ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 647 นายยอมรับก็พอแล้ว ตอนที่ 648 ให้ผมลงแข่งก็ยังไหว
ตอนที่ 647 นายยอมรับก็พอแล้ว
ฉีเซ่าหยวนฟังเว่ยสวีเฟิงพูดจบด้วยท่าทีสงบนิ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาทันที
เด็กคนนี้นี่ สมองมีปัญหาอะไรกันแน่นะ ทำไมความคิดถึงได้ชั่วร้ายขนาดนี้
อันที่จริงทุกอย่างมันไม่ได้สลับซับซ้อนขนาดนั้นเลยจริงๆ หลินเยียนไม่ได้ตั้งใจสร้างภาพลักษณ์อะไรทั้งสิ้น คนเขามีฝีมือในการแข่งรถแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว…
อยากจะทำความรู้จักกับเยวาตัวจริงสักหน่อยไหม?
เพียงแต่เมื่อลองคิดให้ถ้วนถี่ ที่จริงจะไปโทษเว่ยสวีเฟิงไม่ได้เช่นกัน ถ้าตัวเขาไม่ได้รู้สถานะของหลินเยียนโดยบังเอิญ เขาไม่มีทางเชื่อเช่นกันว่าหลินเยียนจะเป็นเยวา ไม่สิ กระทั่งว่าตัวเขาไม่มีทางคิดแบบนี้เสียด้วยซ้ำ
ถึงแม้ฉีเซ่าหยวนจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่นับตั้งแต่บอสเข้าวงการบันเทิงมา คำวิจารณ์ก็ย่ำแย่อย่างรุนแรงมากจริงๆ ถูกแอนตี้ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตไม่เคยได้หยุดหย่อน
ตอนนี้ฉีเซ่าหยวนทำได้แต่ลอบทอดถอนใจ เว่ยสวีเฟิงช่างน่าสงสารเหลือเกิน ถ้าวันไหนเขารู้ความจริง รู้ว่าเยวาก็คือหลินเยียน เขาจะเอาหัวโขกเต้าหู้ตายหรือเปล่านะ
แม้ว่าฉีเซ่าหยวนอยากจะบอกความจริง แต่จนใจที่ก่อนหน้านี้เคยรับปากหลินเยียนไปแล้วว่าจะไม่แพร่งพรายให้คนนอกรู้แม้แต่คำเดียว
ตอนนี้ถึงแม้จะร้อนใจ ถึงกระนั้นกลับทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ทำได้แค่หวังว่าหลินเยียนจะถูกสุ่มให้ลงสนาม ให้เจ้าหนุ่มเว่ยสวีเฟิงคนนี้เบิกตามองให้ดีว่าหลินเยียนสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นนักแข่งรถที่มีฝีมือแข็งแกร่งจริงหรือเปล่า
“เจ้าบ้า นายว่าที่หลินเยียนเอาชนะดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูก่อนหน้านี้มีปัญหาหรือเปล่า?” ฉีเซ่าหยวนมองเว่ยสวีเฟิง จงใจเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนา
เมื่อได้ยินเว่ยสวีเฟิงก็ตอบเรียบๆ “นี่ยังต้องพูดอีกเหรอ ก็เหมือนให้ฉันไปแข่งกับดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู ผลลัพธ์คือฉันชนะ นายจะคิดว่าฉันใช้ความสามารถที่แท้จริงเอาชนะดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูได้หรือเปล่าล่ะ?”
