ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1060 ทดลองยา
จิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ไกลถึงอิตาลีก็ได้ตื่นมาเพราะฝันร้าย ก็ได้มองเพดานด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก ลมหายใจถี่เล็กน้อย
เขาฝันว่าไวรัสในตัวสื้อสื้อได้ออกฤทธิ์
ในความฝันมันเหมือนความจริงมาก จริงมากจนใจของเขาได้สั่น
เขาก็ได้นั่งอยู่บนเตียง ยกมือมาจับหน้าผาก หลับตาอยู่ ให้ตัวเองใจเย็นลง
แต่ไม่รู้ทำไม ก็ใจเย็นไม่ลงสักที
ใจมันกระวนกระวาย ก็เหมือนว่าได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง
เขาก็ได้คว้าเอาโทรศัพท์บนหัวเตียง หาเบอร์ของเจียงสื้อสื้อแล้วก็โทรออกไป
รออยู่นาน ก็ไม่มีคนรับ
เขาก็ได้โทรไปอีกกี่ครั้ง ก็เป็นเหมือนเดิม ไม่มีคนรับ
ความรู้สึกที่ไม่ดีก็ได้เข้ามาในหัว เขาก็ได้รีบโทรหาซ่างหยิง
ถูกรับเลยทันที ทางนั้นเสียงที่ร้อนรนของซ่างหยิงก็ได้ส่งมา “เฟิงเฉิน สื้อสื้อสลบไปอีกแล้ว”
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้เปลี่ยนไปเลยทันที เขาก็ได้วางสายลง แล้วก็ลงจากเตียงเปลี่ยนเสื้ออย่างรวดเร็ว
เปลี่ยนไปแล้วก็ติดต่อเห้อซูหานไป “ช่วยฉันจองตั๋วกลับประเทศหน่อย ยิ่งเร็วยิ่งดี”
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” เห้อซูหานได้เต็มไปด้วยความสงสัย
คุณชายมาที่อิตาลีก็เพื่อยาไม่ใช่เหรอ? นี่ยังไม่ได้ยาเลย ทำไมก็จะกลับประเทศแล้ว?
“สื้อสื้อสลบไปอีกแล้ว”
เห้อซูหานได้ยิน ก็ได้ตกใจ ไม่มีเวลาถามอะไรมาก ก็ได้รีบพูด “ผมจะจองให้เดี๋ยวนี้”
……
และเวลานี้ที่ตระกูลฟางก็ได้วุ่นวายไปหมด ฟางยู่เชินเพราะว่าเป็นไข้ยังนอนอยู่ เจียงสื้อสื้อสลบไปก็ยังไม่ได้ตื่น
คุณหมอตรวจอาการแล้ว สีหน้าก็ได้เคร่งเครียด “ขอโทษครับ ตอนนี้ผมไม่อาจที่จะรู้ได้ว่าเธอเป็นอะไร ถ้าเกิดเป็นไปได้ ขอให้คุณพาเธอไปที่โรงพยาบาลทำการตรวจอย่างละเอียด”
ซ่างหยิงคิดได้ว่าเจียงสื้อสื้อก็เคยสลบไป แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้พาเธอไปที่โรงพยาบาล
เพราะงั้นเธอไม่กล้าตัดสินใจส่งคนไปที่โรงพยาบาลเอง
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ ไม่แน่เดี๋ยวสักพักเธอก็ตื่นแล้ว เรื่องไปโรงพยาบาลก็ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ”
“ถ้าเกิดไม่ตื่นสักที ทางที่ดีพวกคุณต้องไปส่งที่โรงพยาบาลนะครับ”
ซ่างหยิงพยักหน้า “พวกเรารู้ค่ะ”
เธอก็ได้หันไปมองพ่อบ้านข้างหลัง “ส่งคุณหมอลงไป”
“ครับ”
หลังจากที่พ่อบ้านส่งคุณหมอออกไป ซ่างหยิงก็ได้เดินไปนั่งที่ข้างเตียง สายตาที่เป็นห่วงก็ได้มองไปยังใบหน้าที่ซีดเผือดของเจียงสื้อสื้อ ถอนหายใจออกมา
“เธอนี่น้าทำไมถึงให้คนอื่นเขาเป็นห่วงแบบนี้?”
ในเวลานี้ ฟางยู่เชินก็ได้พุ่งเข้ามา
เขามองเห็นเจียงสื้อสื้อที่นอนอยู่บนเตียง คิ้วก็ได้ขมวด “แม่ครับ ทำไมสื้อสื้อถึงได้สลบไปอีกแล้ว?”
