ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 114 อยู่ในอ้อมกอดของจิ้นเฟิงฉิน
บทที่ 114 อยู่ในอ้อมกอดของจิ้นเฟิงฉิน
เจียงสื้อสื้อรู้ว่าเสี่ยวเป่าคงไม่มาเปิดประตู ทำได้แค่หาที่นั่งลง
เธออดที่จะมองจิ้นเฟิงฉินไม่ได้ ตอนนี้เขากำลังหลับตาอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่ากลับจริงๆ ไหม
เจียงสื้อสื้อไม่กล้าส่งเสียง จ้องใบหน้าของเขามานานแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร ดูเหมือนว่าจะหลับแล้วจริงๆ
ตอนนี้ เจียงสื้อสื้อยิ่งอยากร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา เมื่อคืนจิ้นเฟิงเหราพูดไปก็ชั่งมันเถอะ วันนี้เสี่ยวเป่ายังมาล็อคเธอไว้ในห้องอีก แต่จิ้นเฟิงฉินตอนนี้ กลับนอนหลับอย่างสบายใจ ผู้ชายคนนี้แปลกเกินไปจริงๆ! คิดถึงความรู้สึกเธอหน่อยได้ไหม!
เจียงสื้อสื้ออยากตะโกนเรียกให้เขาตื่นหาวิธีเปิดประตู แต่ว่าพอคิดถึงคำพูดของจิ้นเฟิงเหราเมื่อวาน แต่ทำงานยุ่งทั้งวัน คิดว่าเมื่อคืนเขาคงไม่ได้หลับ
คิดไปคิดมา เจียงสื้อสื้อก็อดทนไม่ไปปลุกเขา ทำได้แค่รอให้จิ้นเฟิงฉินหรือว่าเสี่ยวเป่ามาเปิดประตู
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ อดไม่ได้ที่จะมองรอบๆ ห้องของจิ้นเฟิงฉิน ของในห้องเรียบง่ายแต่ยังดูหรูกนา มองดูสบายตา รอบๆ มีกลิ่นของน้ำหอมอ่อนๆ มองไปรอบหนึ่ง เจียงสื้อสื้อก็เห็นของที่คุ้นตาวางอยู่บนโต๊ะ
นี่ไม่ใช่กุญแจบ้านนี่เหรอ? ที่แท้ก็ตกอยู่ที่ห้องจิ้นเฟิงฉิน
หยิบกุญแจดูอยู่ตั้งนาน เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกเบื่อหน่าย เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา ดูเวยป๋อ และเล่นเกม
ตอนนี้ เจียงสื้อสื้อได้รับข้อความจาก ลู่เจิงที่ส่งมา ถามเธอว่าตอนกลางคืนมีเวลาไปทานข้าวด้วยกันไหม
ทานข้าว? ตอนนี้เธอออกจากห้องนี้ไม่ได้เป็นปัญหา อย่าว่าแต่กินข้าวเลย
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจออกมา และปฏิเสธ ลู่เจิงอย่างนุ่มนวล
“ขอโทษค่ะ! รุ่นพี่ลู่ ฉันมีธุระนิดหน่อย คืนนี้เกรงว่าจะไปไม่ได้ เปลี่ยนวันแล้วฉันจะเลี้ยงคุณเอง!”
