ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 3021 ถึงแล้ว + ตอนที่ 3022 เป็นหนิงเฉินเซวียนเสียได้
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 3021 ถึงแล้ว + ตอนที่ 3022 เป็นหนิงเฉินเซวียนเสียได้
ตอนที่ 3021 ถึงแล้ว
เสี่ยวเป่ายื่นมือไปตรงหน้าปากถ้ำแล้วขมวดคิ้วกล่าว “ในถ้ำยังมีทางออกอื่น ๆอยู่ ไฟล้อมไม่ได้ผล!”
“ขอแค่พวกมันออกมาก็พอ ใครจะสนว่าออกทางไหนกันล่ะ!” เน่าเน่าตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ แล้วไปหาฟืนจากละแวกใกล้ ๆสภาพครึ่งแห้งครึ่งชื้นมาเป็นมัดใหญ่
เขาราดน้ำมันก๊าดบนฟืนแล้วกองไว้หน้าปากถ้ำ จากนั้นก็ให้คนอื่นถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะจุดไฟเผาฟืน
เพลิงไฟถูกจุดติดในฉับพลันตามด้วยควันกลุ่มใหญ่ลอยโขมงแต่ลมกลับพัดออกนอกถ้ำ ไม่ว่าจะเป็นสะเก็ดไฟหรือควันไฟล้วนถูกพัดออกนอกถ้ำทั้งหมด
เน่าเน่าไม่มีท่าทีรีบร้อน แต่ตะโกนหาเสี่ยวจูว่า “ฝากด้วย!”
เสี่ยวจูกลอกตาใส่เขาทีหนึ่งแล้วหยิบเอาพัดลมพับได้จากกระเป๋ามาซึ่งขนาดเพียงฝ่ามือ แต่พอเสี่ยวจูเปิดใช้งานกลับขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่า เขาเอาพัดลมเสียบต่อช่อง USB ของคอมพิวเตอร์พกพาโดยตรงก่อนที่ใบพัดจะเริ่มหมุน ไม่มีเสียงให้ได้ยินสักนิดแต่ควันกับสะเก็ดไฟกลับเปลี่ยนทิศทางเข้าไปในถ้ำแทนทันที
เน่าเน่าหัวเราะอย่างดีใจ เขารู้อยู่แล้วว่าเสี่ยวจูสามารถพลิกแพลงสถานการณ์เลวร้ายให้กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ได้ น้องชายของเขานอกจากมีลูกเองไม่ได้ เรื่องอื่นก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
ไม่สิ เน่าเน่ากะพริบตาด้วยความฉงนใจเหมือนเขาจะเข้าใจผิดแล้ว เมื่อก่อนเสี่ยวจูเคยบอกว่าผู้ชายก็มีลูกเองได้เหมือนกันเพียงแต่จะยุ่งยากไปสักหน่อย อีกอย่างเสี่ยวจูไม่ได้อยากไปวุ่นวายนัก
ดังนั้นเรื่องบนโลกนี้ไม่มีเรื่องไหนทำอะไรเสี่ยวจูได้!
เจสันมองพัดลมที่แรงลมขนาดพายุระดับหกนี้อย่างอิจฉา เด็กหนุ่มที่ชื่อเสี่ยวจูคนนี้ช่างเป็นนักคิดค้นที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ของที่คิดค้นออกมาได้แซงหน้าเทคโนโลยีปัจจุบันไปไกล อย่างน้อยก็นำอยู่ยี่สิบปีได้!
“ฮึ่ม…”
มีเสียงคำรามทุ้มต่ำดังแว่วออกมาจากถ้ำ เน่าเน่ายิ้มอย่างได้ใจ “ออกมาแล้ว เตรียมรับมือต่อสู้!”
เพิ่งสิ้นประโยคของเขาก็มีสัตว์ประหลาดสิบกว่าตัวปรากฏตัวตรงปากถ้ำ รวมถึงหมาป่าตัวมหึมาตัวหนึ่ง เน่าเน่าคนเดียวสามารถกำจัดได้อย่างง่ายดาย ภายหลังก็ทยอยกันมาอีกหลายฝูง บางส่วนมาจากในถ้ำ บางส่วนกลับมาจากที่อื่น นับจำนวนดูแล้วไม่มากเท่าไรจึงสามารถกำจัดทิ้งได้อย่างสบาย ๆ
รอจนกระทั่งกลุ่มควันกระจายหายไป เพลิงไฟเองก็ดับลงแล้ว ไม่มีสัตว์ประหลาดกับอสูรยักษ์ออกมาอีก ทุกอย่างตรงหน้าปากถ้ำกลับคืนสู่สภาวะปกติ
“เข้าไปเถอะ มีเวลาไม่มากแล้ว เรารอไม่ได้!” เสี่ยวเป่าเดินนำอยู่ข้างหน้า อย่างมากเหลือเวลาอีกหกสิบกว่าชั่วโมงเชื้อไวรัสก็จะกลายพันธุ์แล้ว เขาต้องชิงขัดขวางแผนการของหนิงเฉินเซวียนให้ได้ก่อน
อีกอย่างเขาอยากรู้จริง ๆว่าเสียงข้างในที่คอยเรียกเขาอยู่ตลอดคืออะไรกันแน่?
