ลืมรักเลือนใจ - ตอนที่ 675 ฝีมือในการแกล้งคนของคุณเผยถึงขั้น MAX! ตอนที่ 676 ยังมีความสามารถแบบนี้อยู่ด้วย
- Home
- ลืมรักเลือนใจ
- ตอนที่ 675 ฝีมือในการแกล้งคนของคุณเผยถึงขั้น MAX! ตอนที่ 676 ยังมีความสามารถแบบนี้อยู่ด้วย
ตอนที่ 675 ฝีมือในการแกล้งคนของคุณเผยถึงขั้น MAX!
หลินเยียนอกสั่นขวัญแขวนมาตลอดทาง ครุ่นคิดว่าผู้หญิงคนนี้คิดจะไปที่ไหนกันแน่
หลังจากผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงรถยนต์ก็จอดอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าที่ไฮคลาสมากที่สุดในเมืองตี้ตู
สิ่งที่ขายภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เป็นแบรนด์หรูระดับไฮคลาสทั้งสิ้น
“เธอมาที่นี่ทำไมน่ะ?” หลินเยียนเกิดลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีอย่างน่าประหลาด
เผยอวี้เฉิงหยิบหน้ากากปิดปากและหมวกแก๊ปออกมาจากรถหลินเยียนแล้วสวมใส่ จากนั้นก็เดินเข้าไปในตัวห้างด้วยท่าทางที่คุ้นเคย เขากดลิฟท์และเดินไปยังแผนกสุภาพบุรุษที่อยู่ชั้นบนสุด
“พี่สาว นี่เธอจะทำอะไรกันแน่? เธอคงไม่ได้จะมาซื้อของที่นี่หรอกนะ? เธอรู้หรือเปล่าว่าของที่นี่มันแพงมากแค่ไหน?” หลินเยียนถามด้วยความประหลาดใจ
เท้าของเผยอวี้เฉิงหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายชุดสูทสำเร็จรูปสำหรับบุรุษร้านหนึ่ง จากนั้นก็เดินสาวเท้าเข้าไปข้างใน
“ยินดีต้อนรับค่ะ!” พนักงานขายสาวต้อนรับแขกไปพลาง มองสำรวจหลินเยียนไปพลาง
หลินเยียน “พี่สาว เธอดูฉันแต่งตัวสิ เข้ามาในสถานที่แบบนี้ เธอไม่กลัวว่าจะถูกคนเขาไล่ออกไปหรือไง?”
“คุณผู้หญิง ต้องการอะไรหรือเปล่าคะ? ฉันแนะนำให้คุณได้นะคะ” พนักงานขายสาวเอ่ยปากอย่างมีมารยาท
พนักงายขายของที่นี่เป็นคนฉลาด ถึงแม้ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าจะแต่งตัวดูธรรมดามากก็ตาม ถึงกระนั้นกลับมีบุคลิกที่ทำให้คนเห็นแล้วเกรงกลัว มาสถานที่เช่นนี้ของพวกเขากลับไม่ขลาดกลัวแม้แต่น้อย ตรงข้ามสายตากลับแฝงการพินิจพิเคราะห์ราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ในสถานที่ธรรมดาทั่วไปอย่างนั้น
พนักงานขายสาวถูกสะกดด้วยความน่าเกรงขามของผู้หญิงคนนี้จนไม่กล้าเพิกเฉย
หลินเยียน “พี่สาว เธออย่าหาเรื่องสิ! เธอช่วยดูหน่อยสิว่าชุดสูทของที่นี่มันราคาตั้งเท่าไหร่! ขายเธอทิ้งยังซื้อไม่ได้เลย! อีกอย่างนะ เธอมีเงินที่ไหนกันเล่า! เอ่อ ไม่ถูกสิ…เธอคงไม่คิดที่จะ…”
เผยอวี้เฉิงหยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าสตางค์ของหลินเยียนทันที จากนั้นก็ชี้ไปยังชุดสูทสีเทาเงินตัวหนึ่งพร้อมพูดกับพนักงานขายสาวว่า “ห่อชุดนี้ให้ฉันด้วย”
พนักงานขายสาวใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มทันที “ได้ค่ะๆ คุณรอเดี๋ยวนะคะ!”
ชุดแพงขนาดนี้ ตั้งแต่เลือกจนถึงตัดสินใจซื้อกลับใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาที เป็นลูกค้ารายใหญ่จริงๆ ด้วย!
พนักงานขายสาวพูดด้วยความกระตือรือร้น “คุณผู้หญิงคะ ขอถามว่าคุณซื้อเป็นของขวัญใช่หรือเปล่าคะ? จะให้ฉันห่อเป็นของขวัญให้คุณหรือเปล่า?”
