ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1031 พูดอ้อมๆไม่กล้าพูดตรงๆ
ฟางยู่เชินคิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับซ่างกวนหยวนที่งานเลี้ยง
ตอนที่เจอกับอีกฝ่าย ทั้งสองต่างอึ้งกันทั้งคู่
ฟางยู่เชินเป็นฝ่ายตั้งสติได้ก่อน เผยให้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน “บังเอิญจังเลย”
ซ่างกวนหยวนส่งยิ้มให้ “บังเอิญมากจริงๆ”
“คุณมาคนเดียวเหรอ” ฟางยู่เชินมองไม่เห็นคนอื่นข้างๆเธอ จึงถามออกมาแบบนี้
“เปล่า ฉันมาพร้อมกับพี่ชาย”
ฟางยู่เชินพยักหน้า เขานิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “พวกเราคุยกันสักสองสามประโยคได้ไหม”
อาจจะเพราะกลัวว่าเธอจะปฏิเสธ เขาจึงเสริมขึ้นว่า “งานเลี้ยงแบบนี้น่าเบื่อเกินไป วันนี้ผมเหนื่อยนิดหน่อย ไม่อยากจะสังสรรค์ ดังนั้น……”
เขาไม่ได้พูดจนจบประโยค แต่ซ่างกวนหยวนเข้าใจความหมายของเขา ก็คือต้องการเธอเป็นโล่กันกระสุน
พอดีกับซ่างกวนหยวนเองก็รู้สึกเบื่อ แม้ว่าเธอจะรู้จักคนทั้งหมดที่นี่ แต่ก็ไม่ได้สนิทสนม อีกทั้งเธอก็เหมือนกับฟางยู่เชิน ไม่อยากสังสรรค์
นานพักใหญ่เห็นเธอไม่ตอบ ฟางยู่เชินคิดว่าคงไม่มีหวังแล้ว ในใจก็เสียใจเล็กน้อย
เวลานี้เอง เธอพยักหน้า “ก็ได้”
ฟางยู่เชินแสดงสีหน้าดีอกดีใจ รีบพูดว่า “อย่างนั้นเราไปคุยกันทางโน้น”
เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกล ทางนั้นเป็นมุมพักผ่อน มีโซฟา ขนมและผลไม้จัดวางไว้
“ไปเถอะ”
ซ่างกวนหยวนเดินนำไปก่อน
ฟางยู่เชินรีบเดินตามไป
ซ่างกวนหยวนมองเห็นพวกเขาเดินตามกันหน้าคนหลังคนไปทางหัวมุม คิ้วก็ขมวดแน่น พวกเขาสองคนกำลังทำอะไรกัน
ช่วงนี้ เขาได้ยินมาว่าฟางยู่เชินกำลังตามจีบหยวนหยวน
ทันใดนั้น รูม่านตาหดตัว หรือว่าหยวนหยวนจะตอบตกลงคบกับฟางยู่เชินแล้ว
พอคิดเช่นนี้ ภายในใจเขาก็กระวนกระวาย ก้าวขาจะเดินตามไปตามสัญชาตญาณ
“คุณซ่างกวน ไม่ได้พบกันนาน”
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัดขวางฝีเท้าเขาไว้ เขาหันกลับไปมอง เป็นคู่ค้าทางธุรกิจที่ไม่ได้เจอกันมานาน
เขาเหลือบมองไปทางซ่างกวนหยวนพวกเขาสองคนเดินไปอีก ด้วยสถานการณ์ที่อับจนหนทาง ได้แต่ดึงฝีเท้ากลับมา ฉีกยิ้มกว้างบนใบหน้าใหม่อีกครั้ง“ไม่ได้พบกันเสียนาน”
หลังจากฟางยู่เชินและซ่างกวนหยวนนั่งลงแล้ว พวกเขาสองคนก็ไม่ได้พูดอะไร เงียบมาก และก็อึดอัดเล็กน้อย เมื่อเทียบกับความครึกครื้นของงานเลี้ยง
“แฮ่ม” ฟางยู่เชินกระแอมเบาๆ กดความตื่นเต้นภายในใจ ทำลายความสงบเงียบอย่างเงียบสงบ “ผมนึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้คุณจะมา”
นี่อยู่นอกเหนือจากการคาดเดาของเขาจริงๆ แต่ก็เป็นความประหลาดใจที่น่ายินดี
