ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1043 ส่งของออกมา
‘ที่เดิม’ ที่ซูน่าพูดถึงทางโทรศัพท์ อันที่จริงแล้วมันเป็นพุ่มป่าเขียวพุ่มหนึ่งในสวนสาธารณะใกล้โรงแรม
ก่อนจะเริ่มแผน จิ่งหลิวเยว่ได้จัดเตรียมการทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว แม้กระทั่งเรื่องที่เธอจะถูกจับได้ก็พิจารณาเอาไว้เรียบร้อยเช่นกัน
เดิมทีก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่พอมันเกิดขึ้นจริงๆ จิ่งหลิวเยว่ยังรู้สึกรับไม่ได้อยู่เล็กน้อย
เขากับจี้ตงถางมาที่สวนสาธารณะ หยิบกล่องขนาดเล็กออกมาจากด้านในพุ่มไม้เขียว
ด้านในกล่องก็คือแฟลชไดรฟ์ที่พวกเขาต้องการ
เขากำแฟลชไดรฟ์ไว้ในฝ่ามือ อารมณ์ของจิ่งหลิวเยว่สับสนยุ่งเหยิงมาก เขามองไปที่จี้ตงถาง “ฉันอยากไปช่วยซูน่า”
“นายบ้าไปแล้วเหรอ?” จี้ตงถางประหลาดใจอย่างมาก “ถ้าเผื่อนายช่วยเธอออกมาไม่ได้ แถมยังเอาตัวเองพ่วงเข้าไปด้วยอีกจะทำยังไง?”
จิ่งหลิวเยว่เม้มริมฝีปากแน่น ไม่ส่งเสียงใด
จี้ตงถางรู้ว่าเขาทรมานใจมาก จึงเอื้อมมือออกไปตบไหล่เขา พลางพูดอย่างปลอบใจ “แต่เดิมซูน่าก็ถูกนายฝึกฝนออกมาเพื่อให้ทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว ฉันว่าเธอก็คงไม่หวังให้นายไปช่วยเธอหรอก”
ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ แต่มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความรู้สึก อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ อย่างไรก็มีความรู้สึกต่อกันแล้ว
จิ่งหลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยัดแฟลชไดรฟ์ใส่ในมือของจี้ตงถาง แล้วตัดสินใจว่า “นายช่วยฉันมอบสิ่งนี้ให้พี่เฉินที ฉันจะไปช่วยซูน่า”
พูดจบ เขาก็หันตัววิ่งออกไปทันที
จี้ตงถางอยากจะห้ามก็ห้ามไม่ทัน ทำได้เพียงถือแฟลชไดรฟ์ยืนอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
…
จิ่งหลิวเยว่มาถึงโรงแรมที่พิเอร์สพักอยู่ เข้าไปสอบถามเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ แต่อีกฝ่ายไม่ยินยอมเปิดเผยหมายเลขห้องของพิเอร์ส
ขณะที่เขากำลังจะไล่ถามต่อ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
หยิบออกมาดูเห็นเป็นซูน่า
เขารีบหยิบขึ้นมากดรับสาย ยังไม่ทันได้เปิดปาก ก็มีเสียงสำเนียงแปลกๆ ดังสะท้อนมาจากปลายสาย “คุณจิ่ง สวัสดีครับ”
“พิเอร์ส?” จิ่งหลิวเยว่เอ่ยปากอย่างไม่แน่ใจ
“ถูกต้อง ผมเอง ไม่รู้ว่าคุณยังจำได้ไหมว่าแฟนสาวของคุณอยู่กับผม?”
“ผมจำได้แน่นอนอยู่แล้ว” จิ่งหลิวเยว่ตอบกลับอย่างใจเย็น “นี่ผมก็มารับเธอแล้วนี่ไง”
“หือ?”