เขาพึ่งตื่นมา คอแห้งมากก็ได้ลงไปจะดื่มน้ำชั้นล่าง ก็ได้เจอกับพ่อบ้านพอดี
พ่อบ้านบอกเขาว่าสื้อสื้อสลบไป เขาก็ไม่สนเรื่องดื่มน้ำหันตัวแล้วก็วิ่งมา
“ก็เป็นเพราะลูกนั่นแหละ” ซ่างหยิงก็ได้ถอนหายใจอีกครั้ง “ลูกเป็นไข้สูง สื้อสื้ออาจเป็นเพราะเป็นห่วงลูกเกินไป ร่างกายก็เลยรับไม่ไหวชั่วขณะแล้วก็สลบไป”
ได้ยินแบบนั้น ฟางยู่เชินก็ได้รู้สึกผิดมากๆ ทันที “ผมผิดเอง ตอนนั้นก็น่าจะฟังที่สื้อสื้อพูด ให้หมอมาตรวจดูสักหน่อย”
เขามองเจียงสื้อสื้อบนเตียง ถาม “คุณหมอว่ายังไงครับ?”
“คุณหมอบอกว่าถ้ายังไม่ตื่น ทางที่ดีให้ไปที่โรงพยาบาล”
พูดถึงตรงนี้ ซ่างหยิงก็ได้ขมวดคิ้วแน่น “แม่ก็กังวลว่าจะไม่ตื่นมาง่ายๆ เมื่อกี้เฟิงเฉินพึ่งโทรมาหาแม่ แม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขาแล้ว เขาก็ได้รีบกลับมาแล้ว”
“ไม่ได้ครับ” ฟางยู่เชินส่ายหน้า “พวกเราจะให้สื้อสื้อสลบไม่ตื่นแบบนี้ไม่ได้ครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกเราอธิบายอะไรให้น้องเขยไม่ได้แน่”
“งั้นทำยังไง?” ซ่างหยิงถาม
ฟางยู่เชินตั้งใจคิดไป อยู่ๆ ในหัวก็ได้มีภาพคนคนหนึ่ง สายตาก็เขาก็ได้เป็นประกายทันที “หยวนหยวน”
ซ่างหยิงขมวดคิ้ว “หยวนหยวน? หยวนหยวนทำไม?”
“หยวนหยวนก็เรียนด้านการแพทย์ครับ ผมคิดว่าไม่แน่เธออาจจะมีวิธีอะไรที่สามารถทำให้สื้อสื้อฟื้นขึ้นมาได้”
ฟางยู่เชินก็ได้วิ่งออกจากห้องไป เขากลับไปที่ห้องของตัวเอง หาโทรศัพท์เจอ ก็ได้โทรไปให้ซ่างกวนหยวน
ได้นานสายก็ถูกรับ “ยู่เชิน”
“หยวนหยวน ตอนนี้เธอว่างไหม?”
“ทำไมเหรอ?”
“สื้อสื้อสลบไป ฉันอยากให้เธอมาช่วยดูหน่อย”
เจียงสื้อสื้อสลบไป?!
ซ่างกวนหยวนได้รู้เรื่องนี้ ก็ได้ตกใจมาก เธอคิดไปสักพัก ก็ได้ตอบตกลง “ฉันมีเวลา เดี๋ยวฉันไปตอนนี้เลย”
ฟางยู่เชินก็ได้ถอนหายใจเลยทันที “ขอบใจเธอนะ หยวนหยวน”
“ไม่ต้อง สื้อสื้อก็เป็นเพื่อนของฉัน เดี๋ยวเจอกัน”
ซ่างกวนหยวนวางสายไป เธอก็ได้จ้องมองหนูทดลองที่วิ่งไปมากบนโต๊ะทดลอง ตาก็ได้หรี่ลงเล็กน้อย พอดีเลยการทดลองของเธอก็ได้อยู่ในช่วงหยุดนิ่ง ไม่แน่คราวนี้อาจจะได้อะไรมาเพิ่มจากตัวของเจียงสื้อสื้อ
ฟางยู่เชินลงไป ก็ได้รอซ่างกวนหยวนมาถึงอย่างร้อนใจ
คาดว่าน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ซ่างกวนหยวนก็ได้มาถึงสักที
“ขอโทษ ฉันมาช้าไป”
ซ่างกวนหยวนก็ได้รีบเดินมาตรงหน้าฟางยู่เชินด้วยสีหน้าเร่งรีบ
ฟางยู่เชินก็ได้จับแขนของเธอ “เร็ว สื้อสื้ออยู่ที่ชั้นบน”
