ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1108 จะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว
ในเมื่อตัดสินใจกลับประเทศแล้ว งั้นก็ไม่ต้องรอช้าแล้ว ในคืนนั้น เธอกับฟางยู่เชินรีบเดินทางไปที่สนามบินทันที
พอมาถึงสนามบิน ฝู้จิงเหวินก็เข้าไปกอดเธอกะทันหัน และยังกอดเธอไว้แน่น
ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว
ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้พุ่งเข้ามาในหัวใจของเธอ เธอก็ยกมือขึ้นมากอดเขากลับ ขอบตาของเธอชื้นเล็กน้อย
“พี่ฝู้ พี่มีโอกาสจะต้องมาหาฉันที่เมืองจิ่นนะคะ ฉันกับเฟิงเฉินและลูก ๆ จะต้องดีใจมากแน่ๆ”
เสียงที่นุ่มนวลและอ่อนหวานของเธอตกลงดังเข้ามาในหูของเขา ทำให้ใจของเขาสั่นคลอน ความเศร้าเกาะกุมหัวใจของเขาจนหมด
เขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว และตอบกลับอย่างอึมครึม “ตกลง”
ฟางยู่เชินมองดูพวกเขา ก่อนจะอดที่จะหัวเราะและหยอกล้อไม่ได้ “โชคดีที่น้องเขยของผมไม่อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องหึงมากแน่ๆ”
พอได้ยินแบบนี้ ฝู้จิงเหวินจึงรีบปล่อยมือ ก่อนจะมองเจียงสื้อสื้ออย่างลึกซึ้ง แล้วยิ้มออกมา “ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ขอให้เขาอยู่ที่นั่น แบบนี้สื้อสื้อจะได้ไม่ต้องกังวลเพราะเขาอีก”
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” เจียงสื้อสื้อพูดเสีนงเบา ก่อนจะหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันไปพูดกับเขายิ้มๆ “พี่ฝู้ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ พวกเรากลับก่อนแล้ว”
“อืม เธอก็ด้วย”
เจียงสื้อสื้อโบกมือให้เขา แล้วหันหลังเดินเข้าไปในล็อบบี้ของสนามบินพร้อมกับฟางยู่เชิน
พอมองจนกว่าไม่เห็นแผ่นหลังของพวกเขา ฝู้จิงเหวินถอนสายตาของเขากลับมา แล้วก้มหน้าลง ก่อนจะหัวเราะเยาะตัวเอง
ตลอดชีวิตนี้ เขาอาจจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว
“ทำใจไม่ได้หรือไง”
เสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามาในหูของเขา
เขาเงยหน้าขึ้น พอเห็นข่ายสื้อลินยืนกอดอกมองอยู่ไม่ไกล คิ้วคมของเขาก็ขมวดเข้าหากันช้าๆ
ข่ายสื้อลินเดินเข้ามาหาเขา พร้อมกับยิ้มเยาะเย้ย “ฝู้จิงเหวิน อย่าลืมสิ่งที่คุณสัญญาไว้กับฉัน”
“ผมไม่ได้ลืม” ฝู้จิงเหวินตอบอย่างเย็นชา
“งั้นก็ดี” ข่ายสื้อลินเหลือบมองไปข้างในสนามบิน ก่อนจะยกยิ้ม “จากนี้ไปคุณจะไม่ได้เจอเธออีก คุณไม่คิดจะเข้าไปข้างในมองอีกหน่อยหรือไง”
“ไม่จำเป็น”
เขากลัวว่ายิ่งมองยิ่งไม่อยากจากลา
ข่ายสื้อลินพยักหน้า แล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา จึงถามออกไป “คุณจะทำอะไรต่อไป”
ใช่สิ เขาจะทำอะไรต่อไปดี
พอเห็นเขาขมวดคิ้วแน่น ข่ายสื้อลินก็อดยิ้มไม่ได้ ในรอยยิ้มของเธอก็เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “เพื่อเจียงสื้อสื้อ คุณทุ่มเทสุดตัวจริงๆ”