จิ่งหลิวเยว่มองไปรอบๆ ในเวลานี้ที่ล็อบบี้ของโรงแรมมีคนอยู่ไม่เยอะมาก
“ผมอยู่ชั้นล่าง ห้องของคุณหมายเลขอะไร?” เขาถามอย่างตรงไปตรงมา
“2303 ผมจะรอคุณ คุณจิ่ง”
จิ่งหลิวเยว่วางสายโทรศัพท์ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ก่อนจะสาวเท้าเดินไปที่ลิฟต์
ในขณะเดียวกัน จี้ตงถางได้ติดต่อไปหาหยุนโม่เหิง “อะเยว่บุกเดี่ยวไปช่วยซูน่า ฉันกลัวว่าจะมีอันตราย นายพาคนมาด้วยสักหน่อยเถอะ”
หยุนโม่เหิงไม่พูดให้มากความ พาคนตรงไปสมทบกับจี้ตงถางที่โรงแรมทันที
ระเบียงทางเดินมืดสลัว เงียบเชียบไร้เสียง จิ่งหลิวเยว่เดินเหยียบบนพรมไปทีละก้าวๆ เดินตรงไปยังห้อง 2303
ห้อง 2303 มีชายชาวต่างชาติรูปร่างสูงใหญ่สองคนยืนอยู่ ใบหน้าดุดัน ทันทีที่พวกเขาเห็นจิ่งหลิวเยว่ แววตาก็ฉายแววดุร้ายออกมาทันที พลางจ้องเขม็งมาที่เขา
จิ่งหลิวเยว่นิ่งสงบไม่กระวนกระวาย มุมปากฉีกยิ้มออกจางๆ “ฉันมาหาคุณพิเอร์ส ช่วยแจ้งเขาให้ฉันที”
พวกเขาไม่ได้ไปแจ้ง แต่เปิดประตูให้เขาจิ่งหลิวเยว่เลย
ดวงตาของจิ่งหลิวเยว่ฉายแสงแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขายืดหลังตรงเดินเข้าไป
พิเอร์สนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ขาทั้งสองข้างไขว้ไว้ด้วยกัน มือหนึ่งวางไว้ที่พนักหลังโซฟา อีกมือหนึ่งวางไว้บนขา มองมาที่จิ่งหลิวเยว่ด้วยใบหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
“คุณจิ่ง พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ” พิเอร์สพูดด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
จิ่งหลิวเยว่พยักหน้า “ใช่ครับ เจอกันอีกแล้ว”
เขามองไปรอบๆ “แฟนของผมล่ะ?”
“ที่แท้คุณจิ่งก็ยังจำแฟนของคุณได้อยู่นี่เอง ผมนึกว่าคุณลืมไปแล้วซะอีก”
จิ่งหลิวเยว่หัวเราะเบาๆ “ผมจะลืมได้ยังไงล่ะ?”
“คืนวันนั้นพวกคุณทะเลาะกันหนักมากเลยไม่ใช่เหรอ?” พิเอร์สเลิกคิ้วขึ้น
“คู่รักทะเลาะกันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอครับ?” จิ่งหลิวเยว่ยักไหล่ ด้วยสีหน้าท่าทีว่าเห็นเป็นเรื่องธรรมดาคุ้นเคย
“นั่นมันก็จริง”
พิเอร์สขยิบตาให้ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ คนด้านหลังเข้าใจ ก่อนจะหันตัวเดินเข้าไปในห้องนอน
จิ่งหลิวเยว่มองตามไป
ไม่นาน คนคนนั้นก็คุมตัวซูน่าเดินออกมา
“คุณพิเอร์ส นี่คุณหมายความว่าไง?” จิ่งหลิวเยว่แสร้งทำหน้าไม่เข้าใจมองไปทางพิเอร์ส
คนหลังก็เงียบไม่พูดจา
ทันทีที่ซูน่าเห็นจิ่งหลิวเยว่ ก็เบิกตากว้างขึ้นในชั่วพริบตา “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“ฉันมารับเธอกลับบ้านไง แต่ว่า…?” จิ่งหลิวเยว่หรี่ตาลง
แก้มของเธอบวมไปหมดแล้ว รอยฝ่ามือบนหน้าก็ชัดเจนมาก
เขาหันไปมองพิเอร์สด้วยสายตาคมกริบ “คุณพิเอร์ส คุณสามารถบอกผมได้ไหมว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมแฟนผมถึงโดนตบตีจนสภาพกลายเป็นแบบนี้?”
พิเอร์สไม่รีบร้อนตอบ เขาลุกตัวขึ้นช้าๆ เดินเข้าไปหาซูน่า ก่อนจะยกมือขึ้นบีบคางของเธอเอาไว้ พลางยิ้มเย้ยหยัน “เรื่องนี้คุณต้องลองถามแฟนสาวของคุณแล้วว่าได้ทำดีอะไรลงไป”
“หมายความว่าไง?”จิ่งหลิวเยว่ใบหน้ามึนงง เขามองไปทางซูน่า “เธอทำอะไร?”
ซูน่ากัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูดตอบ
“เธอทำอะไรลงไปกันแน่?” จิ่งหลิวเยว่เอ่ยถามอย่างฉุนเฉียว
ยังคงไม่มีการตอบสนองเช่นเดิม
ทันใดนั้นเขาก็โกรธจัด พุ่งเข้าไปผลักพิเอร์สออก คว้าเสื้อของซูน่าไว้แน่น ขอเขี้ยวกัดฟันเค้นถาม “เธอเป็นใบ้หรือไง เธอทำอะไรลงไปกันแน่?”
