ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1118 ไม่กล้าคว้าของสูง
“เด็กดี” เหลียงซินเวยก็ได้ยิ้มแล้วก็ลูบหัวของเสี่ยวเป่า ก็ได้หันไปพูดกับอานอาน “อานอาน ได้เรียกคุณน้าสื้อสื้อหรือยัง?”
พออานอานได้ยิน ก็ได้รีบลุกขึ้น “คุณน้าสื้อสื้อ”
เจียงสื้อสื้อหลุดขำ “ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้ ก็คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง”
“ได้เหรอครับ?” อานอานก็ได้ตามอย่างระวัง
“แน่นอนว่าได้จ้ะ”
ได้รับการยืนยันของเธอ อานอานก็ได้มองไปรอบๆ สายตาก็ได้มีความอิจฉาส่องออกมา
เขาก็อยากที่จะอยู่ในบ้านที่ใหญ่แบบนี้เหมือนกัน
“อานอาน”
อานอานก็ได้หันหน้าไปมองเหลียงซินเวย เห็นว่าเหลียงซินเวยส่ายหน้าเบาๆ
เขาเป็นเด็กฉลาดคนหนึ่ง ก็ได้เข้าใจความหมายที่จะสื่อทันที รีบนั่งลงอย่างสุภาพ ไม่กล้าที่จะมองไปรอบๆ
เห็นแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็ได้พูดว่า “เวยเวย นี่เธอเกรงใจเกินไปแล้ว”
เหลียงซินเวยก็ได้ลูบหัวอานอาน มุมปากก็ได้ยิ้มอย่างไม่รู้ควรทำยังไง “พี่สื้อสื้อ อานอานยังเด็ก ฉันไม่อยากให้เขาอยากได้ในสิ่งที่เอามาไม่ได้ อีกอย่างฉันก็ไม่สามารถที่จะให้ได้”
บรรยากาศก็ได้กดดันเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้อก็ได้รีบเปลี่ยนเรื่องคุย “เสี่ยวเป่า พาพี่อานอานแล้วก็น้องไปเล่นที่ชั้นบน หม่ามี๊จะพูดคุยกับคุณน้าเวยเวย”
เสี่ยวเป่าก็ได้ตอบรับอย่างว่าง่าย “ครับ” ก็ได้เดินไปหน้าอานอาน “พี่อานอาน ไปเล่นกับผมที่ชั้นบนเถอะ”
อานอานมองไปทางเหลียงซินเวยด้วยสายตาอยากถามความเห็น เห็นเหลียงซินเวยพยักหน้า เขาถึงได้ลุกขึ้น แล้วก็ตามเสี่ยวเป่าเถียนเถียนขึ้นไป
รอให้พวกเด็กๆ ออกไป เหลียงซินเวยก็ได้พูดว่า “พี่สื้อสื้อ พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นยังจำได้ดี หญิงสาวต่างชาตินั้นไม่ใช่ของดีอะไร เธอนั้นเป็นห่วงว่าพี่สื้อสื้อจะเป็นอันตรายตลอด
“ฉันไม่เป็นไร” เจียงสื้อสื้อก็ได้เม้มปากยิ้ม
เหลียงซินเวยก็ได้โล่งอก “งั้นก็ดี”
ทั้งสองก็ได้ตกอยู่ในความเงียบๆ ก็ได้นั่งเงียบอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ
ในเวลานี้ ซ่างหยิงก็ได้ยกเอาน้ำชาของหวานเข้ามา
“สื้อสื้อ คนนี้เป็นเพื่อนของหนูเหรอ” ซ่างหยิงก็ได้หัวเราะแล้วมองไปทางเหลียงซินเวย
เหลียงซินเวยก็ได้รีบลุกขึ้นยืน พยักหน้าเล็กน้อย “สวัสดีค่ะ คุณน้าสะใภ้”
