ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1055 ไอ่สารเลว! ไอ่บ้า!
ตอนที่ซ่างกวนเชียนรู้ว่าซ่างกวนหยวนได้จองตั๋วเครื่องบินไปที่อิตาลีนั้น ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าเธอนั้นมีงานตอนไปทำนอกสถานที่
แต่หลังจากนั้นเลขาได้มาบอกเขา สองวันก่อนจิ้นเฟิงเฉินได้ไปอิตาลี
สองเรื่องนี้มันบังเอิญเกินไป เพราะงั้นเขาอดสงสัยเป้าหมายที่ซ่างกวนหยวนไปอิตาลีไม่ได้
ในห้องทดลองก็ได้เงียบไม่มีเสียง สายตาของซ่างกวนเชียนก็ได้มองไปที่ใบหน้าของซ่างกวนหยวน มือทั้งสองที่อยู่ข้างตัวก็ได้กำหมัดแน่น
เขาได้รอคำตอบของเธอ
ซ่างกวนหยวนก็ได้ “อืม” ออกมาอย่างเย็นชา
“เธอจะไปอิตาลีทำไม?” ซ่างกวนเชียนก็ได้ถามอย่างร้อนรน
คิ้วบางได้ขมวด ซ่างกวนหยวนมองเขาอย่างไม่พอใจ “ฉันจะไปที่ไหนต้องรายงานนายด้วยเหรอ?”
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” ซ่างกวนเชียนก็ได้สูดหายใจเข้าไปลึกๆ ให้ตัวเองใจเย็นลง “ฉันหมายถึง ทำไมอยู่ๆ เธอถึงจะไปอิตาลีล่ะ ไปทำงานเหรอ?”
“ฉันไปทำไม ก็ไม่เกี่ยวกับนายทั้งนั้น”
ซ่างกวนหยวนก็ได้มองเขาอย่างเย็นชาแวบเดียว จากนั้นก็ได้เดินผ่านเขาออกไปจากห้องทดลอง
“หยวนหยวน!”
ซ่างกวนเชียนก็ได้รีบตามออกไป
เขาก็ตามซ่างกวนหยวนทัน “จิ้นเฟิงเฉินก็อยู่ที่อิตาลีใช่ไหม?”
ได้ยินแบบนั้น ขาของซ่างกวนหยวนก็ได้หยุดลง หันหน้าไป สายตาที่เยือกเย็นก็ได้มองไปที่ซ่างกวนเชียน
ซ่างกวนเชียนก็ได้หยุดลงเดินตาม
เขาก็ได้หัวเราะอย่างสมเพช “แปลกใจใช่ไหมล่ะว่าฉันรู้ได้ยังไง? หยวนหยวน ความคิดของเธอเดาได้ง่ายมาก”
ซ่างกวนหยวนก็ได้ยิ้ม รอยยิ้มก็ได้มีสายตาที่เย็นชาปนอยู่ “ใช่ ที่ฉันไปอิตาลีก็เพื่อจิ้นเฟิงเฉิน ฉันพูดแบบนี้ นายพอใจหรือยัง?”
ถึงแม้เดาเป้าหมายที่เธอไปที่อิตาลีไว้ก่อนแล้ว แต่พอได้ยินเธอยอมรับเอง ก็เหมือนมีดที่ได้มาแทงใจของเขาอย่างแรง
ซ่างกวนเชียนยิ้ม รอยยิ้มก็ได้เต็มไปด้วยความขมขื่น เขาได้มองเธอนิ่ง ถาม “มันคุ้มเหรอ?”
ไม่มีการตอบกลับ
“ฉันถามเธอ มันคุ้นเหรอ?” เสียงของเขาก็ได้ดังขึ้นมามาก
สายตาของซ่างกวนหยวนก็ได้สั่นไหว ก็ได้ตอบอย่างเย็นชา “คุ้ม”
“ฮ่าๆ ……” ซ่างกวนเชียนก็ได้หัวเราะออกมา
ไม่เคยที่จะเห็นเขาเสียสติขนาดนี้มาก่อน ซ่างกวนหยวนก็ได้ขมวดคิ้วแน่น ทิ้งไปตำหนึ่งว่า “ไอ่บ้า” ก็ได้เตรียมออกไป
แต่ซ่างกวนเชียนจะยอมให้เธอไปได้ยังไง
เขาก็ได้ไปคว้ามือของเธอ แล้วออกแรง
พอการมองเห็นได้หมุน ซ่างกวนหยวนตั้งตัวไม่ทัน หลังก็ได้ไปชนกับกำแพงอย่างแรง
“โอ๊ย!” เธอเจ็บจนร้องออกมา ใบหน้าได้ย่น
ไม่นาน เธอก็ได้เงยหน้า มองซ่างกวนเชียนด้วยความโมโห “นายบ้าไปแล้วเหรอ?”