พิเอร์สถูกผลักอย่างไม่ทันตั้งตัว โซเซออกไปด้านข้างสองสามก้าวกว่าจะยืนมั่นอีกครั้ง
เขามองท่าทีโมโหโกรธาของจิ่งหลิวเยว่ แยกไม่ออกว่าเป็นจริงหรือแสร้งทำ
“คุณจิ่ง คุณไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้?” พิเอร์สถามอย่างลองเชิง
จิ่งหลิวเยว่หันมอง ก่อนถามกลับอย่างโกรธจัด “ผมควรจะรู้อะไร พวกคุณพูดขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ ผมจะรู้อะไรได้อีก?”
เมื่อเห็นว่าท่าทางของเขาไม่เหมือนกำลังแสดงบทเล่นละครอยู่ พิเอร์สก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นผมจะพูดตามตรง แฟนสาวของคุณขโมยข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของผมไป”
“หา?” จิ่งหลิวเยว่นึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป
“คุณกำลังล้อเล่นอยู่เหรอ?”
“ผมไม่ได้ล้อเล่น เธอวางยาสลบผม และใช้โอกาสที่ผมกำลังสลบอยู่นั้นคัดลอกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของผมไป”
“สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง?” จิ่งหลิวเยว่หรี่ตา เอ่ยถามซูน่า
ซูน่าเหลือบมองเขา ก่อนจะก้มหน้างุดไม่พูดไม่จาอะไร
จิ่งหลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ “ซูน่า ถ้าเธอเป็นคนทำ ก็เอาของส่งออกมาซะ”
“โยนทิ้งแล้ว” ในที่สุดซูน่าก็ยอมเปิดปากแล้ว
“โยนทิ้งแล้ว?” จิ่งหลิวเยว่หัวเราะเยาะเย้ย “ของที่เธอพยายามมากขนาดนั้นเพื่อให้ได้มันมา กลับโยนทิ้งไปแล้ว? เธอบ้าหรือไง?”
จิ่งหลิวเยว่ถอนหายใจออกยาวเหยียด ระงับความโกรธเกรี้ยวภายในใจเอาไว้ แล้วหันไปพูดกับพิเอร์ส “ให้ผมพาเธอกลับไปได้หรือเปล่า? ส่วนเรื่องของผมจะตามหาให้ หาเจอแล้วจะเอามาส่งให้คุณ”
“คุณต้องการพาคนกลับไป?” พิเอร์สถาม
“ทำไม ไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว เธอขโมยความลับทางการค้า ผมโทรแจ้งตำรวจแล้ว”
“แจ้งตำรวจ?” จิ่งหลิวเยว่เบิกตากว้างอย่างแปลกใจ
พิเอร์สยิ้ม “เดิมผมก็ไม่อยากเก็บเธอไว้หรอก แต่เห็นแก่หน้าของคุณ ผมจะไว้ชีวิตเธอ ให้เธอไปพักอยู่อาศัยในคุกแทน”
เมื่อได้ยินดังนั้น จิ่งหลิวเยว่ก็แอบโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
เดิมทีเขานึกว่าพิเอร์สจะต้องการเอาชีวิตของซูน่าแต่โชคดีที่แค่เรียกตำรวจ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนที่เหลือเขาจะคิดหาวิธีแก้ไขเอง
“ไม่เหลือช่องว่างให้เจรจาอีกแล้วเหรอ?” จิ่งหลิวเยว่ยังอยากจะสู้ต่อ
“ไม่มี”
พิเอร์สตอบอย่างเด็ดขาดง่ายดาย
จิ่งหลิวเยว่พยักหน้า “ไม่เป็นไร ในเมื่อเธอทำความผิด ก็ควรจะรับผิดชอบต่อความผิดนั้น”
เขาเดินเข้าไปหา ซูน่าและถอนหายใจอย่างผิดหวัง “ฉันควรจะว่าเธอยังไงดี เป็นแฟนของฉันอยู่ดีๆ มันก็ดีมากแล้วไม่ใช่เหรอ? แต่ไม่รู้สมองเอาแต่คิดอะไรอยู่! ดูสิว่าเธอเอาตัวเองเข้าไปเอี่ยวด้วยแล้ว”
“ขอโทษ” ซูน่ากล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ช่างมันเถอะ เธอจัดการเรื่องทุกอย่างเองก็แล้วกัน”