ซ่างกวนหยวนถูกฟางยู่เชินจับลากวิ่งไปชั้นบน
เข้าไปในห้อง ซ่างกวนหยวนมองเห็นเจียงสื้อสื้อที่นอนอยู่บนเตียง ใจของเธอก็ได้ตื่นเต้นขึ้นเลยทันที
“หยวนหยวน หนูมาแล้วเหรอ” ซ่างหยิงก็ได้ยืนขึ้น มองเห็นซ่างกวนหยวนก็ได้ดีใจราวกับเห็นทางรอดสุดท้าย ก็ได้รีบเข้าไปจับมือทั้งสองข้างของซ่างกวนหยวน
“คุณน้าค่ะ คุณน้าไม่ต้องกังวล สื้อสื้อต้องไม่เป็นไรแน่ค่ะ” เธอก็ได้ปลอบซ่างหยิงเสียงเบา จากนั้นก็ดึงมือของตัวเองกลับ แล้วก็เดินไปทางเจียงสื้อสื้อ
เธอได้ยื่นมือไปเปิดตาของเจียงสื้อสื้อ มองอยากละเอียด “มองแล้วเหมือนหลับไป”
จากนั้น เธอก็ได้วางกล่องที่แบกอยู่ เปิดออก เอาเครื่องช่วยฟังจากข้างในมาสวม ฟังเสียงหัวใจเต้นของเจียงสื้อสื้อ
“ใจเต้นก็ปกติ”
ซ่างหยิงมองอยู่ข้างๆ พูดเสียงเบา “ที่จริงหมอก็ได้มาตรวจแล้ว ทุกอย่างปกติ แต่ว่าไม่ว่าเรียกยังไงก็ไม่ตื่น”
ซ่างกวนหยวนหันไปมองเธอสักพัก คิดๆ “นี่น่าจะเกี่ยวกับเชื้อไวรัสบนร่างกายของเธอ”
“ใช่ มันเกี่ยวกับเชื้อไวรัสบนร่างกายเธอจริง” ฟางยู่เชินก็ได้เดินมา “เพราะงั้นฉันถึงได้เรียกเธอมา”
“สลบไปคราวก่อน นายรู้ไหมว่าสื้อสื้อตื่นมายังไง?” ซ่างกวนหยวนถาม
“ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ เธอตื่นขึ้นมาเอง”
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้ว “ไม่ได้ทำอะไรเลย ตื่นขึ้นมาเอง?”
ฟางยู่เชินพยักหน้า “อืม เป็นแบบนั้นไม่ผิดแน่ นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เธอสลบไป”
“พวกเธอกำลังคุยอะไรกันอยู่ แม่ทำไมฟังไม่รู้เรื่อง? ไวรัสอะไร?” ซ่างหยิงมองพวกเขาทั้งสองด้วยสีหน้างงๆ
“แม่ครับ ทางนี้ก็ให้หยวนหยวนจัดการเถอะ พวกเราออกไปก่อน”
ฟางยู่เชินก็ได้ลากซ่างหยิงออกไป เหลือซ่างกวนหยวนไว้ในห้อง
เห็นว่าพวกเขาออกไปหมด ซ่างกวนหยวนก็ได้มองไปยังใบหน้าของเจียงสื้อสื้อ เลิกคิ้ว “สื้อสื้อ เธออย่าโทษฉันนะ ถ้าจะโทษก็โทษไวรัสที่อยู่บนตัวของเธอ”
เธอพูดไปก็ได้เอาเข็มฉีดยาที่อยู่ในกล่องออกมาไป
ในหลอดฉีดยาเป็นยาที่เธอได้ทดลองออกมาเมื่อสองวันนี้เพื่อที่จะต่อกรกับไวรัส
เพราะว่าไวรัสออกฤทธิ์ในตัวหนูทดลองเร็วไป ทำให้หนูทดลองตายไปอย่างรวดเร็ว เพราะงั้นเธอไม่มีทางที่จะทดลองว่ายานั้นได้ผลหรือไม่ได้
คราวนี้ก็ถือโอกาสทดลองในร่างกายของเจียงสื้อสื้อได้พอดี
เธอก็ได้เอาเข็มฉีดยาฉีดไปที่เส้นเลือดตรงแขนของเจียงสื้อสื้อ แล้วก็ค่อยๆ ดันยาเข้าไป
รอให้ฉีดไปหมดหลอด ถึงดึงออกมา เอาถุงมาใส่ให้เรียบร้อยแล้วโยนเข้าไปในกล่อง