ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1196 ฉันไม่ชอบเขา
เห็นแบบนั้น กู้เนี่ยนก็ได้หลุดหัวเราะออกมา “เธออย่าตกใจขนาดนั้น ชอบที่ผมหมายถึงก็คือการชอบแบบของเพื่อน”
ที่แท้เป็นแบบนี้
เหลียงซินเวยก็ได้ถอนหายใจเงียบๆ เธอก็ได้มองไปทางฟางยู่เชินอย่างไม่รู้ตัว
กลับเห็นว่าเขาได้มองลง สีหน้าเรียบๆ มองไม่ออกว่าคิดอะไรเลยสักนิด
ในใจก็ได้มีความผิดหลังเล็กน้อย
เธอก็ได้หัวเราะแห้งๆ สักพัก ตนก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย เขาจะไปมีปฏิกิริยาอะไรได้ยังไง?
“เป็นแค่ความชอบแบบเพื่อนจริงเหรอคะ?” เย่เสี่ยวอี้ก็ได้แกล้งความต่อ
เธอไม่เชื่อว่าผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนหนึ่งนั้น ก็มีแค่ความชอบแบบของเพื่อนเฉยๆ?
ยังไม่รอให้กู้เนี่ยนตอบ ฟางยู่เชินก็ได้พูดออกไปก่อนว่า “คุณยังจะทานอาหารไหม? ถ้าไม่ทาน ผมขอตัวก่อน”
สีหน้าเขาได้เย็นชา สายตาไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด
เย่เสี่ยวอี้อดไม่ได้ที่จะสั่นอย่างหนาวๆ ก็ได้รีบพูด “กิน ต้องกินอยู่แล้ว”
ฟางยู่เชินก็ได้เล่ห์ตามองเหลียงซินเวยที่อยู่ตรงข้ามทแยงสักพัก นัยน์ตาก็ได้มีความรู้สึกที่ยากจะมองเห็นได้
ตอนที่ได้ยินกู้เนี่ยนพูดคำว่า “ชอบ” ออกมา ประสาทของเขาก็ได้บีบตึง
ถึงแม้ว่าสื้อสื้อได้บอกตั้งแต่แรกแล้ว ว่ากู้เนี่ยนอยากจะจีบเหลียงซินเวย แต่พอมาได้ยินกับหูตัวเอง ความรู้สึกนั้นมันก็ไม่เหมือนกัน
เวลานั้น ทั้งอกของเขาก็เหมือนได้มีก้อนสำลีอุดอยู่ อึดอัดจนหายใจไม่ค่อยออก
“ยู่เชิน นายอยากจะกินอะไร?”
เย่เสี่ยวอี้เงยหน้าขึ้น เห็นว่าเขาทำหน้าเครียดไม่รู้ว่าคิดอะไรรู้ คิ้วก็ได้ขมวดอย่างอดไม่ได้ มือที่ได้ถือเมนูก็ได้บีบแน่น
สุดท้ายเขาก็แคร์
อาหารมื้อนี้ก็ได้ทานหมดลงในบรรยากาศที่แปลก ระหว่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงที่ออดอ้อนของเย่เสี่ยวอี้เป็นบางครั้งบางคราว
“ยู่เชิน นายกินอันนี้ อร่อยมาก”
“ยู่เชิน อันนี้อร่อยมาเลย นายก็ลองกินดู”
……
เย่เสี่ยวอี้ก็ได้กินไปพูดอร่อยไป เหลียงซินเวยกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังเคี้ยวหมากฝรั่ง ไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นกำลังกินอะไรเลยสักนิด
ทานข้าวหมด กู้เนี่ยนก็ได้มองเขาสักพัก ก็ได้ยิ้มอย่างอ่อนโยน “พวกเรากลับกันเถอะ”
เธอก็ได้รู้สึกโล่งอกไปเลยทันที เดินออกร้านอาหาร คนทั้งคนก็ได้โล่งไปเลยไม่น้อย
“ผมส่งพวกเธอกลับไป” กู้เนี่ยนพูด
“ค่ะ” เหลียงซินเวยพยักหน้า ก็ได้จูงมืออานอานออกไปพร้อมกับเขา
ระหว่างทางที่กลับบ้าน อยู่ๆ กู้เนี่ยนก็ได้พูดถึงฟางยู่เชินกับเย่เสี่ยวอี้
“วันนี้ที่เธอเห็นคนนั้นคือคุณหนูเย่ เป็นคู่นัดบอดของคุณชายยู่เชินของพวกเรา และก็เป็นลูกสะใภ้ที่แม่ของเขาอยากได้ อนาคตอาจจะได้แต่งงานกัน”
“จริงเหรอ?” สีหน้าของเหลียงซินเวยได้นิ่งๆ มองแล้วเหมือนว่าไม่ได้สนใจเลยนี้เลยสักนิด