“นายต้องเล่นโกงแน่” ฉีเซ่าหยวนหลุดปากพูดโดยอัตโนมัติ
เว่ยสวีเฟิง “ถึงคำพูดของนายจะไม่มีปัญหา แต่ฉันมักรู้สึกว่า…นายดูถูกฉันอยู่”
เมื่อเว่ยสวีเฟิงพูดจบ ฉีเซ่าหยวนก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ยิ้มแย้มพร้อมพูดกับเว่ยสวีเฟิงว่า “เชื่อมั่นในตัวเองหน่อยสิ เอาคำว่ามักรู้สึกว่าทิ้งไป ฉันน่ะดูถูกนาย”
เว่ยสวีเฟิง “…”
ฉีเซ่าหยวนพูดต่อโดยไม่ปล่อยโอกาสให้เว่ยสวีเฟิงเอ่ยปาก “การแข่งอื่น สนามอื่น ฉันไม่ขอพูดถึง นายบอกว่าเล่นโกงก็เล่นโกง…แต่ การแข่งแบบนี้ นายคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะโกงงั้นเหรอ”
เว่ยสวีเฟิงส่ายหน้าโดยแทบจะไม่ต้องคิดสิ่งใดทั้งสิ้น “เป็นไปไม่ได้ นี่คือการแข่งจัดอันดับ ทีมใหญ่น้อยภายในประเทศต่างเข้ามร่วมกันหมดทุกทีม การจัดอันดับแทบจะเป็นอนาคตของทุกทีม ไม่มีทางเล่นโกงกันแน่”
“นายยอมรับก็พอแล้ว” ฉีเซ่าหยวนใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชม
สิ่งที่ฉีเซ่าหยวนกลัวมากที่สุดก็คือถึงเวลาสุ่มได้บอสลงสนาม พอชนะแล้วกลายเป็นว่าเจ้าเด็กนี่จะทำอะไรแย่ๆ อย่างการพูดว่าบอสเล่นโกงอีก
ดังนั้นฉีเซ่าหยวนจึงฉีด ‘ยาป้องกัน’ ให้เว่ยสวีเฟิงไว้ล่วงหน้า ให้เว่ยสวีเฟิงพูดออกมาเองว่าการแข่งขันแบบนี้ไม่มีทางโกงกันได้ พอเป็นเช่นนี้ ถึงว่าหากบอสถูกสุ่มให้ลงสนามและเอาชนะได้ ดูสิว่าเว่ยสวีเฟิงคนนี้ยังมีอะไรจะพูดอีก
“บอส ไอดอล เทพธิดา…คุณต้องถูกสุ่มให้ได้นะ!!!” ฉีเซ่าหยวนแอบขอพรอยู่ในใจ ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลยนอกจากอยากเห็นเว่ยสวีเฟิงถูกตบหน้าอย่างจัง ทางที่ดีที่สุดก็คือตบให้ฟันร่วงไปเลย
ผ่านไปราวสี่สิบนาที นักข่าวที่อยู่ในสนามทั้งหมดต่างประจำที่ รวมถึงโฆษกก็เตรียมตัวแสตนด์บายเรียบร้อย
การแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้กำหนดเวลาเอาไว้สามวัน ภายในสามวันจะต้องแข่งขันจนจบ
เนื่องจากมีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันมากมายเหลือเกิน หากคิดที่จะแข่งให้จบภายในระยะเวลาอันสั้นนั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้
และในช่วงเวลานี้ ทีมที่ไม่ได้ถูกสุ่มให้ลงสนามกลับไม่อาจออกไปได้ ทำได้แค่รอคอยอยู่ที่บริเวณเตรียมตัวการแข่งเท่านั้น
ตอนที่ 648 ให้ผมลงแข่งก็ยังไหว
สนามแข่งแบ่งเป็นสามส่วนและสามกลุ่ม นั่นคือกลุ่มเอ กลุ่มบี และกลุ่มซี
ส่วนทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อถูกจัดให้อยู่กลุ่มซี
กลุ่มเอ กลุ่มบี และกลุ่มซี สามกลุ่มนี้ความสามารถโดยรวมไล่ไปตั้งแต่แข็งแกร่งไปจนถึงอ่อนแอ กลุ่มเอมีความสามารถแข็งแกร่งมากที่สุด รองมาคือกลุ่มบี ส่วนกลุ่มซีนั้นอ่อนแอมากที่สุด
แน่นอนว่านี่เป็นแค่การเปรียบเทียบกันเท่านั้น อย่างเช่น กลุ่มเอมีทีมรถแข่งระดับสุดยอดอยู่ ทีมระดับสุดยอดในกลุ่มบีจะมีความสามารถด้อยกว่าเล็กน้อย ส่วนกลุ่มซี จะมีแค่ทีมระดับแนวหน้า ยังไม่ถึงขั้นทีมระดับสุดยอดอย่างแท้จริง
การแบ่งระดับความแข็งแกร่งและอ่อนแอแบบนี้มีความหมายสำหรับทีมระดับสุดยอดพวกนั้นเท่านั้น แต่ไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้นต่อทีมระดับสูง ระดับกลาง หรือว่าระดับต้น เพราะถือว่าเป็นกลุ่มแห่งความตายทั้งนั้น
แน่นอนว่าไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้นต่อหลินเยียนเช่นเดียวกัน
ณ บริเวณเตรียมตัวแข่ง พวกของหลินเยียนกับมั่วซูอวิ๋นผมใกล้หงอกจนหมดหัวแล้ว การแข่งขันถึงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ทีมที่จะเข้าสู่การแข่งขันก่อนก็คือกลุ่มซี ซึ่งก็คือกลุ่มที่ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่ออยู่นั่นเอง
สองทีมที่เข้าสู่สนามแข่งต่างเป็นทีมเล็กๆ ระดับต้นทั้งสิ้น
“เฮ้อ โชคไม่ดีจังเลย! ทำไมไม่ใช่พวกเรานะ!” เมื่อเห็นรูปการณ์ มั่วซูอวิ๋นก็ปวดใจอย่างยิ่ง “ผมอยากแข่งกับทีมระดับต้นมากเลยนะ!”