ฝู้จิงเหวินลืมตาขึ้น ก่อนจะจ้องไปที่เธอนิ่ง
ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจของเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าของข่ายสื้อลินก็ค่อยๆเลือนหายไป เธอก็ขมวดคิ้วแน่น “นี่คุณคงไม่คิดจะให้ฉันช่วยคุณอีกใช่ไหม”
“คุณช่วยเอาเอกสารการวิจัยหลักของคูรี่มาให้ผมได้ไหม” ฝู้จิงเหวินเอ่ยถาม
ดวงตาของข่ายสื้อลินเบิกกว้างด้วยความตกใจ “คุณจะบ้าเหรอ นี่คุณคิดจะ…”
“คุณเอามาได้ไหม” ฝู้จิงเหวินถามซ้ำ
ข่ายสื้อลินสูดหายใจเข้าลึก “ถึงฉันจะเอามาได้ ฉันก็ไม่ช่วยคุณหรอก”
“ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
พอได้ยินแบบนี้ ข่ายสื้อลินก็พ่นหัวเราะออกมา “ฝู้จิงเหวิน ฉันพบว่าหน้าของคุณหนาขึ้นเรื่อยๆแล้ว ทำไมฉันต้องช่วยคุณด้วย
แล้วอีกอย่าง คุณอย่าคิดจะทำอะไรเพื่อเจียงสื้อสื้ออีก ไม่อย่างนั้น ฉันจะบอกเบอร์เกน ว่าเธอกลับประเทศแล้ว “
พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าของฝู้จิงเหวินก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาคมกริบ “ถ้าคุณกล้าบอกเบอร์เกน ผมจะไม่ปล่อยคุณไปแน่นอน”
“อย่างนั้นเหรอ” ข่ายสื้อลินไม่กลัวคำขู่ของเขาเลย “คุณจะฆ่าฉันหรือว่ายังไง”
ฝู้จิงเหวินจ้องเธอนิ่ง ไม่ได้ตอบกลับ
“ฝู้จิงเหวิน ฉันบอกคุณนี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจะไม่ช่วยคุณอีกแล้ว และคุณก็ไม่ต้องมาข่มขู่ฉัน ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าฉันจะบ้าคลั่งจนทำอะไรลงไปบ้าง”
พอพูดจบ เธอก็มองเขาอย่างเย็นชาแล้วเดินจากไป
ฝู้จิงเหวินกำหมัดแน่น ใบหน้าที่หล่อเหลาถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งพันปี ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ช่วยเขา เขาก็จะหาวิธีเอามันมาให้ได้แน่นอน
……
เครื่องบินลงจอดอย่างราบรื่นที่สนามบินเมืองหลวง
ทันทีที่เดินออกจากสนามบิน ก็เห็นส้งหยาวยืนรออยู่ข้างรถ
“ท่านประธานครับ คุณหนูสื้อสื้อ”
พอเห็นเจียงสื้อสื้อและฟางยู่เชินเดินออกมา ส้งหยาวก็รีบเข้ามาต้อนรับพวกเขาทันที
“เกิดอะไรขึ้น” ฟางยู่เชินถาม
ส้งหยาวเหลือบมองเจียงสื้อสื้อ ก่อนจะตอบออกไปตามความจริง “ซ่างกวนหยวนไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงครับ ผมได้ข่าวมาว่าตั้งแต่เธอเดินทางไปต่างประเทศจากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย”
“อะไรนะ” เจียงสื้อสื้อตกใจมาก
ฟางยู่เชินกอดไหล่ของเธอไว้ “สื้อสื้อ ไม่ต้องร้อนใจ เราไปที่บ้านของซ่างกวนถามให้ชัดกันไปเลย”
พวกเขาขึ้นรถ ส้งหยาวสตาร์ทรถ แล้วขับตรงไปที่บ้านของตระกูลซ่างกวนทันที
ในเวลาเดียวกัน ซ่างกวนเชียนโยนโทรศัพท์ลงพื้นด้วยความโกรธ พวกแม่บ้านและคนใช้กลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ
“พวกไร้ประโยชน์ มีแต่พวกไร้ประโยชน์ทั้งนั้น” เขาดึงเนคไทออกอย่างแรง เพราะความโมโห ทำให้หัวใจเขาสั่นอย่างรุนแรง
“แค่คนคนเดียวยังหากันไม่เจอ”