ซ่างกวนเชียนพยักหน้า “ใช่ ฉันบ้าไปแล้ว ฉันถูกเธอทำเอาเป็นบ้าไปแล้ว!”
พูดจบ เขาก็ได้ขยับตัวเข้าไป กดเธอไปกับกำแพง พยายามที่จะจูบเธอ
“เพี้ยะ!”
ซ่างกวนหยวนออกแรงดิ้น แล้วตบไปที่หน้าของเขาอย่างแรง
“ไอ่สารเลว! ไอ่บ้า!”
ซ่างกวนหยวนก็ได้จ้องไปยังชายหนุ่ยด้วยสายตาที่แดงก่ำ เธอไม่เคยที่จะคิดเลยว่าเขาจะทำเรื่องที่เดรัจฉานแบบนี้กับเธอ
“หยวนหยวน……” ซ่างกวนเชียนมองเธออย่างรู้สึกผิด ยื่นมือหมายจะแตะเธอ แต่ก็ได้หลบไป
“ไม่ต้องมาแตะฉัน!” ซ่างกวนหยวนก็ได้ตะคอกออกมา
“ได้ ได้ ฉันไม่แตะเธอ” ซ่างกวนเชียนก็ได้ยกมือทั้งสอง “หยวนหยวน ขอโทษ ฉันผิดเองที่อารมณ์ร้อนเกินไป ถึงได้…… ถึงได้……”
ซ่างกวนหยวนก็ได้กำหมัดแน่น “ซ่างกวนเชียน นายมันน่ารังเกียจมาก!”
ทิ้งประโยคนี้ไป เธอก็ได้หันตัวแล้วก้าวออกไปอย่างเร็ว
ซ่างกวนเชียนไม่กล้าตามไป เขามองเธอหายตัวไปตรงทางเลี้ยวของทางเดิน ก็ได้ยกมือมาตบหน้าของตัวเอง ด่าตัวเองด้วยความโมโห “ซ่างกวนเชียน นายอยากจะทำอะไรกันแน่? บ้าไปแล้วเหรอ?”
ความสัมพันธ์ของเขากับหยวนหยวนพึ่งมาดีขึ้น การกระทำของเขาในวันนี้ก็ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองดิ่งลงไปยังจุดเยือกเย็น
……
ตัวแต่ได้รับหน้าที่สำคัญของฟางซื่อกรุ๊ป ฟางยู่เชินก็เหมือนว่าไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง ทุกวันนี้อยู่แต่ที่บ้านกับบริษัท สองจุดในหนึ่งบรรทัดดูเป็นชีวิตที่เรียบง่ายแต่เครียดมาก
ดูสิ พอจัดการเรื่องไฟไหม้โกดังเสร็จ เขาก็ได้นัดเพื่อนไม่กี่คนไปดื่มเหล้า ผ่อนคลายสักหน่อย
แต่ว่า เขาคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอซ่างกวนหยวน
ซ่างกวนหยวนก็ได้นั่งที่บาร์ หันหลังให้กับฟางยู่เชิน
ตอนแรก ฟางยู่เชินคิดว่าเป็นคนที่มีหลังที่เหมือน ก็ไม่ได้ใส่ใจ
แต่พอเธอได้หันมา ถึงได้พบว่าเป็นซ่างกวนหยวน
เขาก็ได้รีบลุกขึ้น พูดกับเพื่อนของเขาเสร็จ ก็ได้เดินไปที่บาร์
ซ่างกวนหยวนเงยหน้าดื่มเหล้า ของเหลวที่เย็นก็ได้ไหลลงตามคอไปยังกระเพาะ ทำให้กระเพาะไม่ค่อยโอเค
คิ้วเรียวบางก็ได้ขมวด เธอก็ได้จับแก้วเหล้าแน่นขึ้น
“หยวนหยวน”
อยู่ๆ ก็ได้มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
เธอหันหน้าไป ก็เห็นแต่แสงแพรวพราวของคลับ ฟางยู่เชินได้มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนจ้องมองตน
“บังเอิญจังนะ” ฟางยู่เชินเดินมา ก็ได้นั่งลงที่เก้าอี้สูงข้างเธอ
ซ่างกวนหยวนก็ได้หันกลับ เงยหน้าแล้วก็ดื่มเหล้าอีก
เห็นเธอดื่มหนักขนาดนี้ ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว พูดอย่างเป็นห่วง “ดื่มน้อยหน่อย มันไม่ดีต่อร่างกาย”
ได้ยินแบบนั้น ซ่างกวนหยวนก็ได้ขำออกมา หันหน้ามองเขา “ขนาดนายก็มาควบคุมชีวิตฉันเหรอ?”