ไม่มีใครแย้งแล้วเดินเข้าถ้ำตามหลังเสี่ยวเป่าไป ถ้ำแห่งนี้ไม่ใหญ่นักและมีสภาพแห้งแล้งมาก หลอดไฟของเสี่ยวจูให้ความสว่างในถ้ำเหมือนแสงอาทิตย์ตอนกลางวันช่วยให้มองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
“ถ้ำนี้มาจากการเจาะของมนุษย์ พวกเธอดูสิ บนกำแพงถ้ำมีร่องรอยของเครื่องเจาะ” เสี่ยวเป่าชี้ไปตรงกำแพงถ้ำอันราบเรียบแล้วกล่าว
เล่อเล่อถาม “หรือว่าเป็นฝีมือของหนิงเฉินเซวียนงั้นเหรอ?”
“นอกจากเขาแล้วยังมีใครอีกได้ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ มีชีวิตดี ๆไม่เอาแต่ดันอยากเป็นจักรพรรดิ แถมยังสร้างปัญหาไว้ตั้งเยอะแยะ…” สือเอ้อร์อดที่จะบ่นไม่ได้
ความจริงคุณพ่อของเธอไม่นับว่าเป็นคนปกติ ทำอะไรก็ดูบ้าบิ่นไปเสียหมด แต่อย่างน้อยพ่อของเธอก็เป็นอย่างคนทั่วไป หนิงเฉินเซวียนไม่อาจนับว่ามนุษย์แล้ว สิ่งที่เขาทำไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ทำได้!
“เฮ้ย…นี่มันไข่มุกเรืองแสงสินะ ติดเยอะขนาดนี้คิดจะทำอะไรกันแน่?” เน่าเน่ามองไข่มุกเรืองแสงขนาดเท่าไข่ห่านที่ประดับอยู่ตามกำแพงถ้ำอย่างตกตะลึง มันทอแสงสีนวลออกมาขับให้ภายในถ้ำอันมืดมิดสว่างไสว
“หนิงเฉินเซวียนรวยจริง ๆ แม้แต่กลางหุบเขาใหญ่ยังทำเสียหรูหราขนาดนี้ ไว้เดี๋ยวเราแงะไข่มุกพวกนี้ลงมา คงขายได้ไม่น้อย…” สือเอ้อร์วางแผนไว้ดิบดี
เสี่ยวเป่าหยุดเดินแล้วมองตรงไปข้างหน้านิ่ง เอ่ยเสียงงึมงำว่า “ถึงแล้ว!”
……………………….
ตอนที่ 3022 เป็นหนิงเฉินเซวียนเสียได้
ทุกคนเริ่มระแวงในทันทีแล้วหยิบเอาอาวุธออกมาแต่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเพราะภายในถ้ำยังเงียบสงัดอยู่
“อยู่ไหน?” เล่อเล่อถาม
“ข้างในนี้!” เสี่ยวเป่าชี้ไปที่กำแพงหินตรงหน้าเขา
ทุกคนชะงัก นี่มันแค่กำแพงหินธรรมดาเท่านั้น แล้วจะมีอะไรได้?
“ระวัง…” เสี่ยวจูเป็นคนแรกที่ไหวตัวทัน แต่เขาเพิ่งเปล่งเสียงออกมาได้ไม่นานก็มีกลุ่มควันผงสีชมพูยิงออกมาจากกำแพงหิน พวกเน่าเน่าล้มลงพื้นแต่เสี่ยวเป่ากลับไม่เป็นอะไรสักนิดและยังคงยืนนิ่งเช่นเดิม
เสี่ยวจูกลอกลูกตาทีหนึ่งแล้วก็ล้มไปอีกคน จากนั้นก็รีบเอาถุงอัดออกซิเจนในกระเป๋าออกมาอย่างไว ขณะที่ล้มลงก็หันหน้าลงพื้นเลยสามารถแอบสูดออกซิเจนจึงไม่ถูกศัตรูจับได้
เขาพอจะมั่นใจได้แล้วว่าหัวหน้าสุดลึกลับนั่นไม่ใช่สัตว์ประหลาด
แต่เป็นมนุษย์ มนุษย์เช่นเดียวกับพวกเขา!
เสี่ยวเป่ายืนมองทุกคนล้มลงต่อหน้าต่อหน้า รวมถึงเสวี่ยเอ๋อร์กับฉิวฉิวด้วยเลยร้อนใจดั่งถูกไฟแผดเผา แต่เขาประหลาดใจยิ่งกว่าว่าทำไมเขาไม่เป็นไร ทั้งที่เขาอยู่ใกล้ที่สุดและสูดดมควันพิษเข้าปอดมากที่สุดแท้ ๆ
“เข้ามาสิเด็กน้อย!” เสียงคุ้นเคยดังแว่วมาจากด้านหลังกำแพงหิน
“ครืนนน….”