กู้เนี่ยนก็ไม่ได้สังเกตว่าเธอผิดปกติ ก็ได้พูดต่อว่า “ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนตระกูลเย่เหมือนว่าแข็งแกร่งแค่ภายนอก แต่ว่าก็เป็นตระกูลใหญ่ ฟางเย่สองตระกูลถ้าได้แต่งงานกัน ต้องช่วยเรื่องธุรกิจของคุณชายยู่เชินไม่น้อยแน่ๆ”
เหลียงซินเวยก็ได้หันหน้าไปมองวิวถนนของหน้าต่างที่ได้ผ่านไป สีหน้าก็ได้หดหู่เล็กน้อย
กู้เนี่ยนก็ได้มองเธอสักพัก เห็นว่าเธอไม่พูดอะไร ตัวเองก็ได้ปิดปากไม่พูด ในรถก็ได้กลับมาเงียบเหมือนเดิม
รถจอดอยู่ตรงทางเข้าชุมชน ก่อนที่เหลียงซินเวยลงรถ ยิ้มพูดว่า “พี่กู้ วันนี้ขอบคุณพี่จริงๆ นะคะ ทำให้พี่เสียเงินซะแล้ว”
“ผมยินดีครับ” กู้เนี่ยนยิ้มแล้วก็ตอบ
เหลียงซินเวยยิ้ม ประตูลงจากรถ
“อานอาน บอกลาคุณลุงกู้” เหลียงซินเวยก็ได้พูดกับอานอาน
อานอานก็ได้โบกมือให้กับกู้เนี่ยนในรถอย่างว่าง่าย “คุณลุง บายๆ ครับ”
“อานอาน บายๆ”
“ระหว่างระวังด้วยนะคะ” เหลียงซินเวยก้มตัว มองไปยังกู้เนี่ยนในรถ
กู้เนี่ยนพยักหน้า “พวกเธอขึ้นไปเถอะ”
เหลียงซินเวยก็ได้โบกมือ จูงมืออานอาน แล้วก็เดินเข้าไปในชุมชน
มองพวกเธอเข้าไปชุมชน กู้เนี่ยนถึงได้สตาทร์รถแล้วก็จากไป
กลับไปถึงบ้าน เหลียงซินเวยให้อานอานไปอาบน้ำ ตัวเองก็ได้นั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ย้อนนึกเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ทั้งหมด
ในใจก็ได้วุ่นวาย
เขาจะแต่งงานกับเย่เสี่ยวอี้แล้ว เธอจะรอคอยอะไรต่อไม่ได้แล้ว
งั้นตั้งแต่วันนี้ไป ค่อยๆ ลืมไปเถอะ
เธอก็ได้ลุกขึ้นอย่างรวดแล้ว สูดหายใจเข้าลึกๆ ปากได้ยิ้ม “เหลียงซินเวย เธอทำได้แน่นอน”
พึ่งพูดจบ โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นทันที
เธอตกใจ รีบเอาโทรศัพท์มาดู ตอนที่เห็นหน้าจอแจ้งเตือนนั้น มือที่ได้ปล่อยวางข้างตัวก็ได้ค่อยๆ กำแน่น
ผ่านไปสักพัก เธอก็ได้รับรับสาย
“ฉันอยู่ล่างตึก”
เสียงที่เข้มก็ได้ดังมาจากลำโพงโทรศัพท์
อยู่ล่างตึก?
เหลียงซินเวยสีหน้าก็ได้เปลี่ยน ไม่สนใจที่จะตอบ หันไปแล้วก็วิ่งไปที่ระเบียง มองลงไปข้างล่าง เป็นไปอย่างที่คิดมีคนยืนอยู่คนหนึ่งจริงด้วย
ในใจก็ได้เต้นเร็วอย่างอดไม่อยู่
เธอก็ได้จับโทรศัพท์แน่น “คุณมาได้ยังไง?”
“ว่างไหม?” อีกฝ่ายไม่ตอบก็ได้ถามกลับ
เหลียงซินเวยก็ได้กัดฟันเล็กน้อย “ว่างค่ะ คุณขึ้นมาเถอะ”
อานอานอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนที่ได้เห็นคนที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกนั้น ก็ได้ตกใจจนพูด “คุณลุงฟาง คุณลุงมาได้ยังไงครับ?”
ฟางยู่เชินหันไป ก็ได้ยิ้ม “ลุงมาธุระกับแม่หนูน่ะ”
อานอาน “อ่อ” ไปคำ “งั้นผมของกลับเข้าห้องก่อน ไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”
เห็นอานอานวิ่งเข้าไปในห้อง ฟางยู่เชินก็ได้ขำออกมาอย่างอดไม่ได้ ทำไมเด็กคนนี้ฉลาดจังนะ?
