ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1202 วันนี้คุณเป็นคนของผม
เจียงสื้อสื้อขัดขืนไปก็ไม่มีความหมาย ได้แต่โดนหิ้วเข้าไปในลิฟต์
เธอกำหมัดแน่น ความคิดแล่นไปอย่างรวดเร็ว
จะมานั่งรอความตายอย่างเดียวไม่ได้เด็ดขาด ต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยตนเองก่อน
ติ้ง!
ลิฟต์มาถึงที่ชั้นยี่สิบสอง
พอประตูเปิดออก ชาวต่างชาติสองคนก็หิ้วเจียงสื้อสื้อออกไป
บนพื้นทางเดินปูด้วยพรมหนาๆ ตอนที่เดินอยู่ข้างบนไม่ส่งเสียงเลยสักนิด แสงไฟสีส้มสลัวส่งลงมา ความเงียบอันไม่มีที่สิ้นสุดถาโถมเข้ามา เจียงสื้อสื้อกำหมัดแน่นกว่าเดิม
ชายสองคนหยุดลงที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ประตูเปิดออก เจียงสื้อสื้อก็ถูกผลักเข้าไปข้างในทันที
ด้วยความที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอก็ล้มลงกับพื้น
โชคยังดีที่บนพื้นถูกปูด้วยไว้พรม
เธอรีบลุกขึ้นยืน พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นเบอร์เกนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่างที่ยาวถึงพื้น
เบอร์เกนหันหลังมาอย่างช้าๆ สายตาที่ลึกซึ้งมองมาที่เธอ
เธอรู้สึกตกใจทันที เธอพยายามถามไปด้วยความใจเย็นว่า “นี่คุณคิดจะทำอะไร?”
ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามแสดงออกว่าตัวเองนั้นใจเย็นแค่ไหน แต่น้ำเสียงที่สั่นเทาก็ยังเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงของเธอออกมาอยู่ดี
เบอร์เกนก้าวเท้าเดินเข้ามา มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ เขาพิจารณาเธอขึ้นลงด้วยสายตาที่ไม่ร้อนรนอะไร มุมปากค่อยๆ แย้มขึ้น
“สวยมากเลยครับ”
เธอช่างเป็นผู้หญิงที่สวยแต่กำเนิดจริงๆ ถึงแม้จะแต่งหน้ามาอย่างลวกๆ แต่หน้าตาก็ยังสวยจนไม่อาจละสายตาออกไปได้
เขาแค่มอบชุดราตรีสีดำธรรมดาๆ ชุดหนึ่งให้เธอเท่านั้น ไม่ได้สั่งทำพิเศษ แต่พอใส่เข้าไปในตัวเธอ ก็เหมือนมันเคยผ่านการวัดตัวแล้วตัดเย็บให้เธอโดยเฉพาะ สมส่วนมาก ทำให้สัดส่วนที่เพอร์เฟคของเธอถูกแสดงออกมา
ทำให้ผิวพรรณของเธอยิ่งกระจ่างใสมากขึ้น
พอแสงไฟสาดส่องถึงเธอ ทำให้เธอยิ่งสวยจนไม่อาจปิดบังได้
แต่ผู้หญิงแบบนี้ กลับเป็นของผู้ชายคนอื่น
ความจริงข้อนี้ มันทำให้เบอร์เกนรู้สึกไม่ชอบใจเลย สีหน้าเคร่งขรึมลงไปมาก
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?” เจียงสื้อสื้ออดกลั้นความกลัวในใจเอาไว้ แล้วถามออกไปอีกครั้ง
เบอร์เกนยักคิ้ว “ไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่อยากให้คุณเป็นคู่ออกงานในคืนนี้ของผมเท่านั้นครับ”
“แค่นี้จริงๆ เหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“จริงครับ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันจะเชื่อคุณไปก่อน แต่หวังว่าคุณจะไม่ลืมเรื่องที่เคยสัญญาไว้กับฉันนะคะ”
เบอร์เกนแย้มปากขึ้น “คุณไม่ต้องเป็นห่วงครับ พองานเลี้ยงเสร็จสิ้น ผมก็จะบอกคุณเรื่องวันเวลาที่ซ่างกวนหยวนกลับมาครับ”
ไม่มีอะไรมายืนยันว่าเขาจะรักษาสัญญารึเปล่า แต่เธอก็อยากพนันดูสักตั้ง
ขอแค่ความหวังเพียงน้อยนิด เธอก็ไม่อยากปล่อยให้มันหยุดมือไป
……
ภายในงานเลี้ยง ฟางยู่เชินไม่มีอารมณ์ไปคบค้าสมาคมกับใครทั้งนั้น เขาเอาแต่จ้องมองยังประตู กลัวแต่จะคลาดกับตอนที่เจียงสื้อสื้อเข้ามา
“ประธานฟาง” จิ่งหลิวเยว่นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอฟางยู่เชินที่นี่ พอเห็นเขาก็รีบเข้ามาหาทันที
ฟางยู่เชินหันหน้ามามอง ตอนที่เห็นจิ่งหลิวเยว่ มุมปากของเขาก็แย้มขึ้น “สวัสดีครับ ประธานจิ่ง”
“คุณมาคนเดียวเหรอครับ?” จิ่งหลิวเยว่เห็นว่าเขาไม่มีคู่มาด้วย จึงได้ถามไปด้วยความสนใจ
“ไม่ครับ น้องสาวของผมก็มาด้วย”
น้องสาวของเขาเหรอ?
