ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 477 ฉันขอปฎิเสธ ตอนที่ 478 นี่แหละความแตกต่าง!
ตอนที่ 477 ฉันขอปฎิเสธ
สิ้นเสียงเฮ่อเล่อเฟิง หลินเยียนถึงกับต้องงง
ร่วมมือกันเป็นอย่างดีงั้นเหรอ?
การแข่งขันประเดิมด้วยชีวิตของตระกูลเฮ่อครั้งนั้น ตัวเองเป็นเนวิเกเตอร์ของเฮ่อเล่อเฟิงแทบจะโมโหเฮ่อเล่อเฟิงจนตายแล้วเหอะ เขายังมีหน้ามาบอกว่าร่วมมือกันเป็นอย่างดี…สรุปว่าเขารู้สึกดีคนเดียวสินะ
“ฉันขอปฎิเสธ” หลินเยียนพูดปฎิเสธไปทันที “เธอเป็นยังไงฉันรู้ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่พูดอะไรบนรถอวิ๋นเซวียนหรอก แค่อยากดูสภาพอวิ๋นเซวียนแค่นั้นเอง เธอขับดีๆ แล้วกัน”
หลังจากโดนหลินเยียนปฏิเสธซึ่งๆ หน้าแบบนั้นแล้ว เฮ่อเล่อเฟิงเผยสีหน้าใจแหลกสลาย พึมพำหลายคำแล้วได้แต่เลื่อนกระจกขึ้นเหมือนเดิม
“ลองทำความคุ้นเคยกับรถนี่หน่อยไหม?” หลินเยียนมองไปทางอวิ๋นเซวียนที่อยู่ฝั่งคนขับ
อวิ๋นเซวียนเคลื่อนสายตาอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่กี่วิถึงพูดขึ้น “ไม่ต้องครับพี่สาว ผมคุ้นเคยแล้ว ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ ผมเช่ารถแบบนี้บ่อย”
“สู้ๆ นะ” หลินเยียนพยักหน้า
หลังจากผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนโบกธงส่งสัญญาณแล้ว รถที่เฮ่อเล่อเฟิงและอวิ๋นเซวียนเป็นคนขับ แทบจะเคลื่อนตัวในเวลาเดียวกัน พุ่งตัวออกจากจุดสตาร์ทอย่างรวดเร็ว
เมื่อรถอยู่ในสถานะเคลื่อนตัวแล้ว สายตาหลินเยียนมองไปทางอวิ๋นเซวียนเป็นพักๆ
ช่วงเริ่มต้น อวิ๋นเซวียนไม่มีความแตกต่างจากปกติ แต่ด้วยเวลาผ่านไป หลินเยียนพบว่าอวิ๋นเซวียนต่างไปจากปกติเล็กน้อย
ภายในดวงตาคู่นั้น มีความเร่าร้อนอันบ้าคลั่งปรากฎขึ้น ขับแซงรถที่เฮ่อเล่อเฟิงขับในพริบตาแล้ว มุมปากเสยขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจขึ้น
“เขาอ่อนเกินไปน่ะ” ขณะที่มุมปากอวิ๋นเซวียนเสยขึ้น เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ซู่ว!
อวิ๋นเซวียนเพิ่งพูดจบไม่นาน รถที่เขาขับได้ผ่านรอบแรกเสร็จสิ้นแล้ว
เฮ่อเล่อเฟิงในขณะนี้ กำลังไล่ตามด้วยความพยายามสุดขีด
รถที่เฮ่อเล่อเฟิงขับมีฟังก์ชั่นดีกว่ารถที่อวิ๋นเซวียนขับ ตามหลักแล้วความเร็วไม่ควรช้ากว่าอวิ๋นเซวียน
แต่การที่เฮ่อเล่อเฟิงไล่ตามอวิ๋นเซวียนไม่ทันก็อยู่ในการคาดเดาเสียแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ในเส้นทางแข่ง การจัดการเลี้ยวโค้งต่างๆ หรือการจัดการต่ออุปสรรคต่างๆ บนพื้นถนน อวิ๋นเซวียนล้วนจัดการได้อย่างสวยงามละเอียดอ่อน
ถ้ารายละเอียดพวกนี้จัดการได้ไม่ดี ช้ากว่าคนอื่นไปเสี้ยววิก็ถือว่าห่างกันเป็นพันลี้แล้ว ถ้าช้ากว่าหลายวิ ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่โดนไอจากท่อรถคันหน้าไม่ได้ซะแล้ว ส่วนการจัดการในสนามของเฮ่อเล่อเฟิงและอวิ๋นเซวียน นับได้ว่าเฮ่อเล่อเฟิงอยู่ในจุดที่ตามควันที่ปล่อยจากรถอวิ๋นเซวียนไม่ได้
จากการรับมือต่ออุปสรรค์ในสนามและโค้งต่างๆ นั้น เฮ่อเล่อเฟิงแทบจะช้ากว่าอวิ๋นเซวียนไปมากกว่าห้าวิ ห้าวินี้…..ถือว่าเป็นความแตกต่างราวกับฟ้าดิน!
