ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 113 แด๊ดดี๊ป่วยครับ
บทที่ 113 แด๊ดดี๊ป่วยครับ
เจียงสื้อสื้อเดินไปที่ประตูบริษัท อดไม่ได้ที่จะกังวลว่าจิ้นเฟิงฉินก็มาด้วยไหมนะ
คิดไม่ถึงว่า ไม่นานเธอก็สบายใจขึ้น
ตอนนี้ เห็นน้ำตาของเสี่ยวเป่าเอ่อล้นที่เบ้าตา พูดอย่างกังวลว่า “แด๊ดดี๊ป่วยครับ หนักมากด้วย แถมยังไม่กินยาอีก คุณน้าสื้อสื้อ คุณรีบไปดูเขาเถอะ!”
ได้ยินแบบนี้ สายตาของเจียงสื้อสื้อเป็นประกาย เขาป่วย? แถมยังป่วยหนักอีก?
สีหน้าเจียงสื้อสื้อสับสน และพูดออกมาว่า “จะป่วยได้ยังไง คนรับใช้ไปไหนล่ะ? หนูไปหาคุณชายรองไหม?”
“วันนี้คนรับใช้ลาพักครับ คุณอารองไม่รับโทรศัพท์ คุณน้าสื้อสื้อ คุณไปดูหน่อยเถอะ แค่นิดเดียว”
เจียงสื้อสื้อถูกเสี่ยวเป่าอ้อนวอนก็หมดหนทาง แต่ว่าในใจของเธอยังสับสน ตอนนี้ถ้าเธอไปดูจิ้นเฟิงฉิน กลัวว่าคงไม่ค่อยดี
“เสี่ยวเป่า……”
“คุณน้าสื้อสื้อไม่อยากไปเหรอครับ? งั้นก็ช่างมันเถอะ เสี่ยวเป่าดูแลแด๊ดดี๊เองก็ได้! “เสี่ยวเป่าก้มหน้า น้ำตาเอ่ออยู่ในเบ้าตา ใบหน้านุ่มนิ่มนั้นดูเหมือนกับรู้สึกหดหู่
ไม่พูดก็ไม่ได้ เด็กน้อยคนนี้เหมาะกับการเป็นนักแสดงจริงๆ
เจียงสื้อสื้อเห็นแบบนี้ หัวใจก็เจ็บแปลบ รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ไป น้าเจียงจะไปกับหนู”
ฟังจบ สีหน้าของเสี่ยวเป่าก็ดีใจขึ้นทันที
“จริงเหรอครับ? ผมรู้ว่าคุณน้าเจียงดีที่สุดเลย”
หลังจากพูดจบ เสี่ยวเป่าก็รีบดึงเจียงสื้อสื้อขึ้นรถ เหมือนกับกลัวว่าวินาทีถัดไปเธอจะเปลี่ยนใจ
ขึ้นรถแล้ว เจียงสื้อสื้อทั้งกังวลทั้งเสียใจ
เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงคำพูดเมื่อวานของจิ้นเฟิงเหรา หรือว่าเพราะทำงานยุ่ง จิ้นเฟิงฉินถึงได้ป่วย? คิดไป เจียงสื้อสื้อก็อดทุกข์ใจไม่ได้
เสี่ยวเป่านั่งอยู่ด้านข้าง ถามว่า “คุณน้าสื้อสื้อ ช่วงนี้คุณคิดถึงเสี่ยวเป่าไหม?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้ารับ “คิดถึงสิ! คิดถึงอยู่แล้ว”
คำพูดนี้คือความจริง
“เสี่ยวเป่าก็คิดถึงคุณมากๆ แต่ว่าช่วงนี้คุณปู่คุณย่าอยู่บ้าน ผมเลยไม่มีเวลามาหาคุณ”
ฟังจบ เจียงสื้อสื้อแววตาเป็นประกาย
คุณพ่อคุณแม่ไม่อนุญาตให้เสี่ยวเป่ามาเจอเธอจริงๆ ด้วย เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
……
