ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2197 พาม้ากลับไปเป็นฝูง + ตอนที่ 2198 ตั้งชื่อเอาไว้แล้ว
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2197 พาม้ากลับไปเป็นฝูง + ตอนที่ 2198 ตั้งชื่อเอาไว้แล้ว
ตอนที่ 2197 พาม้ากลับไปเป็นฝูง
เกิดความวุ่นวายขึ้นในสนามม้าชั่วขณะ ครูฝึกม้าทุกคนต่างพากันจับม้าของตัวเองไว้แน่นด้วยความตื่นตระหนก ทั้งยังรีบอยากจูงม้าออกไปเพื่อจะได้ไม่โดนลูกหลงจากความวุ่นวายในครั้งนี้
แต่ว่าช้าเกินไปแล้ว
เพราะว่าม้าเซ็กเธาว์เห็นว่ามีคนแห่มุงเข้ามาและในมือถือปืนไว้อยู่กระบอกหนึ่ง ของสิ่งนี้มันรู้จักเพราะมันคือปืนยาสลบ ถ้าโดนยิงเข้าไปก็จะสลบไม่รู้เรื่องรู้ราว จากนั้นมนุษย์ก็จะทำอะไรกับมันก็ได้
ตอนมันอยู่ที่อังกฤษ มันเห็นม้าหลายตัวโดนแบบนี้ประจำ
น่ารังเกียจจริง ๆ!
“ฮี่…”
ม้าเซ็กเธาว์ยกขาหน้าตัวเองขึ้นมา ร้องด้วยเสียงทรงพลังจนน่าหวาดกลัว
โฉ่วโฉ่วก็ยกขาขึ้นแล้วส่งเสียงออกมาด้วยเช่นกัน ภรรยาของมันไม่พอใจมันก็ต้องแสดงอะไรออกมาบ้าง ในฐานะที่โฉ่วโฉ่วเป็นราชาในหมู่ม้า แค่มันส่งเสียงร้องออกมาม้าตัวอื่น ๆก็ตัวสั่นแล้วก็ประสานเสียงร้องตามกันขึ้นมา หลังจากนั้น…
พวกมันก็ร่วมมือกันสลัดตัวออกจากเชือกที่รัดกุมไว้ราวกับลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคันธนู วิ่งทะยานไปข้างหน้าราวกับสายฟ้า ผ่านไปเพียงครู่เดียวก็ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว
เหลือเพียงครูฝึกม้าที่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วมองไปข้างหน้าด้วยความตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
โฉ่วโฉ่วพ่นลมออกจากจมูกใส่ม้าเซ็กเธาว์อย่างได้ใจ “เมียจ๋า ฉันจะพาเธอกลับบ้านนะ!”
คุณชายโฉ่วเป็นแกนนำวิ่งไปยังประตูใหญ่ของสนามม้า ตอนมามันจำทางได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นทำอะไรมันไม่ได้หรอก
ม้าเซ็กเธาว์ร้องออกมาด้วยความดีใจและรีบวิ่งตามไปติด ๆรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ทุกคนเห็นแค่แสงสีดำกับแสงสีแดงผ่านไปเท่านั้น ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีสนามม้าก็ว่างเปล่า
เหลือเพียงแค่ครูฝึกม้าที่ยังคงตกตะลึงอยู่และคนที่ถือปืนยาสลบไว้ในมือสองสามคน ลูกกระสุนยังไม่ทันได้ยิงออกมาเลยนะ
ผู้ชมที่อยู่บนอัฒจันทร์ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน หนิงเฉินเซวียนตั้งสติขึ้นมาได้เป็นคนแรก รีบตะโกนออกไปว่า “ยังไม่รีบตามออกไปอีก!”
เฮ่อเหลียนชิงก็ตั้งสติขึ้นมาได้เช่นกัน เขาให้เหยียนหมิงซุ่นส่งคนออกไปตามหาโฉ่วโฉ่วพร้อมกำชับว่า “พาภรรยาของโฉ่วโฉ่วกลับบ้านไปด้วยนะ!”
นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ประทานมาให้ ม้าเซ็กเธาว์ออกไปวิ่งเร่ร่อนอยู่ข้างนอกก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ หากเขาเอากลับบ้านไปก็ไม่มีใครว่าอะไรได้
หนิงเฉินเซวียนก็คิดได้แบบเดียวกันกับเฮ่อเหลียนชิง แอบกำชับกับลูกน้องว่า “พาม้าดำตัวนั้นกลับมาด้วย”
หากว่าสามารถพาโฉ่วโฉ่วกลับไปด้วยได้ ความเสียหายในวันนี้ของเขาก็ไม่ได้ถือว่าเยอะมาก อีกทั้งยังสามารถทำให้ตาแก่เฮ่อเหลียนชิงโมโหได้อีกด้วย ไม่เลวเลยล่ะ!
สนามม้าเกิดความโกลาหลขึ้นในทันที เหยียนหมิงซุ่นเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเหมยเหมยเลยให้ลูกน้องส่งเธอกลับบ้านก่อน เขาจะพาคนออกตามหาโฉ่วโฉ่ว ไม่รู้ว่ามันหนีไปอยู่ที่ไหนแล้ว!
“พี่ ไม่ต้องเป็นห่วง โฉ่วโฉ่วฉลาด มันน่าจะแอบกลับไปที่บ้านแล้วล่ะ” เหมยเหมยปลอบเขา เหมือนว่าเธอจะคิดอะไรออกจึงหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ไม่แน่ว่าโฉ่วโฉ่วอาจจะพาภรรยากลับไปที่บ้านด้วยก็ได้นะ!”
เหยียนหมิงซุ่นได้ยินแล้วก็รู้สึกขบขัน ตอบกลับไปว่า “เพ้อเจ้อน่า ถึงโฉ่วโฉ่วจะฉลาดแค่ไหนก็เป็นแค่สัตว์เดรัจฉาน มันจะเก่งกาจขนาดนั้นได้อย่างไรกันล่ะ!”
ตามความคิดของเขาโฉ่วโฉ่วน่าจะถูกขังอยู่ในฟาร์มนานเกินไปเลยรู้สึกเบื่อหน่าย ครั้งนี้ก็เลยออกไปวิ่งเที่ยวเล่นข้างนอก!
ยังดีที่สนามม้าอยู่บริเวณชานเมืองจึงอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองจึงไม่ได้สร้างความวุ่นวายอะไรขึ้นมากนัก แต่ว่าก็ต้องรีบตามหาม้ากลับมาให้ได้โดยเร็วอยู่ดี คนบริเวณชานเมืองก็มีไม่น้อย หากเหยียบถูกคนอื่นเข้าคงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่
นับว่าเหล่าคนสัญจรไปมาในเขตชานเมืองโชคดีได้เห็นภาพที่ร้อยปียังหาดูได้ยาก ม้าตัวสูงใหญ่เป็นฝูงออกมาวิ่งอยู่กลางถนนจนทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนตัวเองเดินอยู่ในทุ่งหญ้า และสัมผัสได้ถึงพลังความแข็งแกร่งของแรงม้า
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงมากที่สุดก็คือม้าสองตัวข้างหน้า ตัวหนึ่งดำตัวหนึ่งแดง นี่สิเรียกว่าความน่าเกรงขาม ม้าทุกตัวอยู่ภายใต้การนำของพวกมันและวิ่งตามอย่างเป็นระเบียบราวกับเป็นพลทหารในกองทัพ
ตกดึกพอเหยียนหมิงซุ่นกลับมาที่บ้านเหมยเหมยถามถึงโฉ่วโฉ่ว เหยียนหมิงซุ่นก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ “กลับมาที่ฟาร์มเอง แถมยังพาม้ากลับมาด้วยอีกเป็นฝูงเลย!”