ขณะเดียวกันหลินเยียนมองสำรวจอวิ๋นเซวียน
แววตาของอวิ๋นเซวียนเร่าร้อนกว่าที่เคยอย่างชัดเจน เหมือนอยู่ในห้วงอารมณ์จนลืมตัว ในสายตาเหลือแค่เพียงเส้นทางการแข่งขัน การรับมือต่ออุปสรรคบนพื้นถนนและโค้งเลี้ยวแต่ละอันนั้น ราวกับว่าผ่านการฝึกฝนมานับพันครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นเซวียนทำการฝึกในสนามแข่งของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ
อวิ๋นเซวียนในวินาทีนี้ทำให้หลินเยียนเกิดความรู้สึกว่าเด็กผู้ชายตรงหน้านี้เหมือนหนึ่งในลูกศิษย์ของเขาอย่างเด๊ดบุชเชอร์
ไม่ว่าจะเป็นสภาวะในการขับรถ หรือ…สไตล์ในการขับรถ
สิ่งที่แตกต่างไปคือ ลูกศิษย์ของเธอนั้นไม่มีนิสัยเรียบร้อยเหมือนอวิ๋นเซวียน อีกทั้งไม่ใช่คนอ่อนน้อมถ่อมตัวแต่อย่างไร นอกจากเยวาอาจารย์ของตัวเองแล้ว ไม่ชอบขี้หน้าใครและไม่ยอมใครทั้งนั้น อีกทั้งไม่มองศิษย์พี่ศิษย์น้องของตัวเองอยู่ในสายตาด้วย ถือว่าเป็นลูกศิษย์ที่ไม่มีใครอยากเจอที่สุดในบรรดาลูกศิษย์ของหลินเยียน
ตอนที่ 478 นี่แหละความแตกต่าง!
ผ่านไปสักพัก รถที่อวิ๋นเซวียนเป็นผู้ขับ เบรกแล้วจอดรถอยู่ตรงหน้าเส้นชัย
หลินเยียนตั้งตัวได้แล้วมองไปทางอวิ๋นเซวียน “ทำไมไม่ขับไปถึงเส้นชัยล่ะ”
ในขณะนี้ความเร่าร้อนและคึกคะนองภายแววตาอวิ๋นเซวียนหายไปแล้ว กลับคืนสู่ท่าทางเรียบร้อยเหมือนเดิม เขาพูดขึ้นด้วยความลังเล “พี่สาวครับ…ผมควรรอเล่อเฟิงหน่อยไหม…ผมเร็วกว่าเขาเยอะเลย…แบบนี้จะไม่ค่อยดีหรือเปล่า”
หลินเยียน “…”
นี่แหละหนอความแตกต่าง!
พวกลูกศิษย์เธอที่รออยู่ตรงเส้นชัยก็เพื่อเหยียดหยามคู่แข่ง แต่รอคนอยู่เส้นชัยก็เพราะใส่ใจในความรู้สึกคนอื่นเนี่ยนะ!
