ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1232 คุณหึงเหรอ
หลังจากที่เหลียงซินเวยได้ยินเรื่องที่เย่เฉินหยุนพูดแล้ว ก็จะปฏิเสธตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนขอร้องของเขา ก็เก็บคำปฏิเสธกลับไป
ก็แค่แกล้งเป็นแฟนเขาหน่อยเดียว น่าจะไม่มีอะไรนะ
ในเมื่อหลังจากครั้งนี้แล้ว เธอก็คงไม่ได้พบกับพ่อเย่แม่เย่อีกแล้ว
ดังนั้น จึงตามเขาไปตรงหน้าพ่อเย่แม่เย่
เธอมองเห็นฟางยู่เชินกับเย่เสี่ยวอี้ยืนอยู่ด้วยกัน มองแล้วดูเหมือนคู่ที่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง
เธอก้มหน้า กลบเกลื่อนความอ้างว้างที่อยู่ในนัยน์ตา หัวเราะเยาะตนเองเบาๆ
เขาและเย่เสี่ยวอี้จึงจะเป็นคนที่อยู่ในโลกใบเดียวกัน เธอไม่อาจเอื้อมจริง
“พ่อ แม่ นี่คือแฟนผมครับ”
พอเย่เฉินหยุนพูดคำนี้ออกมา รูม่านตาของฟางยู่เชินก็หดตัว จ้องมองเหลียงซินเวยที่อยู่ข้างเขาอย่างแปลกประหลาดใจ
เธอกลายเป็นแฟนของเย่เฉินหยุนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ทำไมเขาไม่รู้
ส่วนเย่เสี่ยวอี้กลับมีสีหน้าสะใจ
เหลียงซินเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เงยหน้าขึ้น แกล้งทำท่าทางเหมือนมองไม่เห็นฟางยู่เชิน มุมปากยกขึ้นทำมุมเป็นรอยยิ้มพอดี แนะนำตัวเองอย่างมีมารยาทว่า “คุณอาคุณน้า ฉันชื่อเหลียงซินเวยค่ะ เป็นแฟนของเฉินหยุน”
เธอกลับยอมรับแล้ว!
ไฟบางอย่างที่ไม่รู้ว่าคืออะไรลุกโชนในใจ ฟางยู่เชินไม่สนใจพ่อเย่แม่เย่ ก้าวไปข้างหน้าลากเหลียงซินเวยออกไปทันที
“คุณทำอะไร คุณบ้าไปแล้วเหรอ” เหลียงซินเวยพยายามดิ้นให้หลุดจากมือเขา
จะอย่างไรพละกำลังของชายหญิงก็ต่างกัน ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด ได้แต่ปล่อยให้เขาลากไป
เธอหันไปมองพ่อเย่แม่เย่ พวกเขาต่างตกใจมาก ตั้งตัวไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น
เย่เสี่ยวอี้คิดจะตามไปอย่างลนลาน แต่ถูกเย่เฉินหยุนรั้งตัวไว้
“พี่ พี่ทำอะไรเนี่ย” เย่เสี่ยวอี้มองเห็นฟางยู่เชินเดินไปไกลแล้ว ก็ร้อนใจจนแทบจะร้องไห้
เย่เฉินหยุนพูดเบาๆ “เสี่ยวอี้ เธอดูไม่ออกหรือไงว่าเขาไม่ได้ชอบเธอ”
“เขาไม่ชอบฉันแล้วยังไง” เย่เสี่ยวอี้ที่ถูกแทงใจดำพูดเสียงแหลมขึ้นมา เธอหัวเราะเยาะ “แม้ว่าเขาจะไม่ชอบฉัน แต่ฉันก็ไม่อนุญาตให้เขากับผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วยกัน!”
เย่เฉินหยุนหน้าบึ้ง ตะคอกว่า “พี่ไม่ให้เธอพูดกับเวยเวยอย่างนี้”
“ฉันจะพูด! เหลียงซินเวยก็คือนังแพศยา แพศยา แพศยา!” ตอนนี้เอง เย่เสี่ยวอี้ก็เหมือนผู้หญิงชั้นต่ำที่ด่ากราดไม่ฟังเหตุผลใดๆ
เพี๊ยะ!
เย่เฉินหยุนยกมือตบหน้าเธอไปหนึ่งฉาด
“เพื่อนังแพศยาคนนั้นพี่ถึงขั้นตบหน้าฉันเลยเหรอ!” เย่เสี่ยวอี้กุมใบหน้าไว้ เบิกตามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ
ตั้งแต่เล็กจนโต แม้แต่พ่อแม่ยังไม่เคยตีเธอเลย วันนี้พี่ชายกลับตบเธอ เพียงเพราะนังแพศยาคนหนึ่ง!