เผยอวี้เฉิง “อืม ได้”
ตอนนี้เวลานี้หัวสมองหลินเยียนชัตดาวน์ ฟ้าถล่มดินทลายแล้วจริงๆ!
ชุดสูทราคาถึงหกหลักเชียวนะ! แค่เห็นเธอก็ซื้อไม่ลงแล้ว!
แถม! ที่รูดอยู่นั่น! ยังเป็น! บัตร! ของเธอ! อีกด้วย!
หลินเยียน “พี่สาว ทำไมเธอต้องซื้อชุดสูทผู้ชายด้วยหา!”
เผยอวี้เฉิง “ฉันชอบ”
หลินเยียน “…???”
หลินเยียนเห็นว่าพอพนักงานขายสาวห่อชุดสูทเสร็จก็เริ่มรูดบัตรของเธอทันที อยากจะผูกคอตายแล้วจริงๆ
“อย่านะ!!!”
หลินเยียนโพล่งออกมาทันที
ชั่วพริบตาที่พนักงายขายสาวรูดบัตร หลินเยียนกลับหวนคืนสู่ร่างกายตนเองชั่วขณะ แหกปากตะโกนสองคำนี้ออกมาอย่างสุดเสียง
เพียงแต่แค่ไม่กี่วินาทีสติสัมปชัญญะของเธอก็ถูกสะกดกลับไปอีกครั้ง
“เอ่อ คุณผู้หญิง เป็นอะไรเหรอคะ?” พนักงานขายสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เผยอวี้เฉิง “ไม่เป็นไร”
เผยอวี้เฉิงกดรหัสบัตรด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ไม่เป็นไรๆ …ยัยนี่ไม่รู้รหัสของเธอ…
หลินเยียนปลอบตัวเองเช่นนี้
วินาทีต่อมาเมื่อหลินเยียนเห็นเผยอวี้เฉิงกดรหัสบัตรของตัวเองก็ต้องตะลึงงัน “ทำไมเธอรู้รหัสบัตรของฉันได้ล่ะ???”
เผยอวี้เฉิง “เดายากมากเลยเหรอ?”
รหัสของเธอคือ ห้าหนึ่งแปดห้าหนึ่งแปด ซึ่งเป็นวันเกิดของเธอ เหตุผลก็เพราะรู้สึกว่ารหัสนี้เป็นมงคลมากนั่นเอง
หลินเยียน “…”
ตอนที่ 676 ยังมีความสามารถแบบนี้อยู่ด้วย
เงินของเธอ! เงินของเธอนะ! เงิน!
หลินเยียนโมโหจนเกือบจะเป็นลม “สารเลว! ฉันจะจำเธอไปทั้งชาติเลย!”
เผยอวี้เฉิงพูดด้วยความพอใจ “ขอบใจมาก”
เมื่อออกจากห้างสรรพสินค้า เผยอวี้เฉิงก็ขับรถกลับไปที่คฤหาสน์เมฆ
หลินเยียนยังคงจมดิ่งอยู่ในความเจ็บปวดจากการสูญเสียเงินก้อนใหญ่ ไม่อาจไถ่ถอนตัวออกมาได้
จวบจนถึงบ้านแล้วหลินเยียนถึงจะรู้สึกตัว “พี่สาว เธอจะซื้อชุดสูทผู้ชายชุดนี้ให้ใครกันน่ะ”
เผยอวี้เฉิงเลิกคิดที่จะทำให้หลินเยียนนึกออกด้วยตัวเอง บอกเธอไปเลยว่า “วันนี้คือวันที่ 22 พฤศจิกายน”
วันที่ 22 พฤศจิกายน?
วันที่ 22 พฤศจิกายนแล้วทำไมน่ะ
หลินเยียนอึ้ง ผ่านไปครึ่งค่อนวันในที่สุดก็นึกออก “วะ…วันนี้เป็นวันเกิดของคุณเผย!”
เผยอวี้เฉิง “…” นึกออกได้เสียที ไม่ง่ายเลย
เผยอวี้เฉิง “ถ้าพูดให้ถูก อีกสี่ชั่วโมงก็จะเลยวันนี้ไปแล้ว”
หลินเยียนกวาดตามองนาฬิกาแขวนที่อยู่ตรงผนัง สองทุ่มแล้วจริงๆ เหลือเวลาอีกสี่ชั่วโมง พอผ่านเที่ยงคืนก็จะเลยวันเกิดเผยอวี้เฉิง
จบเห่แล้ว! เธอยังไม่ได้เตรียมอะไรเลยนะ!