“ไม่ต้องหรอก” หลินเยียนถอนหายใจ พูดขึ้นด้วยความลำบากใจเล็กน้อย “เขาโดนหยามจนชินแล้วล่ะ”
“งั้น…ก็ได้ครับ’ ในที่สุดภายใต้การโน้มน้าวของหลินเยียน อวิ๋นเซวียนถึงขับเข้าสู่เส้นชัย
ผ่านไปประมาณสามนาที เฮ่อเล่อเฟิงถึงค่อยไล่ตามมา
“บ้าเอ้ย…ทำได้ไงเนี่ย ฉันไม่เห็นนายมีเทคนิคในสนามพิเศษอะไรเลย ทำไมนายถึงเร็วกว่าฉันขนาดนั้น? หรือว่า…ฟังก์ชันรถของฉันเทียบกับของนายไม่ได้?” เฮ่อเล่อเฟิงเห็นอวิ๋นเซวียนที่จอดรถเทียบเส้นชัยตั้งนานแล้ว และกำลังคุยเล่นกับพวกหลินเยียนและนายผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนอยู่ เอ่ยด้วยสีหน้าอึ้งทึ่ง
“ขอโทษนะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่คิดว่านายขับช้าเกินไปน่ะ…” อวิ๋นเซวียนเงยหน้าขึ้นแล้วอธิยายให้เฮ่อเล่อเฟิงฟังด้วยเสียงเบา
เฮ่อเล่อเฟิงอยากจะร้องไห้ เขาขับช้าขนาดนั้นเลยเหรอ
จริงๆ แล้วก็เหมือนที่เฮ่อเล่อเฟิงพูดนั่นแหละ อวิ๋นเซวียนไม่มีเทคนิคพิเศษอะไรในสนาม รวมถึงการหักโค้งนั้นก็เป็นการเลี้ยวอย่างปกติ แต่เนื่องจากใส่ใจกับรายละเอียดก็เลยทำให้อวิ๋นเซวียนเร็วกว่าเฮ่อเล่อเฟิงเยอะ
“เป็นเรื่องธรรมดาที่นายช้ากว่าเขา” สายตามั่วซูอวิ๋นที่ยืนอยู่ข้างๆ มองไปทางเฮ่อเล่อเฟิง “การจัดการอุปสรรคบนพื้นผิวสนามต่างจากอวิ๋นเซวียนไปเยอะมาก นายสิบคนยังสู้อวิ๋นเซวียนคนเดียวไม่ได้เลย”
“อ๋า? จัดการอุปสรรคในสนามดีกว่าผม?” เฮ่อเล่อเฟิงงงเล็กน้อย เขาจัดการได้ดีไม่ใช่เหรอ
“แต่จะว่าไป อวิ๋นเซวียน นายเซอร์ไพร์สฉันอยู่นะ นายมีศักยภาพสูง” มั่วซูอวิ๋นมองพิจารณาอวิ๋นเซวียนอีกครั้ง
“ขอบคุณครับกัปตัน…เทียบกับกัปตันแล้ว ผมยังบกพร่องอีกเยอะ ผมหวังว่าจะได้เรียนรู้จากกัปตัน ผมอยากพัฒนาขึ้น” อวิ๋นเซวียนเอ่ยปากพูดขึ้นด้วยเสียงเบา
“ฮ่าๆๆ พูดได้ดีมาก ไม่ต้องห่วง ฉันต้องสั่งสอนพวกนายเป็นอย่างดี อวิ๋นเซวียน นายถือว่าผ่านด่านฉันไปแล้วล่ะ” มั่วซูอวิ๋นพูดขึ้น
“ดีมาก ขับได้ดีจริงด้วย สมาชิกทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก่อนหน้านั้น ไม่มีใครเทียบกับอวิ๋นเซวียนได้เลย ด้วยฝีมือของนาย เข้าร่วมทีมรถแข่งระดับกลางแล้วลงแข่งเลยก็ไม่ใช่ปัญหา” เฮ่อติ้งคุนพูดขึ้น
เด็กผู้ชายที่ชื่ออวิ๋นเซวียนนี่ทำให้เขาตะลึงจริงๆ
“เถ้าแก่ดูถูกอวิ๋นเซวียนเกินไปน่ะ แค่การจัดการต่ออุปสรรคในสนามนี้ ถ้าอวิ๋นเซวียนทำการฝึกแบบมืออาชีพล่ะก็ จะดีกว่านักแข่งแนวหน้าเยอะเลยล่ะครับ” มั่วซูอวิ๋นให้คะแนนอวิ๋นเซวียนค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
“บ้าเอ้ย…พี่ พี่อวิ๋น พี่ขับยังไงน่ะ สอนผมเถอะ…” ขณะเดียวกัน เฮ่อเล่อเฟิงวิ่งไปข้างๆ อวิ๋นเซวียนด้วยความตื่นเต้น “พี่เก่งมากเลย!”
“ขอบ…ขอบคุณนะ…ฉันเองยังต้องเรียนรู้…ยังขาดตกบกพร่องอีกเยอะ…พวกเราสู้ไปด้วยกันนะ” อวิ๋นเซวียนพูดขึ้นเสียงเบา
“ในขณะนี้ เรื่องฝึกยังไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็มีแค่พวกเราไม่กี่คน คนอื่นฉันให้พวกเขาไสหัวไปหมดแล้ว ตอนนี้ต้องหาลูกทีมก่อน อวิ๋นเซวียน วัยรุ่นที่ชื่นชอบในรถแข่งที่นายเคยคลุกคลีนั่น มีใครที่ขับรถใช้ได้ไหม” มั่วซูอวิ๋นถามขึ้น
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว อวิ๋นเซวียนครุ่นคิดสักพักแล้วค่อยๆ พูดขึ้น “เหมือนจะ…วิ่งได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ”
“ช่างเถอะ เรื่องพวกนี้ฉันค่อยจัดการเอง รอหานักแข่งเข้ามาในทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อแล้ว ฉันค่อยซ้อมให้พวกนาย” มั่วซูอวิ๋นพูดขึ้น