ฟางยู่เชินอึ้งไป “เปล่าสักหน่อย ฉันไม่ได้ควบคุมเธอ ฉันก็แค่เตือนเธอเท่านั้น”
ซ่างกวนหยวนก็ได้มองเขาสักพัก ยกมือให้บาร์เทนเดอร์เทเหล้าให้เธอ
เห็นแบบนั้น ฟางยู่เชินก็ได้ถามลองเชิงไป “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า? เหมือนว่าเธออารมณ์ไม่ดีนะ”
ซ่างกวนหยวนดื่มเหล้า ไม่สนใจเขา
ฟางยู่เชินก็ไม่ได้สนใจ เขาก็ได้ดื่มเหล้า หัวเราะเสียงเบา ก็ได้พูดเองว่า “เธอว่าโชคชะตาคนมันวิเศษมากจริงไหม เธอเพื่อที่จะช่วยสื้อสื้อ เขากับเธอก็ได้เป็นเพื่อนกัน พวกเรารู้จักกันเพราะว่าต้องร่วมงาน ฉันก็ได้ชอบเธออีก และฉันก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของสื้อสื้อ มีวิเศษมากจริงๆ”
รอยยิ้มของเขาก็ได้มีความเจ็บปวดเล็กน้อย “แต่ว่าเธอไม่ได้ชอบฉัน”
สายตาของซ่างกวนหยวนได้สั่นไหว เธอได้เม้มปาก หันหน้าไป “ยู่เชิน”
“หื้อ?” ฟางยู่เชินก็ได้มองไปยังสายตาที่เยือกเย็นของเธอ
“ตัดใจเถอะ ฉันไม่เหมาะกับนาย” ซ่างกวนหยวนพูด
ฟางยู่เชินหยักคิ้ว “เธอรู้ได้ยังไงว่าไม่เหมาะล่ะ?”
“ฉันมีคนที่ชอบแล้ว”
“ฉันรู้”
เห็นว่าเขาได้ตอบมาอย่างเต็มอกแบบนั้น อยู่ๆ ซ่างกวนหยวนก็ไม่รู้ว่าควรตอบอะไรไปดี เธอก็ได้ถอนหายใจ “ช่างเถอะ ถือว่าฉันไม่ได้พูด”
เธอก็ได้ยกแก้วเหล้าขึ้นจะดื่มอีกครั้ง ฟางยู่เชินก็ได้รีบห้ามมือเธอไว้
เธอหันหน้าไป ดวงตาประสานกัน เห็นว่าเขาก็ได้ค่อยๆ ยิ้มขึ้น ก็ได้พูดออกไปอย่างชัดเจนทีละคำว่า “ฉันได้ตัดสินใจที่จะตัดใจแล้ว ที่เธอพูดอาจจะถูก พวกเรานั้นไม่เหมาะสม”
ไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ ซ่างกวนหยวนก็ได้นิ่งไป
จริงๆ ต้องโล่งใจถึงจะถูก แต่ทำไมในใจของเธอถึงได้มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกแบบนี้
เหมือนว่าได้เสียใจ
ฟางยู่เชินก็ได้ปล่อยมือ ยิ้มแล้วพูดต่อว่า “แต่ว่า พวกเรายังเป็นเพื่อนกัน แล้วก็……หุ้นส่วน”
ซ่างกวนหยวนก็ได้สติคืน ปากก็ได้ยิ้ม “อืม เพื่อนกัน”
“หูว!” ฟางยู่เชินก็ได้เป่าลมยาวๆ “ตอนที่ตัดสินใจที่จะตัดใจนั้น ฉันนั้นโล่งไปมากเลยล่ะ ฉันหวังว่า……”
เขาก็ได้หันไปมองเธอ “เธอก็จะตัดใจได้ อย่าไปยึดติดกับคนคนหนึ่งมาก ไม่อย่างนั้นเธอจะเจ็บปวดเอามากๆ”
ซ่างกวนหยวนก็ได้ดื่มเหล้า พูดออกไปเรียบๆ ว่า “เรื่องของฉัน ฉันรู้ตัวเองดี”