รถเคลื่อนตัวมาถึงตระกูลจิ้น เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปกับเสี่ยวเป่า เธอสงสัยว่า คนรับใช้ก็อยู่ตั้งหลายคน? แถม รถของคุณชายรองก็จอดอยู่หน้าบ้าน หรือว่าเขาก็อยู่ในบ้าน? งั้นจะไม่มีคนดูแลจิ้นเฟิงฉินได้ยังไง
เจียงสื้อสื้อรู้สึกผิดปกติ แต่ว่ายังตามเสี่ยวเป่าเข้ามาในห้อง จิ้นเฟิงฉินยังนอนหลับอยู่บนเตียงเขาหลับตาอยู่ ดูเหมือนว่ากำลังหลับลึก
เจียงสื้อสื้อหยุดเท้าลง ในใจของเธอยังคงวุ่นวาย ไม่งั้นเธอออกไปก่อนดีกว่า! ในบ้านคนรับใช้มากมาย จะไม่มีคนดูแลจิ้นเฟิงฉินได้ยังไง
ในใจของเธอรู้แล้วว่า เสี่ยวเป่าแค่อยากให้เธอมาแค่นั้น
เสี่ยวเป่าเห็นความกังวลของเจียงสื้อสืเอ เขาผลักเธอเข้าไป และพูดอย่างออดอ้อนว่า “คุณน้าสื้อสื้อ คุณมาถึงแล้ว เข้าไปดูหน่อยเถอะ!”
เจียงสื้อสื้อเม้มริมฝีปาก ช่างเถอะ มาก็มาแล้ว ก็เข้าไปดูเขาเถอะ! รอสักพักก็เดินเข้าไป
คิดไป เจียงสื้อสื้อก็เดินไปข้างเตียง
เสี่ยวเป่ายังคงยืนอยู่ที่เดิม เห็นเจียงสื้อสื้อเดินเข้าไปแล้ว ใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เจียงสื้อสื้อไม่ได้สังเกตุเห็น เธอยื่นมือไปลูบหน้าผากของจิ้นเฟิงฉิน อุณหภูมิอะไรก็ปกติ นอกจากใบหน้าที่เหนื่อยล้า อย่างอื่นก็ดีหมด ก็ไม่ได้ป่วยนิ่
เสี่ยวเป่าไม่ได้บอกว่าป่วยหนักมากหรอกเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?
ตอนที่กำลังสงสัย! ตอนนี้ ก็มีเสียงดังปั้งจากด้านหลัง เจียงสื้อสื้อหันหน้ากลับไป ไม่เห็นเสี่ยวเป่าแล้ว ประตูก็ถูกปิดลง
ในเวลานี้ เธอตกใจ รีบเดินไปเปิดประตู ถึงพบว่าประตูถูกล็อก เปิดยังไงก็เปิดไม่ออก
“เสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่า เปิดประตู!”
เจียงสื้อสื้อเรียกไป คนด้านนอกประตูก็ไม่ได้สนใจ ตอนนี้เธอถึงรู้ว่าถูกเสี่ยวเป่าหลอกเข้าแล้ว จิ้นเฟิงฉินไม่ได้ป่วยเลยแม้แต่น้อย
“เสี่ยวเป่า รีบเปิดประตู ไม่งั้นน้าสื้อสื้อจะโกรธแล้วนะ”
เจียงสื้อสื้อยังคงตะโกนต่อ เสี่ยวเป่าที่อยู่ด้านนอกก็ไม่ได้สนใจ แต่กลับทำให้จิ้นเฟิงฉินที่อยู่บนเตียงตื่นขึ้นมา
เขามองมาที่เธอ ในดวงตายังสะลึมสะลือ และจิ้นเฟิงฉินยังคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เจียงสื้อสื้ออยากหารูมุดออกไปจริงๆ ในโลกนี้ยังมีเรื่องอะไรที่อึดอัดกว่านี้อีกไหมเนี่ย?