ไม่นาน ลู่เจิงก็ตอบกลับ
“ครับ งั้นรอให้คุณมีเวลาค่อยติดต่อผมมาแล้วกัน”
เจียงสื้อสื้อไม่ได้สนใจอีก และเล่นเกมต่อไป
ตอนกลางคืน เธอรู้สึกเหนื่อยแล้ว เจียงสื้อสื้อมองจิ้นเฟิงฉิน เขาไม่มีท่าทีที่จะตื่นขึ้นมาเลย ไม่รู้อะไรเลย เจียงสื้อสื้อก็ก้มหน้าหลับไปบนโต๊ะ……ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน สะลึมสะลือ เธอรู้สึกว่ามีคนกอดเธออยู่ อ้อมกอดที่คุ้นเคย ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกอุ่นใจ
จิ้นเฟิงฉินกอดเธออยู่ เบาๆ มองเห็นเธอหลบอยู่ในอ้อมกอด เขารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากนั้นเขาก็วางเจียงสื้อสื้อลงบนเตียง ห่มผ้าให้ หลังจากนั้นตัวเองก็เอนตัวนอนลงข้างๆ
มองดูหญิงสาวหลับอย่างเงียบๆ …… แววตาของจิ้นเฟิงฉินเป็นประกายของความอบอุ่น เขาค่อยๆ ยิ้มที่มุมปาก และค่อยๆ หลับไป
ตอนนี้ ในห้องรับแขก
เสี่ยวเป่าและจิ้นเฟิงเหราทั้งดูโทรทัศน์ ทั้งกินขนม
“คุณอาเล็ก คุณลองบอกหน่อยว่าตอนนี้คุณน้าสื้อสื้อกับแด๊ดดี้กำลังทำอะไรกันอยู่? ”
“อาจะไปรู้ได้ยังไง”
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่จิ้นเฟิงเหรากลับอดไม่ได้ที่จะคิดภาพที่จะทำให้คนหน้าแดง
“งั้นพวกเราจะปล่อยน้าสื้อสื้อตอนไหนครับ! หลังจากที่น้าสื้อสื้อออกมาเธอจะโกรธไหมครับ ถ้าเธอโกรธเธอจะไม่สนใจเสี่ยวเป่าหรือเปล่า”
จิ้นเฟิงเหราลูบหัวของเขา ยิ้มและพูดว่า “วางใจเถอะ เสี่ยวเป่า น้าสื้อสื้อไม่สนใจ หนูก็ทำตัวน่ารักๆ ก็ได้แล้ว”
เสี่ยวเป่าพยักหน้ารับ รู้สึกว่ามีเหตุผล
ทั้งสองคนก็คุยกันแบบนี้ ทั้งกินขนมและดูโทรทัศน์ต่ออย่างสบายใจ
……
ตอนที่เจียงสื้อสื้อตื่นมาอีกครั้ง เหมือนกับได้ยินเสียงหัวใจเต้นที่ข้างหู นิ่งอึ้งไปสักพักถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของจิ้นเฟิงฉิน และอบอุ่นมากๆ
เกิดอะไรขึ้น?
เจียงสื้อสื้อึ้งไปสองวินาที ตกใจและผละออกจากอ้อมกอดของเขา รอบข้างมีเสียงดังขึ้น จนทำให้จิ้นเองฉินค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เขาลืมตาขึ้นมา เห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากำลังตื่นตระหนกอยู่
“ฉัน……ทำไมฉัน? ไม่ใช่ ทำไมฉันถึงมาอยู่บนเตียงคุณได้? ” เจียงสื้อสื้อถามอย่างตะกุกตะกัก
จิ้นเฟิงฉินเห็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแกล้ง “คุณลืมแล้วเหรอ? ว่าคุณเป็นคนปีนขึ้นมาเอง”
ฟังจบ เจียงสื้อสื้อก็นิ่งไป จะเป็นไปได้ยังไง หรือว่าเธอกำลังละเมอ? เป็นไปไม่ได้
“คุณหลอกฉัน”
จิ้นเฟิงฉินยิ้มเล็กๆ เธอสังเกตเห็นว่าเขาหลอกเธอ เจียงสื้อสื้อโมโหขึ้นทันที หยิบหมอนที่อยู่ข้างๆ มาตีเขา
จิ้นเฟิงฉินยื่นมือมาบัง และดึงหมอน ไม่รู้ทำไม เจียงสื้อสื้อก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว
และตอนนี้ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เป็นจิ้นเฟิงเหราและเสี่ยวเป่า
มองเห็นสถานการณ์ในห้อง จิ้นเฟิงเหราเอามือปิดตาของเสี่ยวเป่า และรีบพูดขึ้นว่า “พวกคุณต่อเลยครับ”
หลังจากพูดจบ เขาก็รีบปิดประตูและพาเสี่ยวเป่าออกไป
“โถ่ ไม่ใช่ ฟังฉันอธิบายก่อนสิ!” เจียงสื้อสื้อรีบลุกขึ้นยืนและพูดออกมา แต่ว่าประตูถูกปิดไปแล้ว ยังเหลือเงาของเสี่ยวเป่าและจิ้นเฟิงฉินที่ไหนกัน
จิ้นเฟิงเหรากอดเสี่ยวเป่า มาถึงข้างล่าง
เสี่ยวเป่าออกจากอ้อมกอดของเขา รีบพูดว่า “คุณอาเล็ก คุณน้าสื้อสื้อและแด๊ดดี้เมื่อกี้ทำอะไรกันอยู่ข้างใน ทำมาไม่ให้ผมดู!”
