ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1308 ตายใจไปซะเถอะ
“การแต่งงานของฉันฉันตัดสินใจเอง” ฟางยู่เชินมองหน้าเธอด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด
“ดีจังเลยไอ้คำว่าการแต่งงานของฉันฉันตัดสินใจเอง!” เย่เสี่ยวอี้หัวเราะออกมาเลย แล้วก็ได้ยืนขึ้น ถามกลับ “ครอบครัวของพวกเราแบบนี้ นายคิดว่าตัวเองตัดสินใจเองได้เหรอ?”
“เธอทำไม่ได้ ฉันทำได้” ฟางยู่เชินก็ได้มองไปทางซ่างหยิง “แม่ครับ ที่จริงผมพูดกับแม่หลายรอบแล้ว ในใจของแม่ก็ควรที่จะรู้บ้างแล้ว ถ้าแม่ชอบเธอมากจริงๆ แม่สามารถที่จะรักเธอแบบลูกสาว ไม่จำเป็นต้องให้ผมแต่งงานกับเธอ”
“ยู่เชิน เรื่องนี้ลูกตัดสินใจเองไม่ได้” ซ่างหยิงลุกขึ้น “สัญญาแต่งงานฟางเย่ไม่สามารถที่จะยกเลิกได้เพราะคำที่ลูกพูดว่าไม่อยากแต่งด้วย แม่ไม่อยากให้สองตระกูลเป็นศัตรูกัน ยิ่งไม่อยากให้คนอื่นพูดว่าตระกูลฟางไม่รักษาสัญญา”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “หรือว่าเมื่อเทียบกับตระกูลฟางแล้วก็ชื่อเสียงของพวกท่านแล้ว ความสุขของผมมันไม่สำคัญเหรอครับ?”
“เสี่ยวอี้เป็นเด็กดี ลูกแต่งงานกับเธอต้องมีความสุขมากแน่”
“ไม่มีทาง!” ฟางยู่เชินก็ได้ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอทันที “ผมไม่ได้ชอบเธอ จะไปมีความสุขยังไง!”
พูดไม่ได้ชอบอีกแล้ว!
เย่เสี่ยวอี้อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เสียงก็ได้ดังขึ้นทันที “หรือว่านายอยากที่จะแต่งงานกับนางแพศยาเหลียงซินเวยนั่น? ฉันเตือนนายเลยนะ! พวกนายไม่มีทางที่จะมีผลลัพธ์แน่!”
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของฟางยู่เชินก็ได้เยือกเย็นลง สายตาที่น่ากลัวก็ได้มองไปยังเธอ
เย่เสี่ยวอี้เชิดหน้าขึ้น สีหน้าภูมิใจ “มีแค่ฉันที่เหมาะกับนายที่สุด แต่งงานกับฉัน การงานของนายถึงจะก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวได้”
ฟางยู่เชินยิ้มอย่างเยือกเย็น แววตาก็ได้เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “จากความสามารถของฉันต่อให้ไม่มีความช่วยเหลือของตระกูลเย่ก็สามารถที่จะยืนที่ฟางซื่อกรุ๊ปได้อย่างมั่งคง”
เย่เสี่ยวอี้ก็ได้มองท่าทางที่มั่นใจของเขา ใจเต้นเอามาก แต่พอคิดได้ว่าเขาไม่ได้ชอบเธอ ความหมองหม่นก็ได้ปกคลุมในใจอีกครั้ง
“การแต่งงานฟางเย่สองตระกูลได้ตกลงแล้ว นายจำเป็นต้องแต่งงานกับฉัน” เธอก็ได้พูดออกไปอย่างเด็ดขาด
“ไม่มีทาง”
พูดสามคำนี้ได้ออกมาอย่างไม่ลังเล!
“ขอแค่มีฉันอยู่วันหนึ่ง นายก็อย่าคิดที่จะแต่งงานกับเหลียงซินเวย!” เย่เสี่ยวอี้โมโหแล้ว ก็ได้พูดตักเตือนอีกครั้ง
ตาของฟางยู่เชินก็ได้หรี่ เดินเข้าไปก้าวหนึ่ง เข้าใกล้เธอ สีหน้าเยือกเย็น “ต่อให้ฉันกับเขาเป็นไปไม่ได้ ก็ไม่ถึงคิวเธอ”
คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดออกมาเด็ดขาดแบบนี้
นัยน์ตาของเย่เสี่ยวอี้ได้บีบ สีหน้าก็ไม่น่าดูเลยทันที
ซ่างหยิงที่อยู่ข้างๆ ก็ได้ยินประโยคสนทนาของพวกเขา คิ้วก็ได้ขมวดแน่น พูดต่อว่า “ยู่เชิน ลูกพูดแบบนั้นกับเสี่ยวอี้ได้ยังไง?”