จิ้นเฟิงฉินลงจากเตียง คิ้วยังขมวดด้วยความสงสัย
เจียงสื้อสื้อร้องไห้อย่างไม่มีน้ำตา อึดอัดจนถึงที่สุด และพูดออกมาว่า “ประตูเปิดไม่ออกค่ะ”
ฟังจบ จิ้นเฟิงฉินก็ขมวดคิ้วขึ้น เขาเดินไปข้างหน้า ดึงประตู แต่กลับถูกล็อกไว้จริงๆ เขาเม้มริมฝีปาก และถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
เจียงสื้อสื้อไม่คิดจะปิดบัง ก็เล่าเรื่องให้เขาฟังคร่าวๆ
“เสี่ยวเป่าไปหาฉันที่บริษัทบอกว่าคุณป่วย หนักมาก หลังจากนั้น……”
จิ้นเฟิงฉินฟังจบ คิดสักพักก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาอิงอยู่ข้างประตู แววตาเป็นประกาย และค่อยๆ พูดออกมาว่า “หลังจากนั้นคุณก็เลยมา?”
แต่ท่าทางนั้นเหมือนจะพูดว่า คุณเป็นห่วงผม
สังเกตเห็นความหมายของเขา เจียงสื้อสื้อก็รีบอธิบายว่า “ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ เสี่ยวเป่าร้องไห้ให้ฉันมา คุณก็รู้ว่า ฉันทนน้ำตาของเขาไม่ได้”
หลังจากพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็หันหน้าไปด้านข้าง ไม่กล้ามองสายตาของจิ้นเฟิงฉิน ใช่……เธอไม่ได้มาเพราะเป็นห่วงจิ้นเฟิงฉิน
“อ่อ แบบนี้เหรอ!” จิ้นเฟิงฉินพูดเบาๆ เขายิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร และกลับลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง
เจียงสื้อสื้อมองเขาอย่างตกใจ ไม่ใช่ นี่…เขาหนีไปนอนอีกแล้ว? อะไรกันเนี่ย! สับสนตั้งนาน เจียงสื้อสื้อถึงพูดว่า “เอ่อ พวกเราถูกล็อกเอาไว้นะ! คุณไม่เรียกเสี่ยวเป่ามาเปิดประตูเหรอ?”
จิ้นเฟิงฉิน “ผมง่วงมา นอนก่อนค่อยว่ากัน”
ฟังจบ เจียงสื้อสื้อก็โวยวาย นอนก่อนค่อยว่ากันอะไรกัน เธอยังอยู่ที่นี่นะ จะคิดถึงความรู้สึกกันหน่อยไม่ได้รึไง!
เจียงสื้อสื้อพูดอย่างเหลืออด “งั้นจะให้ฉันออกไปก่อนไม่ได้เหรอ!”
คงจะไม่ให้เธอยืนอยู่ตรงนี้มองเขานอนหลับหรอกนะ!
เสียงของจิ้นเฟิงฉินดังขึ้นมาว่า “คุณให้เสี่ยวเป่าปล่อยคุณออกไปสิ ผมก็ถูกล็อกอยู่ที่นี่เหมือนกัน!”
“ไม่ใช่ นี่คุณไม่ได้กุญแจเลยเหรอ? หรือว่าเรียกคนใช้ให้หาวิธีเปิดประตู”
“ไม่มี ประตูถูกเสี่ยวเป่าล็อก ก็ต้องให้เขามาเปิดเอง”
หลังจากพูดจบ จิ้นเฟิงฉินก็ยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นก็หลับตาลง
เจียงสื้อสื้อยืนอยู่ที่เดิม เสียงเสี่ยวเป่า เด็กน้อยคนนี้เมื่อไหร่จะมาเปิดประตูนะ! เหมือนกับพ่อเขาจริงๆ
……
ตอนนี้ ที่บันได เสี่ยวเป่าพูดกับจิ้นเฟิงเหราอย่างมีความสุข “คุณลุงเล็ก ผมทำตามที่คุณบอกแล้ว คุณน้าสื้อสื้อถูกล็อคอยู่ในห้องของแด๊ดดี๊”
จิ้นเฟิงเหรายิ้มออกมา และอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมา ชื่นชมว่า “ทำได้ดีมากหลานรัก”
หลังจากนั้นก็อยู่ที่พี่ชายเขาแล้วแหละ