เขาทิ้งเนคไท สองมือนวดขมับที่กำลังปวดอย่างรุนแรง ก่อนจะตะโกนออกมา “พ่อบ้าน”
พ่อบ้านรีบวิ่งไปข้างหน้า “คุณชายครับ ผมอยู่นี่ครับ”
“ช่วยฉันติดต่อคนพวกนั้น และบอกให้พวกเขาช่วยตามหาเธอให้เจอ”
“ได้ครับ”
พ่อบ้านรับคำสั่งและรีบเดินออกไปทันที
ในขณะนี้เอง กริ่งประตูก็ดังขึ้นมา
ซ่างกวนเชียนหันกลับมองไปที่โถงทางเดิน
คนใช้รีบวิ่งไปเปิดประตู
“ซ่างกวนเชียนอยู่ที่นี่ไหม” ฟางยู่เชินมองไปที่คนใช้ที่เปิดประตู แล้วเอ่ยปากถาม
“อยู่ค่ะ”
ในเวลานี้เอง เสียงที่คุ้นเคยก็ดังออกมาจากข้างใน “ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็บอกเขาไปว่าฉันไม่มีเวลาต้อนรับแขก”
ซ่างกวนเชียนอยู่ข้างในสินะ
ฟางยู่เชินกับเจียงสื้อสื้อมองหน้ากัน ก่อนที่คนใช้จะพูด พวกเขาก็ผลักเธอออกไปแล้วเดินเข้าไป
คนใช้หน้าซีดด้วยความตกใจ แล้วรีบเดินตามหลังไปอย่างรีบร้อน “พวกคุณเข้าไปไม่ได้นะคะ…”
พอซ่างกวนเชียนเห็นฟางยู่เชินกับเจียงสื้อสื้อเดินเข้ามา เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนะได้สติกลับมา “ทำไมถึงเป็นพวกคุณ”
“คุณชายคะ พวกเขาบุกเข้ามาห้ามไว้ไม่ทันค่ะ…”
คนใช้รีบอธิบายอย่างชัดเจน ซ่างกวนเชียนยกมือขึ้นห้ามอย่างหมดความอดทน “ออกไปกันได้แล้ว”
คนใช้รีบออกไปด้วยความโล่งใจ
“พวกคุณมาทำอะไรที่นี่” ซ่างกวนเชียนนั่งลง แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหมดความอดทน
ฟางยู่เชินมองไปที่โทรศัพท์มือถือที่แตกกระจายอยู่บนพื้น ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น “คุณซ่างกวน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันครับ”
“ไม่มีอะไร” ซ่างกวนเชียนเหลือบตามองเขา “พวกคุณมีอะไรจะพูดก็พูดมาครับ”
เจียงสื้อสื้อก้าวไปข้างหน้า “คุณซ่างกวนคะ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ซ่างกวนหยวนอยู่ที่ไหน”
พอเขาได้ยินว่าพวกเขามาหาซ่างกวนหยวน ซ่างกวนเชียนจึงอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ และรอยยิ้มของเขาก็เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “ผมเองก็อยากจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนเหมือนกัน”
“คุณหมายความว่า คุณเองก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนอย่างนั้นเหรอครับ” ฟางยู่เชินเอ่ยถาม
ซ่างกวนเชียนหรี่ตามอง “พูดตามตรง ตั้งแต่เธอไปอิตาลีก็หายตัวไป ไม่มีข่าวคราวอะไรอีกเลย”
“คุณเป็นพี่ชายของเธอ ทำไมคุณไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนคะ” เจียงสื้อสื้อเริ่มใจร้อนแล้ว
ถ้าหากแม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าซ่างกวนหยวนอยู่ที่ไหน แล้วพวกเขาจะไปหาเธอได้จากที่ไหน
“ทำไมผมเป็นพี่ชายของเธอต้องรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนด้วย” ซ่างกวนเชียนมองเธอด้วยสีหน้าตลกขบขัน
ยิ่งไปกว่านั้น ซ่างกวนหยวนไม่คิดว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอด้วยซ้ำ