เวลานี้ เหลียงซินเวยก็ได้ยกน้ำมาเสิร์ฟ เอาแก้วน้ำวางไว้ข้างหน้า จากนั้นก็ได้นั่งตรงหน้าเขา
“คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะถึงขั้นมาตอนดึกขนาดนี้?” เหลียงซินเวยถาม
ฟางยู่เชินยกแก้วน้ำมาดื่มไปคำ ถึงได้ค่อยๆ พูดออกมาว่า “ที่จริงก็ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญอะไร ก็แค่บริษัทพวกเราคิดที่จะเลี้ยงฉลองกัน อยากจะถามว่าร้านอาหารของพวกเธอสามารถที่จะเหมาร้านได้ไหม?”
ได้ยินแบบนั้น เหลียงซินเวยก็ได้เม้มปากแน่น “เรื่องแบบนี้คุณควรไปถามผู้จัดการของพวกเราถึงจะถูกนะคะ ทำไมถึงได้มาถามฉันล่ะคะ?”
ฟางยู่เชินเลิกคิ้ว แล้วก็หาข้ออ้างมั่วๆ “ฉันอยากจะมาถามเธอก่อน ไม่แน่อาจจะลดราคาได้?”
เหลียงซินเวยขำออกมา “ลดราคาแน่นอนว่าได้อยู่แล้วค่ะ”
“งั้นก็ดี” ฟางยู่เชินก็ได้ยกแก้วขึ้นมาดื่มน้ำ มาปิดบังความไม่เป็นตัวเองของตน
เหลียงซินเวยมองลง ปิดบังความผิดหวังของตัวเอง
ที่แท้เขามาหาตนเพราะเรื่องนี้เองเหรอ
ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองนั้นได้รอคอยอะไรกันแน่
ฟางยู่เชินมองเธอสักพัก ก็ได้วางแก้วลง ก็ได้ทำเป็นพูดแบบไม่ตั้งใจว่า “เธอกับกู้เนี่ยนมองแล้วเหมือนว่าสนิทกันมากนะ”
“เหรอคะ? ที่จริงพวกเราเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเอง” เหลียงซินเวยก็ได้ยิ้ม
“เขาชอบเธอมากจริงๆ”
ตอนที่พูดคำนี้นั้น ฟางยู่เชินก็ได้กำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว มุมปากก็ได้พยายามฝืนยิ้มออกมา
เหลียงซินเวยก็ได้ลูบผมข้างแก้มของตัวเอง อธิบายไปว่า “เขาก็พูดแล้วว่าเป็นความชอบแบบเพื่อนค่ะ”
“เธอเชื่อเหรอ?” ฟางยู่เชินถาม
เขาก็ได้จ้องเธอไม่ห่าง ใจก็ได้บีบอย่างช่วยไม่ได้
เธอควรจะตอบยังไงดี?
พูดตามตรง เธอไม่เชื่อ
เพราะว่าเธอสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของกู้เนี่ยน แต่ว่าเธอคิดว่าเขาเป็นเพื่อนเท่านั้น
เธอก็ได้ยิ้มออกมา “เชื่อ ทำไมไม่เชื่อล่ะค่ะ”
สีหน้าของเธอใสซื่อแบบนั้น เหมือนว่าไม่ได้พูดโกหก
ไม่แน่เธออาจจะไม่ได้คิดมากแบบนั้น ก็แค่คิดว่ากู้เนี่ยนเป็นเพื่อนเท่านั้น
คิดถึงตรงนี้ ใจก็ได้ค่อยๆ คลายลง
ฟางยู่เชินก็ได้ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เธอเชื่อก็ดี”
บรรยากาศก็ได้เงียบลง
เหลียงซินเวยก็ได้กำมือแน่น ลังเลอยู่สักพัก ก็ได้ค่อยๆ เปิดปากถามไปว่า “ได้ยินว่าคุณกับคุณหนูเย่จะแต่งงานกันแล้วเหรอคะ?”
“แต่งงาน?” ฟางยู่เชินก็ได้มีสีหน้าประหลาดใจ “ใครพูด?”
“พี่กู้ค่ะ”
“กู้เนี่ยน?” ฟางยู่เชินส่ายหน้าพร้อมขำ “เธออย่าไปฟังคนอื่นพูดมั่วๆ ฉันไม่ได้จะแต่งงานกับเย่เสี่ยวอี้ อีกอย่างก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
มองไปนัยน์ตาที่ใสของเธอ สายตาของฟางยู่เชินก็ได้จริงใจขึ้นมา “ฉันไม่ได้ชอบเธอ”