เมื่อกี้เสี่ยวเป่าที่เข้าไปในห้องยังไม่ทันเห็นอะไรก็ถูกอุ้มออกมา ทำท่าสงสัย
จิ้นเฟิงเหรายิ้ม “หลานรัก นั่นเป็นเรื่องที่ดูไม่ได้”
“ทำไมล่ะครับ? ”
“เอ่อ……หลังจากหนูโตขึ้นก็รู้เอง” จิ้นเฟิงเหราใบหน้าสับสน
เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปด้านบน คิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้ว เลยไปเปิดประตูให้คนทั้งคู่ สุดท้ายคิดไม่ถึงว่าจะเห็นภาพแบบนี้
แต่ขอให้พี่ชายละพี่สะใภ้ไม่ถูกพวกเขารบกวน
เสี่ยวเป่าได้ยินแบบนี้ สายตาก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น
“ไปเถอะ เสี่ยวเป่า เลิกคิดได้แล้ว จะพาหนูออกไปเล่นข้างนอก สักพักพวกเราค่อยกลับมา”
พูดไป จิ้นเฟิงเหราก็อุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมา
เสี่ยวเป่าไม่ได้ปฏิเสธ และออกไปกับเขาแล้ว
……
ในห้องข้างบน เจียงสื้อสื้อคิดอยากตายจริงๆ เธอไม่แค่อยู่บนเตียงของจิ้งเฟิงฉิน และยังถูกจิ้นเฟิงเหราและเสี่ยวเป่าเห็นท่าทางที่ทำให้เข้าใจผิดแบบนั้นอีก
เจียงสื้อสื้อมองผู้ร้ายที่อยู่ข้างๆ เธอ
“เป็นเพราะคุณ”
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแกล้งเธอ ก็คงไม่ถูกเข้าใจผิดแบบอึดอัดขนาดนี้
จิ้นเฟิงฉินยิ้มออกมา ใบหน้าที่หล่อเหลายิ่งทำให้น่าหลงใหล เขาพูดเสียงทุ้มต่ำและน่าดึงดูด “ทำยังไงดี? ตอนนี้ถูกเข้าใจผิดแล้ว คุณจะรับผิดชอบผมไหม? ”
ฟังจบ เจียงสื้อสื้อก็หน้าแดงขึ้นมา แต่ว่าพอเรียกสติกลับมาได้ เธอก็รีบพูดขึ้นว่า “เลิกล้อเล่นได้แล้ว ฉันต้องรับผิดชอบอะไร แน…..ฉันควรกลับได้แล้ว คุณให้พวกเขามาเปิดประตูหน่อยได้ไหม”
เจียงสื้อสื้อเกาหัว เธออดไม่ได้ที่จะกลัดกลุ้ม ถ้ารู้ไวกว่านี้เธอไม่ควรนอนหลับ
ช่างมันเถอะช่างมัน ยังไงจิ้นเฟิงฉินไม่ป่วยก็ดีแล้ว ตอนนี้เธอก็น่าจะกลับไปได้แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็ให้เป็นการเข้าใจผิดแล้วกัน