“สวัสดีจ้ะ รีบนั่งลง” ซ่างหยิงก็ได้ให้เธอนั่งลง ยกชาให้เธอ “นี่เป็นชาดอกไม้ที่น้าทำเอง เธอดื่มดู”
“ขอบคุณค่ะคุณน้า”
เหลียงซินเวยก็ได้รับมา ก็ได้จิบไปเล็กน้อย ตาก็ได้เป็นประกาย “อร่อยมากเลยค่ะ”
ซ่างหยิงก็ได้ยิ้มออกมาราวกับดอกไม้ “งั้นก็ดีจ้ะ”
“ปกติคุณน้าสะใภ้ของฉันชอบทำชาดอกไม้ แล้วอบบิสกิตอะไรพวกนั้นเอามากๆ ตอนนี้ได้ยินเธอบอกว่าชาดอกไม้อร่อย น้าต้องดีใจมากๆ”
เจียงสื้อสื้อก็ได้เลิกคิ้วให้ซ่างหยิง “ใช่ไหมคะ? คุณน้า”
“แน่นอนอยู่แล้ว” ซ่างหยิงก็ได้ยิ้มแล้วพูด “หนูรีบลองชิมบิสกิต ดูว่าอร่อยไหม”
เหลียงซินเวยก็ได้เอาบิสกิตเข้าปากอย่างว่าง่าย รสชานมที่เข้มข้นก็ได้ละลายอยู่ในปากทันที เป็นรสที่เธอชอบ
เธอก็ได้พยักหน้าอย่างตั้งใจทันที “อร่อยมาก หนูชอบมากค่ะ”
“ชอบก็กินเยอะหน่อย” ซ่างหยิงก็ได้ผลักจากบิสกิตไปตรงหน้าเธอ
“ขอบคุณค่ะคุณน้า”
“ไม่ต้องเกรงใจจ๊ะ” ซ่างหยิงก็ได้ยิ้มให้เธอ หันหน้าพูดกับเจียงสื้อสื้อ “พวกเธอค่อยๆ คุย น้าไปเตรียมมื้อกลางวันก่อน”
จากนั้น เธอก็ได้พูดกับเหลียงซินเวยว่า “กลางวันนี้ก็อยู่ทานข้าวด้วยกันนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเรากลับไปทานก็พอ” เหลียงซินเวยไม่กล้าที่จะรบกวนนาน ก็ได้รีบปฏิเสธ
ได้ยินแบบนั้น ซ่างหยิงก็ได้แกล้งทำเป็นหน้าเสีย “กลัวว่าอาหารที่ทำมาไม่ถูกปากเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” เหลียงซินเวยก็ได้คิดว่าเธอโมโห คนก็ได้รนไปเลย
เจียงสื้อสื้อก็กลั้นขำต่อไม่ได้ “คุณน้าสะใภ้คะ คุณน้าสะใภ้อย่าไปขู่เวยเวยแบบนั้น”
ซ่างหยิงก็ได้หัวเราะ “งั้นก็เอาตามนี้ อยู่ทานมื้อกลางวันก่อน”
ไม่รอให้เหลียงซินเวยตั้งตัว ซ่างหยิงก็ได้เดินออกไป
เหลียงซินเวยก็ได้กะพริบตา งงเล็กน้อย “น้าสะใภ้ของเธอไม่ได้โมโหเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ใช่ คุณน้าสะใภ้ไม่ได้โมโห เธอไม่ต้องกลัว”
“งั้นก็ดี” เหลียงซินเวยก็ได้ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก็ได้ยิ้มอย่างไม่รู้จะทำยังไง “ฉันคิดว่าคุณน้าสะใภ้โมโหจริงๆ ซะแล้ว”
“คุณน้าสะใภ้ของฉันเป็นคนดีมากนะ แล้วก็เป็นคนสนุก ต่อไปเธอคุ้นเคยก็รู้แล้ว” เจียงสื้อสื้อพูด
เหลียงซินเวยพยักหน้า “อืม”
แต่ว่า นี่ก็แค่พูดไปงั้นๆ เธอจะไปคุ้นเคยกับเขาได้ยังไง?
ยังไงซะตระกูลฟางเป็นถึงตระกูลเศรษฐี คนที่ทั้งปกติและธรรมดาอย่างเธอ ไม่กล้าที่จะคว้าของสูง
ตอนที่ใกล้กลางวันนั้น อยู่ๆ ฟางยู่เชินก็กลับมา
เจียงสื้อสื้อแปลกใจมากๆ “พี่เป็นอะไรไปค่ะ ทำไมกลับมาตอนกลางวัน?”