จิ่งหลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “คุณหมายถึงพี่สะใภ้ของผมใช่มั้ย?”
ฟางยู่เชินพยักหน้า “ใช่ครับ”
จิ่งหลิวเยว่รีบมองไปรอบๆ “เธออยู่ไหน แล้วพี่ใหญ่ผมมาด้วยมั้ยครับ?”
“เขายังไม่กลับมาเลยครับ มีแค่น้องสาวคนเดียว”
“ทำไมเขาไปนานขนาดนี้แล้วยังไม่กลับอีกครับ?” จิ่งหลิวเยว่ถามด้วยความสงสัย
ครั้งก่อนที่เขาติดต่อกับพี่ใหญ่ ก็เพื่อพูดคุยเรื่องข้อมูลชุดหนึ่งของไวรัส มันผ่านไปสักพักแล้วนะ
“เขามีเรื่องให้เสียเวลานิดหน่อย” ฟางยู่เชินไม่ได้พูดความจริงให้เขาฟัง แค่หาข้ออ้างตอบไปลอยๆ เท่านั้น
“แบบนี้นี่เอง” จิ่งหลิวเยว่พยักหน้า แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ “จริงด้วย เรื่องเมื่อคราวก่อนยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลย”
เพื่อแอบเอาข้อมูลของไวรัสออกมา คนของเขาก็ถูกพิเอร์ส คนของSAกรุ๊ปจับตัวไว้
โชคดีที่ได้มีตระกูลฟางออกหน้าช่วยไว้ คนของเขาจึงสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ มันเป็นเรื่องที่ผมควรทำอยู่แล้ว” ฟางยู่เชินยิ้มออกมา
ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากจิ่งหลิวเยว่ เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปเอาข้อมูลนั่นจากที่ไหนเหมือนกัน การวิจัยของโม่เหยียกับหานยู่ก็คงไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
“จริงด้วย ร่างกายของพี่สะใภ้เป็นยังไงบ้างครับ?” จิ่งหลิวเยว่ถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็ดีนะครับ”
ทันทีที่พูดจบ ก็มีคนตะโกนออกมาด้วยความตกใจว่า “นั่นมันเบอร์เกนไม่ใช่เหรอ?”
