดูออกอย่างเห็นได้ชัดว่าเธอแคร์ป๋ายห้าวมาก แคร์ความรู้สึกเหล่านี้ แต่….ผู้ชายคนนี้ถอยหลังแล้ว
“ป๋ายห้าว บ้านฉันมีเงิน คุณไม่ดีใจสักนิดเลยเหรอ คุณก็รู้ ว่าฉันสามารถให้ทุกอย่างกับคุณได้ คุณสู้ชีวิตมา20ปีก็ทำไม่ได้?” หวาฟ่านอยู่ในอาการโมโห เธอจึงพูดแทงใจดำเขา