“จำเป็นต้องมา” ซ่างกวนหยวนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ถ้าไม่ใช่เพราะคำขอร้องของซ่างกวนเชียนเธอก็อยากที่จะทำงานนอกเวลาที่บริษัท
“ทำไม” ฟางยู่เชินถามอย่างสงสัย
“เพราะมีลูกค้า” ซ่างกวนหยวนหันไปมองเขา มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่จำใจ
ฟางยู่เชินยิ้ม “เข้าใจแล้ว”
หลังจากนั้น ก็นิ่งเงียบลง
ฟางยู่เชินดื่มเหล่าอึกหนึ่ง เอ่ยถามว่า “ทำไมช่วงหลายวันนี้คุณไม่ได้นัดสื้อสื้อออกไปเที่ยวเลย”
เมื่อเอ่ยถึงเจียงสื้อสื้อ นัยน์ตาของซ่างกวนหยวน ฉายแสงประหลาด เธอหัวเราะเบาๆ “หล่อนสุขภาพไม่ดี ฉันก็ไม่เลยไม่สะดวกที่จะนัดหล่อนออกมา”
“นี่ก็จริง” ฟางยู่เชินพยักหน้า “แต่ว่าหลายวันนี้น้องเขยฉันก็อยู่เป็นเพื่อนหล่อนตลอด ทั้งสองคนก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง ไม่งั้นด้วยนิสัยของสื้อสื้อแล้ว ต้องเบื่อตายแน่”
“ประธานจิ้นรักภรรยามากจริงๆ” ซ่างกวนหยวนเงยหน้าดื่มเหล้า พร้อมกับกลืนความเฝื่อนที่พุ่งขึ้นมาในลำคอลงไป
“อืม……” ฟางยู่เชินพิจารณาคำพูดของเธอ “ในสายตาของน้องเขยฉันมีเพียงสื้อสื้อแค่คนเดียว แน่นอนว่าต้องรักเอาใจเธอ”
“ประธานฟาง” ฟางยู่เชินหันหน้ามา จ้องมองเขา “คุณคิดว่าพวกเขาสองคนเหมาะสมกันมั้ย”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “ทำไมถึงถามแบบนี้”
“ทำไม” ซ่างกวนหยวนก้มหน้าก้มตา ยิ้ม “ฉันก็แค่รู้สึกเสียดายแทนประธานจิ้นเขาเป็นคนที่เก่งคนหนึ่งเลยนะ เดิมควรจะได้เฉิดฉายอยู่ในวงธุรกิจ วันนี้กลับได้แต่อยู่เป็นเพื่อนภรรยา”
นัยน์ตาของฟางยู่เชินมีอารมณ์ที่ไม่ชัดเจนฉายวาบออกมา เขายิ้ม “ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้รู้สึกเสียดาย ดังนั้นเขาจึงเต็มใจยอมทำทุกอย่างเพื่อสื้อสื้อ”
รักหรือ
มือที่กุมแก้วเหล้าของซ่างกวนหยวนกุมแน่นโดยสัญชาตญาณ แต่ว่าเขาสามารถเลือกที่จะรักผู้หญิงคนที่พร้อมจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาคนหนึ่งได้ แต่ไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉุดให้เขาถอยหลัง
ฟางยู่เชินเหล่มองเธอแวบหนึ่ง ขมวดคิ้ว “หรือว่าคุณไม่อิจฉาความสัมพันธ์ของพวกเขา”
“หืม”ซ่างกวนหยวนเงยหน้ามองเขา
“ผมถามว่าคุณอิจฉาความสัมพันธ์ของพวกเขามั้ย”
ซ่างกวนหยวนยิ้ม “อิจฉา”
พูดว่าอิจฉา สู้พูดว่าหึงไม่ได้
เธอหึงเจียงสื้อสื้อ หึงหล่อนที่มีผู้ชายที่ดีและเก่งแบบนั้น
“งั้นคุณไม่อยากหาผู้ชายที่เต็มใจทำทุกอย่างเพื่อคุณสักคนเหรอ”
ตอนที่ฟางยู่เชินถามคำถามนี้ สีหน้าท่าทางมีความคาดหวังอยู่เล็กน้อย