ฟางยู่เชินรีบหันไปมองทันที แล้วก็ได้เห็นเบอร์เกนกับเจียงสื้อสื้อปรากฏตัวขึ้นที่ประตู
“นั่นมันพี่สะใภ้ไม่ใช่เหรอ?” จิ่งหลิวเยว่จ้องมองเจียงสื้อสื้อที่กำลังคล้องแขนผู้ชายคนอื่นด้วยความแปลกใจ
ฟางยู่เชินสีหน้าเคร่งเครียด จ้องไปยังพวกเบอร์เกนตาไม่กะพริบ
ทั้งคู่กายเป็นจุดสนใจทันทีสายตามากมายมองมาจากรอบๆ มีทั้งสนใจมีทั้งคาดเดา ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกอึดอัดมาก
เบอร์เกนสามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเธอทันที จึงได้พูดไปเบาๆ ว่า “ไม่ต้องตื่นเต้นครับ มีผมอยู่ด้วย”
เจียงสื้อสื้อเหลือบตามองเขาทีหนึ่ง มุมปากยิ้มออกมาอย่างไม่ชอบใจ ก็เพราะมีเขาอยู่นี่แหละ เธอถึงได้รู้สึกอึดอัดแบบนี้
“จำไว้นะครับ ว่าคืนนี้คุณเป็นคู่ของผม”
เบอร์เกนก้มหน้าลง แล้วกระซิบไปที่ข้างหูเธอว่า “ถ้าคุณอยากรู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ คุณก็ทำในสิ่งที่คู่ของผมควรทำนะครับ”
เจียงสื้อสื้อหรี่ตาลง มือเล็กๆ กำแน่น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจว่า “คุณไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” จิ่งหลิวเยว่เก็บสายตากลับมา แล้วมองฟางยู่เชินด้วยความสงสัย
ฟางยู่เชินเห็นเบอร์เกนพาเจียงสื้อสื้อเดินไปทางอื่น สีหน้าเคร่งขรึม กัดฟันแน่น “ก็อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละครับ”
“หมายความว่ายังไงครับ?” จิ่งหลิวเยว่ยังคงไม่เข้าใจ
“ประธานจิ่ง คุณช่วยอะไรผมอย่างหนึ่งได้มั้ยครับ?” ฟางยู่เชินหันหน้ามา
“ว่ามาเลยครับ”
“คุณช่วยผมพาสื้อสื้อมาหน่อยได้มั้ยครับ”
ตอนนั้นเอง จิ่งหลิวเยว่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ “ประธานฟาง คุณช่วยบอกผมทีได้มั้ยครับว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ประธานจิ่ง ผมจะเล่าแบบรวบรัดนะครับ สื้อสื้อเธอกำลังถูกบังคับอยู่ เราต้องหาทางช่วยเธอออกมาให้ได้”
จิ่งหลิวเยว่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ถูกบังคับเหรอครับ?”
“ใช่ครับ ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
จิ่งหลิวเยว่หันหน้าไปมองเจียงสื้อสื้อ พยักหน้า “ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ นั่นก็พี่สะใภ้ของผมเหมือนกัน”
พูดจบ จิ่งหลิวเยว่ก็เดินไปทางเจียงสื้อสื้อกับเบอร์เกนทันที
……
ตอนที่เจียงสื้อสื้อตามเบอร์เกนไปทักทายบรรดาแขกในงานนั้น เธอก็ถูกบังคับให้ดื่มไวน์ไปหลายแก้วเลย จากแก้มขาวๆ ในตอนแรก บัดนี้มันได้แดงก่ำขึ้นมาแล้ว
“เบอร์เกน ฉันดื่มต่อไม่ไหวแล้วค่ะ” เธอกระตุกแขนเสื้อของเบอร์เกน แล้วกระซิบเบาๆ
เบอร์เกนหันหน้ามา พอเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ มุมปากของเขาก็แย้มขึ้นทันที “ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องดื่มแล้วครับ”
พูดไป เขาก็ยื่นมือไปจับแก้มเขา แต่เธอกลับหลบออก
สายตาดูไม่พอใจไปแวบหนึ่ง เบอร์เกนอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง
เจียงสื้อสื้อก็ชิงเตือนเขาไปก่อน “คุณเบอร์เกน คุณควรเคารพตัวเองด้วยนะคะ”
เธอแค่รับปากว่าจะมาออกงานคู่กับเขาเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมให้เขาถึงเนื้อถึงตัวได้
พอได้ยินแบบนั้น เบอร์เกนก็ต้องยิ้มออกมา “โซเฟย่า ผมไม่รู้ว่าเคารพตัวเองที่คุณพูดถึงนั้นมันหมายความว่ายังไง ผมรู้แค่ว่าคืนนี้คูณเป็นผู้หญิงของผมเท่านั้นครับ”
“คุณเบอร์เกนคะ ผมยกย่องคุณมานานแล้ว ในที่สุดก็ได้เจอสักที”
พอเจียงสื้อสื้อหันไปมอง เธอก็แอบรู้สึกดีใจขึ้นมาทันที เป็นจิ่งหลิวเยว่นี่เอง
จิ่งหลิวเยว่เดินเข้าหาทั้งคู่ทีละก้าว ใบหน้าที่ดูดีนั่น ปรากฏรอยยิ้มบางๆ ออกมา
เขาเดินมาตรงหน้าของทั้งคู่ จิ่งหลิวเยว่หยุดเท้า เหลือบมองเจียงสื้อสื้อแวบหนึ่ง “คุณเบอร์เกน สวัสดีครับ ผมคือจิ่งหลิวเยว่”