……………………………………………
ตอนที่ 2198 ตั้งชื่อเอาไว้แล้ว
เหมยเหมยรู้สึกสนใจขึ้นมาในทันทีจึงรีบให้เหยียนหมิงซุ่นเล่ารายละเอียดให้ฟัง
เหยียนหมิงซุ่นอารมณ์ดีมาก พูดพลางหัวเราะพร้อมแกะเปลือกกุ้งให้เหมยเหมยไปด้วย ช่วงนี้ป้าฟางมักจะทำกุ้งให้เหมยเหมยทาน บอกว่าทานแล้วจะทำให้เด็กฉลาดขึ้น
“โฉ่วโฉ่วไม่ได้พาแค่ม้าเซ็กเธาว์กลับมาเท่านั้น แต่ยังพาม้าทุกตัวที่อยู่ในสนามกลับมาด้วย รวม ๆแล้วประมาณสามสิบกว่าตัวทำเอาพ่อบุญธรรมดีใจยกใหญ่เลย ตอนนี้กำลังหาคนมาขยายฟาร์มให้กว้างขึ้น”
เหยียนหมิงซุ่นก็อดดีใจไม่ได้ พูดไปหัวเราะไป เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเขาจริง ๆ
ใครจะไปรู้ว่าโฉ่วโฉ่วไอคิวสูงขนาดนี้ เคยได้ยินว่าไอคิวของม้าที่โตเต็มไวจะเท่ากับเด็กอายุหกเจ็ดขวบ แต่จากที่เขาดูแล้วไอคิวของโฉ่วโฉ่วน่าจะเท่ากับเด็กอายุประมาณ11-12 ขวบหรือมากกว่านั้นด้วยซ้ำ
เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองเหมยเหมยแวบหนึ่ง ฉับพลันก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา เขารู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเหมยเหมยแน่นอน
สัตว์ที่อยู่รอบตัวของเหมยเหมยล้วนไม่ธรรมดาอย่างเช่นฉิวฉิวกับฉาฉา ตอนนี้ก็ยังมีโฉ่วโฉ่วอีก ทุกตัวฉลาดมีปฏิภาณไหวพริบดี มีลูกล่อลูกชนไม่ธรรมดากันทั้งนั้นเลย
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าโฉ่วโฉ่วไม่ธรรมดา พี่ก็ยังไม่เชื่อ!”
เหมยเหมยรู้สึกลำพองใจขึ้นมาในทันที ตอนเช้าเธอพูดเอาไว้แล้วว่าโฉ่วโฉ่วไม่ใช่แค่จะกลับมาบ้านเองได้แต่จะต้องพาเมียกลับมาได้ด้วย แถมยังพาลูกน้องกลับมาด้วยอีกเป็นฝูงแน่นอน เก่งขนาดไหนล่ะ!
เหยียนหมิงซุ่นยื่นมือแตะจมูกของหล่อนเบา ๆแล้วก็เอากุ้งหนึ่งตัวป้อนใส่ปากเธอ พูดขึ้นด้วยความเอ็นดูว่า “เธอเก่งที่สุดแล้ว เป็นเพราะโฉ่วโฉ่วได้รับการดูแลสั่งสอนจากเธอมาเป็นอย่างดีไงล่ะ!”
เหมยเหมยส่งเสียงหึออกมาด้วยความเย่อหยิ่ง ก็แหงสิ!
เธอถามต่อว่า “ตาแก่ไม่อยากจะคืนม้าพวกนี้กลับไปใช่ไหม?”
นี่ถึงกับจะขยายสวนฟาร์ม หรือว่าตาแก่เฮ่อเหลียนชิงคิดจะเก็บม้าทั้งสามสิบตัวไว้คนเดียว?
จุ๊ ๆ เขาจะกระเพาะใหญ่เกินไปหรือเปล่า ม้าตัวหนึ่งราคาตั้งเท่าไร โดยเฉพาะม้าพวกนี้ต่างก็เป็นม้าแข่งทั้งนั้น อย่ามองแต่ว่าพวกมันวิ่งสู้โฉ่วโฉ่วกับม้าเซ็กเธาว์ไม่ได้นะเพราะนั่นเป็นเพราะโฉ่วโฉ่วกับม้าเซ็กเธาว์มาจากชาติตระกูลที่ดี เป็นม้าชั้นดีที่ร้อยปีหาได้ยาก มีเงินก็ไม่สามารถหาซื้อได้
แต่เจ้าของม้าที่เหลือพวกนั้นต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตในเมืองหลวง แล้วจะซื้อม้าธรรมดา ๆได้อย่างไรกัน
เพราะฉะนั้นม้าแข่งพวกนี้ส่วนใหญ่จะมีสายเลือดที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ ทุกตัวอย่างน้อยก็ราคาเป็นหมื่น หรืออาจจะเป็นแสนเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆเลย
ม้าสามสิบตัวรวมกัน อย่างน้อยก็ตั้งหลายล้านแล้ว!
