ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 9
ตอนที่ 9 สูงส่ง
คุณนายหวาพูดประโยคนี้จบสีหน้าของสองสามีภรรยาตระกูลแซ่ก็ดูไม่ได้ทันที
แต่เรื่องมาถึงตรงนี้ ต่อให้พูดประชดประชันขนาดไหนก็ไม่ได้ช่วยอะไร
สองสามีภรรยาตระกูลหวาออกมาจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจและโกรธ
“เฟยโม่”แซ่หยานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ครับพ่อ”
“ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ต้องหาและเอาตัวไอ้ลูกทรพีนั่นมาให้ได้ เป็นก็ต้องเห็นคนตายก็ต้องเห็นศพ”
หลังจากที่พูดจบประโยคนี้ แซ่หยานก็สะบัดชายแขนเสื้อแล้วเดินจากไป
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
ในห้องชุดของประธานโรงแรมระดับเจ็ดดาว
แซ่จื๋อจ้วนเดินเซออกมาจากห้องด้วยสภาพที่สวมใส่เสื้อผ้าแล้ว
“จื๋อจ้วนคราวนี้เธอก่อเรื่องใหญ่แล้ว”
แซ่เฟยโม่มองดูน้องชายของตนเอง แววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
ตระกูลแซ่มีลูกชายสองคนลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตแซ่เฟยโม่ เป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย และเป็นรองประธานบริษัทในขณะนี้ ทำงานอยู่ใกล้แซ่หยานมาได้หลายปีแล้ว
ภรรยาของเขาเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เป็นคนจีนสัญชาติแคนาดา และหลังจากที่แต่งงานกับเขาก็ย้ายกลับมาอยู่จีนและมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน
ส่วนลูกคนที่สองคือ แซ่จื๋อจ้วน เป็นคนดื้อไม่ฟังใครมาตั้งแต่เล็ก ที่เขาพูดถึงลูกผู้ดีตีนแดงทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันก็เขานี่แหละ
ชื่อเสียงไม่ดีมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว ได้ยินว่าเคยไปจีบครูอาจารย์ที่เป็นผู้หญิง ช่างเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจยิ่งนัก
แซ่หยานคิดอยากจะหาภรรยาสักคนให้เขา เพื่อจะทำให้เขาก่อเรื่องน้อยลง แล้วใช้ชีวิตให้ดีขึ้น ใครจะรู้ว่านี่กลับก่อเรื่องที่ใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้
หากจะพูดไปแซ่จื๋อจ้วนก็ร้ายไม่น้อยไปกว่าใคร เรื่องรักๆใคร่ๆกับดาราสาวก็คงเป็นแผนของเขา มันคงไม่จบสวยแบบนี้แน่
สรุปแล้วคือ เขาไม่พอใจที่ทางบ้านหาภรรยามาให้เลยตั้งใจก่อเรื่องให้เป็นแบบนี้
นี่ทำให้ตระกูลแซ่และตระกูลหวาขายหน้าไม่พอยังจะดึงตระกูลเจียงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก นี่คงได้มีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่
ได้ยินพี่ชายพูดออกมาแบบนี้ แซ่จื๋อจ้วนก็ยิ้ม “พี่ใหญ่ พี่ก็ใช่ว่าจะรู้จักผมเป็นวันแรกนะ ตั้งแต่เล็กจนโต เรื่องที่ผมก่อมีเรื่องไหนบ้างที่ไม่ใหญ่”
“นายยังจะกล้าพูดอีก รอกลับบ้านแล้วพ่อจะจัดการกับนายยังไงดี นายดูนายสิงานแต่งดีๆทำไมทำให้มันล่ม นายให้หวาเหวินอยู่บนเวทีคนเดียวจะลงมาก็ไม่ได้ เธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง นายกะจะเอาให้ตายเลยหรือไง”
“โอ้ พี่ใหญ่อย่าพูดแบบนี้ ผมน้องชายพี่ก็ดูข่าวแล้วนะ ผู้หญิงคนนั้นใช่ย่อยที่ไหน ผมได้ยินว่าเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง เธอหาคนมาแทนเจ้าบ่าวได้ แล้วเธอก็ตาดีเพราะคนที่เลือกมาคือเจียงหยู่ใช่ไหม”
“นายยังจะพูดอีก นั่นมันเพราะนายก่อเรื่องเอาไว้” แซ่เฟยโม่เองก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ คิดในใจหากไม่ใช่เพราะน้องชายที่ไม่เอาไหนคนนี้ก่อเรื่องแบบนี้ก็คงไม่ต้องดึงเจียงหยู่เข้ามาเกี่ยวด้วยหรอก
จริงๆแล้วเรื่องราวต่อจากนั้นของหวาเหวินและเจียงหยู่ ตระกูลแซ่ไม่มีคนรู้เลย
นั่นเป็นเรื่องที่เจียงหยู่และหวาเหวินตกลงกันเองยังไม่ได้ประกาศออกมา
คาดว่าพอพวกเขารู้พวกเขาต้องตกใจแน่
“ต้องขอบคุณที่ผมสงเคราะห์ถึงจะถูก แต่ผมก็ยังแปลกใจอยู่ดี ครั้งนี้เจียงหยู่ทั้งสาบานทั้งจูบเจ้าสาวของผมต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้น อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะจัดการกับเรื่องที่ตามมายังไงดี”
แซ่จื๋อจ้วนและเจียงหยู่ไม่ค่อยถูกกันเหตุผลง่ายมาก
เพราะว่าแซ่หยานและคุณนายแซ่ชอบชมเจียงหยู่ต่อหน้าเขาและเอามาเปรียบเทียบกัน ทำให้เขามีอคติและไม่ชอบเจียงหยู่
วันนี้ได้ยินว่าเจียงหยู่มาคอยเก็บกวาดเรื่องที่ตนก่อเอาไว้ เขาเองก็อยากรู้ว่าสุดท้ายจะจัดการอย่างไร มันก็มีความโชคดีในโชคร้าย
ไม่รอให้แซ่เฟยโม่พูดแซ่จื๋อจ้วนก็พูดต่อทันที “เจียงหยู่ชอบทำตัวหยิ่งยโสทำตัวอยู่เหนือคนอื่นไม่ใช่หรือ ครั้งนี้ผมจะคอยดูว่าเขาจะยังยโสทำตัวเหนือคนอื่นยังไง”