“แม่ครับ ทางที่ดีพ่อกับแม่ก็ตายใจไปเถอะครับ”
ทิ้งท้ายไป ฟางยู่เชินก็ได้ตรงขึ้นไปชั้นบน
มองแผ่นหลังที่ไม่หันกลับมาของเขา เย่เสี่ยวอี้ก็ได้ร้องไห้เลยทันที
ซ่างหยิงรนไปเลย ก็ได้รีบไปปลอบเธอ “เสี่ยวอี้ ไม่ร้องไม่ร้อง ป้าต้องช่วยหนูแก้ปัญหาแน่”
“คุณป้าคะ เขาไม่ได้เชื่อฟังคุณป้าเลย” เย่เสี่ยวอี้ก็ได้พูดไปสะอึกไป
“เขาไม่เชื่อฟัง ก็ต้องฟัง” ซ่างหยิงพูด
เธอไม่มีทางให้เด็กคนนั้นทำอะไรมั่วๆ แน่
“คุณป้าค่ะ คุณป้าต้องช่วยหนูนะคะ หนูชอบยู่เชินมากจริงๆ” เย่เสี่ยวอี้ก็ได้กุมมือเธอแน่น
“ป้ารู้จ้ะ” ซ่างหยิงก็ได้ตบมือของเธอเบาๆ “ป้าต้องช่วยหนูแน่ๆ”
ได้ยินแบบนั้น เย่เสี่ยวอี้ก็ได้เปลี่ยนจากร้องไห้เป็นยิ้ม “ป้าดีกับหนูที่สุดเลยค่ะ”
……
วันต่อมา เหลียงซินเวยก็ได้มาที่บ้านใหญ่ตระกูลฟาง
ก่อนที่จะมา เธอก็ได้รับสายของซ่างหยิง ให้เธอมาหลังเก้าโมง
อาจเป็นเพราะอยากที่จะให้คาดจากยู่เชิน ไม่ให้พวกเขาเจอกัน
“คุณเหลียง คุณนั่งตรงนี้ก่อน คุณหญิงยังยุ่งอยู่ เดี๋ยวก็มาครับ” พ่อบ้านก็ได้พาเธอไปนั่งพักที่ห้องรับแขก
เหลียงซินเวยยิ้มออกไป “ได้ค่ะ”
แต่ว่าเธอคิดไม่ถึงว่า ตัวเองนั้นนั่งได้เกือบหนึ่งชั่วโมง ซ่างหยิงถึงเดินมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ซ่างหยิงไปนั่งตรงข้ามเธอ แล้วก็ได้ยกชามาจิบสักพัก ถึงได้เงยหน้ามองเธออย่างไม่ร้อนไม่หนาว
มือของเหลียงซินเวยที่วางไว้บนตักก็ได้กำแน่นอย่างไม่รู้ตัว
ซ่างหยิงวางแก้วลง ก็ได้ค่อยๆ พูด “เธอรู้ว่าที่ฉันเรียกเธอว่า เพราะเรื่องอะไรไหม?”
“รู้ค่ะ” จุดเชื่อมระหว่างพวกเขาก็เป็นฟางยู่เชินไม่ใช่เหรอ แน่นอนก็ต้องเพื่อฟางยู่เชิน
“ก็ดี งั้นฉันก็เปิดประเด็นเลยละกัน” ซ่างหยิงก็ได้ค่อยๆ เปิดปาก “เธอไปจากลูกชายของฉันเถอะ”
ใจของเหลียงซินเวยก็ได้อึ้ง นี่มันก็ตรงเกินไปแล้วหรือเปล่า?
ไม่นานเธอก็ได้ดึงสติกลับมาได้ ก็ได้พูดอย่างจริงจังว่า “คุณน้า ขอโทษนะคะ หนูไม่สามารถที่จะไปจากยู่เชินได้”
ซ่างหยิงก็ไม่ได้โมโห ถาม “ทำไม?”
“เพราะว่าหนูรักเขา” เหลียงซินเวยก็ได้หลังตรง ก็ได้พูดความรู้สึกของตัวเองออกไปตรงๆ
“รัก?” ซ่างหยิงเลิกคิ้ว “เธอคิดว่าคนสองคนอยู่ด้วยกัน แค่ ‘รัก’ คำเดียวพอเหรอ?”
เหลียงซินเวยขมวดคิ้ว ไม่ได้ตอบ
“คำตอบคือไม่พอ” ซ่างหยิงหัวเราะ “ถ้าเกิดมันพอจริง ก็คงไม่มีคู่รักหลายคู่ที่เลิกรากันไปเพราะเหตุผลอื่นหรอก อย่างเช่นเรื่องเงิน
การประคองความรัก ไม่มีเพียงแค่รัก แต่ก็ต้องมีเงิน”
คิ้วของเหลียงซินเวยก็ได้ขมวดแน่นความเดิม “เพราะงั้นคุณน้าอยากจะสื่ออะไรคะ?”
“ตระกูลฟางอยู่ในเมืองหลวงก็ถึงว่ามีฐานะ ยู่เชินเป็นประธานของฟางซื่อกรุ๊ป เขาเก่งมากๆ เธอก็น่าจะรู้ดี”
ซ่างหยิงรู้สึกว่าเธอได้บอกใบ้ไปอย่างชัดเจนแล้ว หล่อนคงที่จะฟังมันออกแล้ว
เหลียงซินเวยฟังออกจริง เธอก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ “คุณน้าคิดว่าหนูรักยู่เชิน ที่จริงก็แค่รักอำนาจแล้วก็เงินของเขาเหรอคะ?”
ซ่างหยิงไม่ได้ตอบ เพราะงั้นเป็นการยอมรับเงียบๆ
“คุณน้า คุณน้าดูถูกความรู้สึกของหนูและยู่เชินเกินไปแล้วนะคะ!” เหลียงซินเวยสีหน้าเย็นลง
ซ่างหยิงไม่แคร์ ก็ได้ค่อยๆ พูดไปว่า “เธอต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะยอมไปจากยู่เชิน?”
เอาเงิน ไสหัวไป?
เหลียงซินเวยคิดไม่ถึงว่า อยู่มาวันหนึ่งเรื่องที่บัดซบขนาดนี้จะมาตกบนตัวของเธอ
เธอก็ได้ยิ้มมุมปากเบาๆ มองลง พูดอย่างเย็นชา “ไม่ว่าเงินเท่าไหร่หนูก็ไม่ยอมค่ะ”
ซ่างหยิงขมวดคิ้ว “เธออย่าได้คืบจะเอาศอกนะ!