เฮ่อเหลียนชิงวางแผนไว้ดีเหลือเกิน
เหยียนหมิงซุ่นส่ายหัวอย่างเอือมระอา “ไม่ได้คืนทั้งหมด พ่อบุญธรรมคืนไปแค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น ที่เหลือถูกขังอยู่ในสวนฟาร์มรอให้เจ้าของเอาเงินมาไถ่ออกไป”
ม้าสองสามตัวที่เอาคืนเจ้าของไปเป็นของพวกที่ไม่ฝักฝ่ายฝั่งใด พวกเขาเป็นคนที่รักม้าจริง ๆซึ่งไม่ได้ร่วมชิงดีชิงเด่นด้วยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แน่นอนว่าเฮ่อเหลียนชิงเองก็ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้กับพวกเขาเลยส่งม้าพวกนั้นกลับไป
สำหรับเจ้าของม้าอีกยี่สิบตัวที่เหลือ หากไม่ใช่ของลูกน้องของหนิงเฉินเซวียนก็เป็นของพวกนกสองหัวที่ไม่มีจุดยืน เฮ่อเหลียนชิงเกลียดคนพวกนี้ที่สุด แล้วก็แค้นใจที่เมื่อเช้าคนพวกนี้ไม่คิดจะช่วยเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสั่งสอนคนพวกนี้
อยากจะได้ม้ากลับไปงั้นเหรอ?
ได้ งั้นเอาเงินครึ่งหนึ่งมาไถ่ออกไปสิ ห้ามขาดแม้แต่แดงเดียวด้วย!
เหมยเหมยฟังอย่างเพลิดเพลิน “โฉ่วโฉ่วก็เก่งแบบนี้แหละ แถมยังหาเงินเข้าบ้านได้อีกด้วย คนพวกนั้นให้เงินค่าไถ่มาหรือยัง?”
เหยียนหมิงซุ่นอดหัวเราะออกมาไม่ได้อีกครั้ง “แน่นอน เอากลับไปเกือบครึ่งแล้ว พ่อบุญธรรมได้เงินมาเป็นแสน เขาบอกว่าเงินพวกนี้จะเก็บไว้ซื้อของกินอร่อย ๆให้ลูกของเราเลยให้พี่เมิ่งเก็บเอาไว้แล้ว”
ในใจของเหมยเหมยก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ฝีปากของเฮ่อเหลียนชิงทำให้คนเกลียดไม่น้อย แต่บางครั้งการกระทำของเขาก็ทำให้คนเกลียดไม่ลงจริง ๆ แต่ว่าตาแก่นี่คงจะชอบเด็กมากจริง ๆสินะ ดูสิว่าเขามีความอดทนต่อพวกหมาแมวมากแค่ไหน!
“ใช่แล้ว พ่อบุญธรรมตั้งชื่อให้ลูกของเราแล้วนะ” เหยียนหมิงซุ่นพูดต่อ
“ชื่อว่าอะไรเหรอ?” เหมยเหมยรู้สึกสนใจขึ้นมา
“ถ้าเป็นผู้ชายให้ชื่อเฮ่อเหลียนเซียว แต่ถ้าเป็นผู้หญิงให้ชื่อเหยียนเล่อเล่อ เห็นบอกว่าลูกสาวของเราจะได้เป็นเจ้าหญิงที่ไม่ต้องกังวลใจเรื่องใด ๆ” เหยียนหมิงซุ่นกล่าว
………………………………..