เย่เฉินหยุนจ้องมองมือของตนเอง แทบไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
นี่เขาตบหน้าน้องสาวของตัวเองเหรอ
“เฉินหยุน ลูกตบน้องสาวของลูกได้ยังไง” แม่เย่พูดเสียงดุ เธอมองใบหน้าที่บวมแดงของเย่เสี่ยวอี้ สงสารจับใจ
พ่อเย่หน้าบึ้ง สายตาคมกริบมองไปที่ใบหน้าของเย่เฉินหยุน “เฉินหยุน เธอเป็นน้องสาวของลูกนะ ลูกตบน้องไปได้ยังไง”
“พ่อ ผม……” เย่เฉินหยุนเองก็คิดไม่ถึงว่าตนเองจะลงไม้ลงมือ
อาจจะเพราะถูกเย่เสี่ยวอี้ยั่วโมโห โกรธจนหน้ามืด
“ไม่ต้องอธิบายแล้ว ยังไม่รีบขอโทษน้องอีก มีแต่แขกทั้งนั้น อย่าทำบรรยากาศแย่ไปทั้งงาน ไม่อย่างนั้นคนที่ขายหน้าก็คือคนตระกูลเย่!”
ภายใต้คำตำหนิของพ่อเย่ เย่เฉินหยุนมองเย่เสี่ยวอี้อย่างรู้สึกผิด “เสี่ยวอี้ ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะตบเธอ……”
“พวกคุณทำกันเกินไปแล้วนะ เอาแต่รังแกฉันคนเดียว!” เย่เสี่ยวอี้ร้องไห้ออกมา “นังแพศยานั่นรังแกฉัน พี่ก็รังแกฉัน!”
นังแพศยาอีกแล้ว!
เย่เฉินหยุนขมวดคิ้วอย่างแรง “เสี่ยวอี้ เวยเวยไม่ได้เป็นอย่างที่เธอพูดแบบนั้น เธอ……”
“เธอทำไม” เย่เสี่ยวอี้ตัดบทเขาอย่างเยือกเย็น “ถ้าเธอไม่ใช่นังแพศยา แล้วทำไมเธอต้องแย่งยู่เชินของฉันด้วย”
พ่อเย่แม่เย่สบตากัน ทั้งสองต่างรู้สึกว่าเรื่องมันไม่ชอบมาพากล
“ตกลงมันยังไงกันแน่ เฉินหยุน ลูกไม่ได้บอกว่าเธอเป็นแฟนลูกหรอกหรือ แล้วทำไมยู่เชินถึงได้ลากเธอไป” พ่อเย่ถามเสียงเข้ม
“พ่อ เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณคิดอย่างนั้น เวยเวยกับยู่เชินรู้จักกัน พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน อาจจะเพราะเวยเวยปิดบังเรื่องของผม ยู่เชินก็เลยอยากจะลากเธอไปถามให้กระจ่าง”
คำอธิบายของเย่เฉินหยุนไม่ได้ทำให้พ่อเย่เชื่อเลย
แม่เย่ขมวดคิ้วแน่น “แต่แม่มองว่ายู่เชินดูแล้วไม่เหมือนแค่เป็นเพื่อนสนิทกันธรรมดาอย่างนั้นนะ”
“แม่ ถ้าแม่ไม่เชื่อก็ถามเสี่ยวอี้สิครับ”
เย่เฉินหยุนขยิบตาให้กับเย่เสี่ยวอี้ แสดงความหมายว่าให้เธอร่วมมือกับเขา
แต่เย่เสี่ยวอี้เบนหน้าหนี ยังโกรธเขาอยู่
เข้าโน้มตัวไป พูดเบาๆข้างหูเธอว่า “ถ้าเธอไม่อยากให้ฟางยู่เชินถูกคนอื่นแย่งไป ก็ฟังพี่”
ได้ยินดังนั้น เย่เสี่ยวอี้หันหน้าไปถลึงตาใส่เขา
เขายักคิ้วเล็กน้อย ถอยไปด้านหลัง
เรื่องในวันนี้สามารถมองออกได้ว่า ฟางยู่เชินมีใจกับเหลียงซินเวยจริงๆ
เย่เสี่ยวอี้กัดริมฝีปาก พูดอย่างไม่เต็มใจ “ที่พี่บอกเป็นความจริงค่ะ ยู่เชินกับผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน”
เธอจงใจเน้นคำว่า “เพื่อนสนิท” สามพยางค์นี้หนักๆ
เย่เฉินหยุนแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก โชคยังดีที่สุดท้ายเธอเลือกที่จะเชื่อฟังเขา