ซ่างกวนหยวนค่อยๆขมวดคิ้ว “ประธานฟางฉันเคยบอกคุณแล้วว่า ฉันไม่ได้ชอบคุณ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องใช้วิธีชักแม่น้ำทั้งห้าแบบนี้ มาถามฉันก็ได้”
เมื่อถูกพูดแทงใจดำแล้ว
ฟางยู่เชินยิ้มเก้อเขิน “ผมไม่ได้ชักแม่น้ำทั้งห้า ผมชอบคุณด้วยความจริงใจ ครั้งแรกที่เจอคุณก็ชอบคุณแล้ว”
ซ่างกวนหยวนหัวเราะเบาๆ “คนที่ชอบฉันมีมากมาย แล้วฉันจำเป็นต้องมีปฏิกิริยาตอบกลับให้ทุกคนเลยเหรอคะ”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างนี้ ” ฟางยู่เชินร้อนใจ “ผมก็แค่อยากบอกคุณว่า ผมชอบคุณมากจริงๆ”
“ขอบคุณนะคะ” ซ่างกวนหยวนยิ้มให้เขา “แต่ว่าฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“ผมรู้” ฟางยู่เชินพูด “แล้วผมก็รู้ด้วยว่าคนที่คุณชอบคือใคร”
ซ่างกวนหยวนเบิกตาโตมองเขาอย่างตกใจ “คุณ……”
มุมปากฟางยู่เชินขยับ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดว่าคนนั้นคือใคร แต่พูดว่า “คุณกับเขาไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว”
คำพูดนี้ก็เหมือนกำปั้นที่กระแทกบนหัวใจของซ่างกวนหยวน เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และก็ไม่ได้พูดปฏิเสธอะไร ได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดีว่า “ไม่เป็นไร ฉันชอบเขาก็พอแล้ว”
“ทำไมคุณถึงโง่แบบนี้ ในโลกนี้มีผู้ชายเก่งๆอีกมากมายขนาดนั้น ทำไมถึงยังชอบเขา” ฟางยู่เชินไม่เข้าใจเธอจริงๆ
ความสัมพันธ์ที่ไม่อาจเป็นไปได้ ไม่คุ้มให้เธอต้องมายึดมั่นจริงๆ
“เพราะเป็นเขา”ซ่างกวนหยวนลุกขึ้นมา “ขอบคุณที่คุยเป็นเพื่อนฉัน วันหลังมีโอกาสค่อยนัดกันนะคะ”
“หยวนหยวน” ฟางยู่เชินลุกขึ้น มองเธออย่างสงสัย “ผมหวังว่าคุณจะไม่ไปรบกวนพวกเขา”
เขาพูดเช่นนี้ ทำให้ในใจซ่างกวนหยวนไม่สบายใจเล็กน้อย เธอหัวเราะเยาะ “ในสายตาคุณ ฉันเป็นคนประเภทนั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายความอย่างนี้”
ฟางยู่เชินอยากอธิบาย แต่ซ่างกวนหยวนขัดขวางเขาไว้ “ไม่ต้องพูดแล้ว คุณวางใจเถอะ ฉันจะไม่รบกวนพวกเขา”
ฟางยู่เชินไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร คิดไปคิดมา สุดท้ายก็ได้แต่พูดออกมาคำหนึ่งว่า “ขอบคุณ”
ซ่างกวนหยวนมองเขา หมุนตัวก้าวเท้ายาวเดินจากไป
มองดูแผ่นหลังของร่างอรชรอ้อนแอ้นของเธอ ฟางยู่เชินถอนหายใจด้วยความพ่ายแพ้ ตนเองนี่โง่จริงๆ สามารถทำเรื่องพังได้ทุกครั้ง
แต่ว่า ความคิดของเขาได้ถูกถ่ายทอดไปแล้ว เชื่อว่าซ่างกวนหยวนเองก็ต้องเอะใจบ้าง
แม้เขาจะชอบเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะสามารถทำร้ายความรู้สึกคนอื่นได้
คิดถึงตรงนี้ เขาก็ถอนหายใจอย่างแรงอีก ความรู้สึกของตนเองทำไมถึงยุ่งยากขนาดนี้