กำแพงหินเคลื่อนออกจากกันจนเกิดเสียงดังสนั่นก่อนจะเผยให้เห็นสภาพข้างในอย่างแท้จริงและสร้างความตกใจจนเสี่ยวเป่าเบิกตากว้าง ข้างในนี้เป็นถ้ำที่หรูหราโอ่อ่าราวกับราชวัง ไม่สิ…ต้องบอกว่าเป็นตำหนัก
บนกำแพงประดับด้วยไข่มุกเรืองแสง พื้นดินถูกปูด้วยหยกขาวบริสุทธิ์ไร้ตำหนิ รวมถึงของประดับมากมายหลายชนิดที่แต่ละอย่างไม่ใช่ของหาได้ทั่วไป เสี่ยวเป่าถึงขั้นเห็นเครื่องประดับที่เป็นเครื่องเคลือบราคาสูงเสียดฟ้าจากการประมูลหลายอย่าง ทว่าตอนนี้กลับถูกโยนทิ้งไว้บนพื้นเรี่ยราดดั่งของถูกไร้ซึ่งราคา
“ที่อยู่ข้างนอกเป็นของลอกเลียนแบบทั้งนั้น ข้างในนี้ต่างหากที่เป็นของจริง” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง
เสี่ยวเป่าเหลียวมองรอบตัวหมายจะหาต้นตอเสียง พลันเสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “อยู่ข้างนอกมองไม่เห็นฉันหรอก เข้ามาสิ เด็กน้อย!”
เขาลังเลอยู่อึดใจหนึ่ง ฉาฉาเลื้อยมาอยู่ตรงข้อมือเขาและแตะข้อมือเบา ๆเขาอีกหลายที เสี่ยวเป่าจุดยิ้มมุมปากเล็กน้อย ตัดสินใจแน่วแน่แล้วก้าวเท้าเหยียบเข้าไปในตำหนักก่อนที่ฉาฉาจะเลื้อยกลับไป
เสี่ยวจูที่หมอบอยู่ตรงพื้นก็ยกยิ้มมุมปากไม่ต่างกัน เมื่อครู่ฉาฉาเพิ่งติดตั้งเครื่องมอนิเตอร์ขนาดจิ๋วที่เขาคิดค้นมาโดยเฉพาะไว้บนตัวเสี่ยวเป่า ต่อให้เขาอยู่ข้างนอกก็สามารถมองเห็นสถานการณ์ข้างในนั้นได้อย่างชัดเจน
เสี่ยวเป่าเดินเข้าไปพบว่าตำหนักมีขนาดใหญ่กว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก เป็นการตกแต่งตำหนักตามฉบับของฮ่องเต้ไม่มีผิด ถึงขั้นวางเก้าอี้มังกรทองอร่ามตั้งตระหง่านอยู่จุดสูงสุด ข้างบนนั้นมีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่
คนคนหนึ่งที่ทำให้เขาอยากกรีดร้องออกมาเป็นครั้งแรก
เสี่ยวเป่าสูดหายใจเข้าลึกพยายามให้ตัวเองใจเย็นลง เขายกแขนขึ้นสูงเล็กน้อย ฉาฉาติดตั้งเครื่องมอนิเตอร์ไว้ตรงแขนเสื้อของเขา มีขนาดเท่าเข็มและเปลี่ยนสีได้
“คุณตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” เสี่ยวเป่าผ่อนน้ำเสียงอ่อนลงแสร้งทำเหมือนไม่ตกใจ ความจริงภายในใจเขาราวกับมีคลื่นยักษ์ซัดเข้าหา ภายในหัวสับสนวุ่นวายไปหมด
เกินความคาดหมายของเขามากไปจริง ๆ
เสี่ยวจูบอกว่าอาจจะเป็นคนคุ้นเคย เขาเคยคิดถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนแต่กลับไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนผู้นี้!
เสี่ยวจูที่อยู่ข้างนอกได้เปิดโน้ตบุ๊คแล้วเชื่อมต่อกับเครื่องมอนิเตอร์ ภาพปรากฏบนหน้าจอพร้อมกับชายผู้นั้นที่นั่งเด่นอยู่จุดสูงสุด เสี่ยวจูก็ตกใจไม่แพ้เสี่ยวเป่าเลย
คนคุ้นเคยนี้กลับเป็นหนิงเฉินเซวียนที่ถูกประหารชีวิตไปเมื่อสิบแปดปีก่อน
อีกทั้งยังดูอ่อนเยาว์กว่าเมื่อสิบแปดปีก่อนประมาณหนึ่ง ดวงตาจมูกโครงหน้าเหมือนเดิมไม่มีผิด รูปร่างขนาดตัวส่วนสูงเองก็ไม่เพี้ยนจากเดิมสักนิด
ปฏิกิริยาแรกของเสี่ยวจูคือหนิงเฉินเซวียนเมื่อสิบแปดปีก่อนไม่ได้ตาย เขาหนีออกมาต่างหาก!
……………