ไม่อย่างนั้นหากเธอยืนกรานว่าเวยเวยจะแย่งยู่เชินไป ด้วยความรักลูกสาวระดับพ่อแม่ของเขา ไม่แน่ว่าอาจจะทำอะไรที่เป็นผลดีต่อเวยเวย
พ่อเย่เชื่อแล้ว พยักหน้า พูดว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ จะว่าไปแล้ว ต่อไปพวกเธอสี่คนก็จะเข้ากันได้เป็นอย่างดี”
“ใช่ค่ะ” เย่เสี่ยวอี้ยิ้มอย่างเยือกเย็นที่มุมปาก จ้องพี่ชายเธอเขม็ง
แม่เย่มองลูกสาวตนเองอย่างเงียบๆ เห็นทุกสีหน้าท่าทางของเธอ ก็เตรียมใจเอาไว้บ้าง
“พ่อ แม่ ผมไปเรียกพวกเขาสองคนมานะครับ”
เย่เฉินหยุนยิ้มให้แม่เย่ แล้วหมุนตัวเดินไป
……
ฟางยู่เชินลากเหลียงซินเวยมาที่ตรงระเบียงด้านข้างห้องโถง
“พี่ฟาง คุณเป็นอะไร” เหลียงซินเวยมองชายหนุ่มที่หันหลังให้เธออย่างไม่เข้าใจ
ฟางยู่เชินปล่อยมือ หมุนตัวมา มองเธอด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ริมฝีปากบางเผยอ “คุณกลายเป็นแฟนของเย่เฉินหยุนตั้งแต่เมื่อไหร่”
เขาลากเธอออกมา ก็เพื่อถามคำถามนี้กับเธอ
เหลียงซินเวยหัวเราะเบาๆ ย้อนถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “นี่มันเกี่ยวอะไรกับคุณเหรอคะ”
“นี่แน่นอนว่า……”
ฟางยู่เชินอยากจะพูดว่าเกี่ยวกับเขาแน่นอน แต่คำพูดมาถึงแค่ริมฝีปากพูดไม่ออก เขาจะถามเธอในฐานะอะไร
“พี่ฟาง คุณทำแบบนี้ไม่กลัวว่าคุณหนูเย่เธอจะโกรธเอาเหรอคะ” เหลียงซินเวยสะกดกลั้นความขมขื่นที่วนเวียนอยู่ในก้นบึ้งหัวใจ พูดเบาๆ
“เธอจะโกรธหรือไม่โกรธเกี่ยวอะไรกับผม” ฟางยู่เชินรู้สึกแปลกประหลาดใจ
สำหรับเขาแล้ว เย่เสี่ยวอี้ก็เป็นแค่คนที่สนิทกว่าคนแปลกหน้านิดเดียวคนหนึ่งเท่านั้น แทบจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าเธอจะโกรธหรือไม่
สิ่งที่เขาสนใจก็คือ เธอกับเย่เฉินหยุนตกลงมีความเกี่ยวข้องอะไรกัน
เหลียงซินเวยกำหมัดแน่น “เธอไม่ได้เป็นว่าที่ภรรยาคุณเหรอ”
“ว่าที่ภรรยาเหรอ” ฟางยู่เชินหงุดหงิดขึ้นมา “ผมเคยบอกแล้ว นั่นเป็นความคิดเพียงฝ่ายเดียวของพ่อแม่ผม ผมไม่ได้ชอบเย่เสี่ยวอี้เลย!”
เห็นเธอหน้าบึ้ง ฟางยู่เชินก็ขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “คุณหึงเหรอ”
เหลียงซินเวยตกใจ รีบปฏิเสธ “ฉันเปล่า”
ท่าทางรีบร้อนปฏิเสธของเธอทำให้ฟางยู่เชินขำ ทันใดนั้นเขาก็สงบลง สายตาลึกล้ำมองเธออย่างสงสัย “คุณหึงแล้ว”
เหลียงซินเวยกัดริมฝีปาก ไม่ส่งเสียง ดวงตาแดงด้วยความผิดหวัง
เธอหึงแล้วยังไง เขาจะสนใจเหรอ
มองเห็นหมอกที่ปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่งในดวงตาเธอ ฟางยู่เชินยื่นมือมาคิดจะไปจูงมือเธอแต่เธอกลับหลบหลีก
เสียงถอนหายใจดังออกมาจากริมฝีปาก เสียงที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดีของฟางยู่เชินดังอยู่ข้างหูเธอ “คุณดูไม่ออกว่าผมคิดอะไรกับคุณเหรอ”