“มีเอกสารอย่างหนึ่งลืมไว้ที่บ้านแล้ว กลับมาเอา” ฟางยู่เชินพูดไป สายตาก็ได้มองไปยังเหลียงซินเวยที่ได้อยู่ข้างๆ
เหลียงซินเวยก็ได้พยักหน้าให้เขาเป็นการทักทาย
เขาก็ได้พยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบน
เจียงสื้อสื้อก็ได้มองกลับมา บ่นเสียงเบาว่า “นี่ก็บังเอิญเกินไปแล้วหรือเปล่า”
“พี่สื้อสื้อ พี่พูดอะไรอยู่เหรอคะ?” เหลียงซินเวยได้ยินไม่ชัด ก็ได้ถามอย่างสงสัย
เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามองเธอ นิ่งไปสักพัก ถึงได้ยิ้มออกมา พูด “ไม่มีอะไร”
“ปกติประธานฟางไม่กลับมาตอนกลางวันเหรอคะ?” เหลียงซินเวยถาม
“เขางานยุ่ง ไปมีเวลากลับมาตอนกลางวันที่ไหน ปกติก็กลับมาตอนเลิกงานกลางคืน”
เหลียงซินเวยพยักหน้า “งั้นก็ลำบากจังนะคะ”
เธอก็ได้อดมองไปชั้นบนไม่ได้ วันนี้ตัวเองโชคดีเหรอ? ถึงได้เจอเข้ากับเขาที่กลับตอนกลางวัน
เจียงสื้อสื้อมองเธอ ก็ได้คิดอะไรเล็กน้อยสักพัก เปิดปากถาม “เวยเวย เธอว่าพี่ฉันเป็นคนยังไง?”
“ดีมากนะคะ” เหลียงซินเวยก็ได้ตอบไปตรงๆ
“ก็แค่ดีมากอย่างเดียวเหรอ?” เจียงสื้อสื้อก็ได้เลิกคิ้วเล็กน้อย “ไม่มีอย่างอื่นเลยเหรอ?”
“อืม……” เหลียงซินเวยก็ได้ตั้งใจคิด “ทั้งสูงทั้งหล่อ แล้วก็เป็นคนดีมาก”
ตอบคำถามของเธอหมด เหลียงซินเวยก็รู้สึกว่าหน้าของตัวเองนั้นก็ได้ร้อนไปหมด ก็ได้รีบยกชาดอกไม้มาดื่ม ปิดบังหัวใจที่เต้นแรงของตัวเอง
เห็นหน้าที่แดงของเธอ เจียงสื้อสื้อก็ได้เลิกคิ้ว “เพราะงั้น……เธอจะชอบเขาไหม?”
“แค่ก!” เหลียงซินเวยแทบที่จะสำลักชาออกมา
เจียงสื้อสื้อก็ได้รีบเอากระดาษทิชชูส่งให้เธอ ก็ได้ขำเล็กน้อย “ฉันแค่ถามเฉยๆ เธอทำไมตื่นเต้นแบบนั้น? หรือว่าฉันเดาถูกแล้ว?”
“พี่สื้อสื้อ!” หน้าของเหลียงซินเวยก็ได้แดงไปเลย เสียงของได้สั่นเล็กน้อย “ฉัน……ฉันไม่ได้ชอบเขา”
“ใช่เหรอ?” เจียงสื้อสื้อก็ได้จ้องมองเธออย่างเจ้าเล่ห์ “ถ้าไม่ชอบ เธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้ล่ะ?”
“ก็เพราะสำลักนี่นา” เหลียงซินเวยก็ได้ไอเล็กน้อย เป็นการยืนยันว่าตัวเองสำลักจริงๆ
แต่ว่าในสายตาของเจียงสื้อสื้อ หมายความว่าที่นี่ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง
เธอก็ได้แกล้งทำเป็นถอนหายใจอย่างผิดหวัง “พี่ฉันเก่งขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าเธอไม่ชอบ”
“ฉัน……ฉันหมายความว่า ประธานฟางเก่งมากๆ ต้องมีผู้หญิงมาชอบเยอะแยะแน่ ฉันไม่นับอะไร”
ตอนที่พูดแบบนี้ ไม่รู้ทำไม ในใจของเธอก็ได้ปวดเล็กน้อย