หลินเยียน “…” ช่างเป็นคนที่ได้เรื่องเสียจริงเชียว
“คุณดูสิ คุณมองดูสิ เป็นทีมเล็กระดับต้นทั้งนั้นเลย ทำไมคนอื่นโชคดีขนาดนี้นะ ทีมเล็กระดับต้นสองทีมถูกสุ่มให้ลงแข่ง นี่ต้องอาศัยความสามารถกันล้วนๆ แล้ว!” มั่วซูอวิ๋นเอ่ย
“หัวหน้า ไม่ต้องร้อนใจไป พวกเราอาจได้เจอกับทีมบลาสท์ก็ได้นะ!” หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆ เฮ่อเล่อเฟิงก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา
เมื่อเฮ่อเล่อเฟิงพูดจบ ดวงตามั่วซูอวิ๋นก็เปล่งประกายเล็กน้อย
เฮ่อเล่อเฟิงพูดไม่ผิด ด้วยอันดับรายชื่อของทีมบลาสท์ พวกเขาสองทีมน่าจะมีโอกาสได้พบกันสูง!
ด้วยสถานะของทีมบลาสท์ นี่ถือเป็นการเอาคะแนนให้พวกเขาแล้วจริงๆ!
“เฮ้อ ก็ไม่ถูกนะ ผมได้ยินมาว่าหัวหน้าที่มาใหม่ของทีมบลาสท์คนนั้นความสามารถพอใช้ได้ ถ้าสุ่มเจอหัวหน้าของพวกเขา ถ้าทำไม่ดีพวกเราอาจวิ่งสู้ไม่ได้นะครับ” เฮ่อเล่อเฟิงครุ่นคิดจากนั้นจึงพูดออกมา
“นายช่วยมองพวกเราดีสักหน่อยได้หรือเปล่า” มั่วซูอวิ๋นเหล่มองเฮ่อเล่อเฟิงทันที
“หัวหน้า ก็อย่างที่พูดกัน รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง พวกเราต้องวิเคราะห์ตามความเป็นจริงครับ” เฮ่อเล่อเฟิงกล่าวระคนหัวเราะ
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งฉันน่ะรู้จัก แต่นายควรจะทำตั้งแต่แรก นี่มันเริ่มแข่งกันแล้ว นายถึงจะมารู้เขารู้เราเนี่ยนะ?” มั่วซูอวิ๋นถอนหายใจด้วยความจนใจอยู่บ้าง
ตอนนี้สายตาของหลินเยียนอยู่บนสนาม มองดูการไล่ตามกระแทกกระทั้นของทีมระดับต้นสองทีมที่อยู่บนสนาม
ผ่านไปราวสิบกว่าวินาที หลินเยียนก็นวดดวงตาทั้งสองข้าง
เธอ…เธอรู้สึกว่าดวงตาเธอถูกลบหลู่เสียแล้ว!
นี่มันอะไรกัน ทีมระดับต้นสองทีมนี้กำลังเล่นเด็กขายของกันหรือไง อ่อนกว่าทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อตั้งเยอะ!
ต้องบอกว่าการถูกจัดให้มาอยู่กลุ่มซีนี้ใช่ว่าจะไร้เหตุผลจริงๆ
เพียงแต่ในทางกลับกัน ทีมแบบนี้ยิ่งมีจำนวนมากก็ยิ่งดี พวกเขายิ่งห่วย ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็มีหวังมากขึ้น อย่างน้อยต่อให้สุ่มไม่ได้ตัวเธอเอง หากทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเจอทีมระดับต้นแบบนี้ก็คงเอาชนะได้โดยง่าย ไม่ต้องมีความตึงเครียดอะไรทั้งสิ้น
“พี่ครับ สองทีมนั้นอ่อนแอจังเลยน้า ให้ผมลงแข่งก็ยังไหว!” เฮ่อเล่อเฟิงพูดกับหลินเยียน
เมื่อได้ยินหลินเยียนก็มองเฮ่อเล่อเฟิง
หลังจากผ่านการฝึกซ้อมของมั่วซูอวิ๋นมาหลายวัน ทักษะของเฮ่อเล่อเฟิงก็เพิ่มพูนขึ้นไม่น้อย เรื่องนี้ใช่ว่าหลินเยียนจะไม่รู้ แต่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ หากให้เขาลงสนามคงไม่ไหวจริงๆ
ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อออกไปไหนไม่ได้ระหว่างการแข่งขัน ทำได้แค่รออยู่ตรงนี้ เมื่ออยู่ว่างไม่มีอะไรทำจึงได้แต่ดูการแข่งของทีมอื่น และการกระแทกกันไปมาบนสนามแข่งแบบนี้ทำให้หลินเยียนง่วงเหงาหาวนอน