“รู้หรือเปล่าว่าจะฉลองวันเกิดให้ยังไง” เผยอวี้เฉิงถาม
หลินเยียนงุนงงอยู่บ้าง “อือ…ต้องฉลองยังไงเหรอ”
ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังคบกับหันอี้เซวียนอยู่ด้วยกันน้อย ห่างกันมาก เหมือนจะไม่เคยได้อยู่ด้วยกันตอนวันเกิดเลย ดังนั้นเธอจึงไม่เคยมีประสบการณ์อะไรเลยจริงๆ
เผยอวี้เฉิงนวดหว่างคิ้วพร้อมถอนหายใจเบาๆ ครั้งหนึ่ง “ฉันจะสอนเธอ”
เดิมทีหลินเยียนคิดจะพูดขอบใจสักคำ แต่พอหวนคิดดูอีกที ที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะฝีมือยัยนี่ไม่ใช่หรือไง ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “แต่เดิมเธอก็ควรสอนฉันอยู่แล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ตอนนี้ฉันจะมีสภาพเป็นแบบนี้งั้นเหรอ เธอก็ควรเป็นคนรับผิดชอบอยู่แล้วสิ!”
เผยอวี้เฉิง “ฉันนึกว่าเธอจะขอบใจฉันเสียอีก”
หลินเยียน “ฉันขอบใจเธอ…”
ห้วงสมองหลินเยียนผุดใบหน้าอันอ่อนโยนของเผยอวี้เฉิง เลยพูด “ขอบใจนะลูกพี่” ออกมาไม่ค่อยได้
เรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะเอาไปพูดที่ไหน ก็เหมือนว่าเธอจะเป็นคนได้เปรียบ…
ด้วยความสามารถอันน้อยนิดของเธอ คิดว่าคงต้องครองตัวเป็นโสดจนแก่ จะไปหาแฟนหนุ่มที่เหมือนเทพบุตรแบบนี้ได้ที่ไหนอีก
“ตอนนี้ต้องทำยังไง เดี๋ยวคุณเผยก็คงจะกลับมาแล้ว…” หลินเยียนร้อนรนกระวนกระวาย
เผยอวี่ถังเคยตั้งใจเตือนเธอเป็นพิเศษแล้วด้วยซ้ำ ทำไมเธอถึงลืมไปหมดแบบนี้นะ!
เผยอวี้เฉิงหยิบชุดสูทที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าเมื่อครู่ออกมา จากนั้นก็วางลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ข้างหน้า “วิธีที่ค่อนข้างเบสิกก็คือตั้งใจซื้อของขวัญวันเกิดมาให้ชิ้นหนึ่ง”
หลินเยียนจ้องมองชุดสูทที่อยู่บนโต๊ะน้ำชา จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกมีเลือดออกซิบๆ ที่หัวใจ “เธอตัดสินยังไงว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือว่าความตั้งใจที่เธอว่ามันก็คือ…แพงอย่างงั้นเหรอ…”
มิน่าทำไมอยู่ดีไม่ว่าดีจู่ๆ ยัยนี่ก็ไปซื้อชุดสูทมา ที่แท้ก็ไปเลือกของขวัญให้เผยอวี้เฉิง ช่างเป็นรักแท้ซะจริงเชียว!
แต่ไอ้ที่รูดไปน่ะมันการ์ดของฉันนะ อ๊าก!
“วิธีการเบสิก…งั้นยังมีวิธีการที่สูงกว่านี้รึเปล่า” หลินเยียนขอคำชี้แนะอย่างถ่อมตน
เผยอวี้เฉิง “วิธีการที่สูงขึ้นไปอีกนิดหนึ่งก็คือเตรียมของขวัญด้วยตัวเอง อย่างเช่นทำอาหารให้เขามื้อหนึ่ง”
หลินเยียนรู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง “ทำอาหารด้วยตัวเองมื้อหนึ่งงั้นเหรอ เรื่องนี้ก็พอได้อยู่! เพียงแต่ฝีมือเข้าครัวของฉันมันธรรมดา แถมที่สำคัญก็คือตอนนี้ฉันทำไม่ได้น่ะสิ! เธอยึดร่างฉันอยู่นะ!”
เผยอวี้เฉิง “…”
เผยอวี้เฉิงเงียบงันไปครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงพูดขึ้นมาว่า “ฉันทำเองก็แล้วกัน”
พอพูดจบก็สาวเท้าเดินไปยังห้องครัว
หลินเยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “ไอ้หยา พี่สาว เธอทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอเนี่ย! ฝีมือเป็นยังไงบ้าง”
เผยอวี้เฉิง “ก็พอใช้ได้”
เมื่อหลินเยียนเห็นว่าอีกฝ่ายมีน้ำเสียงมั่นใจมากก็รู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อย “จริงเหรอเนี่ย ดูไม่ออกเลยจริงๆ! ฉันนึกว่าปีศาจจิ้งจอกมีแต่พวกแจกันดอกไม้…คิดไม่ถึงว่าเธอยังมีความสามารถแบบนี้อยู่ด้วยนะ…”