ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 133 ร้ายเงียบ
บทที่ 133 ร้ายเงียบ
“เป็นบ้าอะไรกัน! เรื่องแต่งงานของหนูไปหนักบนศีรษะพวกคุณตั้งแต่เมื่อไหร่”
เจียงสื้อสื้อรู้มาตลอดว่าตระกูลนี้หน้าไม่อาย แต่ไม่คิดว่าจะไร้ยางอายจนถึงขนาดนี้ ถึงขนาดจะให้เธอแต่งกับชายอายุสี่สิบกว่า ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนคิดจะทำอะไรกันอยู่
เจียงนวลนวลเอ่ยปากพร้อมรอยยิ้ม “พี่สื้อสื้อจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ ดูสิ คุณพ่อเขาเป็นห่วงชีวิตบั้นปลายของพี่ อยากให้พี่มีความสุข ฉันรู้ว่าถึงแม้พี่จะชอบคุณจิ้น แต่พี่ก็เห็นนี่ว่าคุณจิ้นเขาไม่แม้แต่จะดูแลพี่ด้วยซ้ำ เขาไปแต่งกับคุณหนูซูนู่น! เมื่อคืนพวกเรายังเห็นสองตระกูลเขานั่งกินข้าวด้วยกันอยู่เลย เห็นว่าคุยกันเรื่องแต่งงานนะ!”
เจียงเจิ้นพูดขึ้นบ้าง “ใช่ สื้อสื้อเราเองก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ถึงวัยที่จะมีครอบครัวสักที ตระกูลจิ้นน่ะเราอย่าไปพยายามเลย พ่อกับผอ.เลี๋ยงรู้จักกันมานาน พ่อเชื่อว่าเขาจะต้องดีกับลูกแน่นอน”
พูดกันตามตรง เจียงเจิ้นแสดงออกราวกับพ่อที่รักลูกคนนึง คนที่ไม่รู้ก็คงหลงคิดว่าเขาทำเพื่อให้ลูกตัวเองได้ดี
สีหน้าของเจียงสื้อสื้อเปลี่ยนเป็นดำทะมึน เธอมองคนพวกนี้แล้วรู้สึกขยะแขยงสิ้นดี จึงพูดเสียงเย็นยะเยียบ “พวกคุณก็เลยเอาตัวเองเป็นที่ตั้งโดยการหาคู่ให้ ยิ่งไปกว่านั้นคืออีกฝ่ายเป็นผู้ชายแก่ๆ”
เลี๋ยงห้าวเทียนได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กๆ แต่เพราะเขาชอบเจียงสื้อสื้ออยู่ไม่น้อย จึงเก็บความไม่พอใจไว้แล้วพูด “คุณหนูเจียง ถึงผมจะอายุมากไปหน่อย แต่ผมดูแลทุกคนดีมากจริงๆ โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ผมรับประกันเลยว่าแต่งงานกับผมคุณจะต้องมีความสุขแน่ คุณอยากได้อะไรผมจะให้คุณทุกอย่าง”
“ใช่ สื้อสื้อดูสิผอ.เลี๋ยงดีขนาดไหน! แต่งให้เขามีอะไรไม่ดี”
เจียงสื้อสื้อมองดูคนเหล่านี้ เธออธิบายไม่ได้ว่าในใจตอนนี้กำลังโมโหมากขนาดไหน เธอหันไปพูดกับเลี๋ยงห้าวเทียน “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ผอ.เลี๋ยง ฉันมันก็แค่ลูกสาวที่ถูกตระกูลเจียงทอดทิ้งไปตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว ขอบคุณที่คุณเอ็นดูฉัน แต่ไม่ว่าตระกูลเจียงกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ ฉันก็ไม่สมกับคุณหรอกค่ะ คนระดับคุณถ้าอยากได้อะไรก็คงหามาได้ไม่ยาก เพราะงั้นอย่ามาเสียเวลากับฉันเลยค่ะ แล้วก็ หวังว่าต่อไปคุณอย่ากลายเป็นแค่หมากตัวนึงให้คนอื่นเดินเกมอีก”
เจียงสื้อสื้อชัดเจนดีทุกอย่าง การที่ตระกูลเจียงหาคู่ให้เธอ นั่นคงเป็นเพราะเลี๋ยงห้าวเทียนมีผลประโยชน์อะไรบางอย่างที่พวกเขาต้องการ
คนตระกูลนี้ก็ยังหน้าไม่อายเหมือนเดิม
คงมีแต่เลี๋ยงห้าวเทียนที่ซื่อบื้อหลงเข้าใจว่าเจียงเจิ้นแค่อยากจะยกลูกสาวแต่งให้เขาจริงๆ
พูดจบ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนจนดูไม่ได้ โดยเฉพาะเลี๋ยงห้าวเทียนที่รีบถามขึ้นมาทันที “ผอ.เจียง นี่มันอะไรกัน? ไหนบอกว่าเป็นลูกสาวสุดรักไม่ใช่หรอ”
ทำไมจู่ๆก็กลายเป็นลูกสาวที่ถูกทอดทิ้งไปตั้งแต่ห้าปีที่แล้วได้ เลี๋ยงห้าวเทียนก็ไม่ใช่คนโง่ เขาพอจะดูออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจียงสื้อสื้อกับตระกูลเจียงไม่ดีเลยสักนิด แต่คนในตระกูลเจียงกลับอยากยกเธอให้แต่งงานกับเขา เลี๋ยงห้าวเทียนเข้าใจเหตุผลอย่างถ่องแท้ก็ในตอนนี้เอง
เจียงเจิ้นเองก็ไม่คาดคิดว่าเจียงสื้อสื้อจะพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาท่ามกลางทุกสายตา เขาโมโหจนตัวสั่นไปหมด เขาฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อไม่ทันได้ตั้งตัว ความเจ็บแสบแผ่ซ่านไปทั้งใบหน้า ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของเจียงเจิ้น
“แกมันก็แค่ของเล่นที่เขาสนุกด้วยชั่วคราว หลงคิดว่าคุณจิ้นเขามีใจให้ ถึงได้วิ่งตามเขาต้อยๆทั้งวัน แกทรยศฉันที่เป็นพ่อเพราะเขาทุกครั้ง เจียงสื้อสื้อ แกอย่าลืมว่ายังไงแกก็นามสกุลเจียง มีคนระดับผอ.เลี๋ยงมาชอบก็บุญหัวแกมากแล้ว!”
หลังพูดจบ เจียงเจิ้นก็รีบอธิบายกับเลี๋ยงห้าวเทียน “ผอ.เลี๋ยงเรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจ ลูกผมคนนี้มันดื้อไปหน่อย ก่อนหน้านี้เรามีเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่หลายปีที่ผ่านมาคนในตระกูลเจียงก็เป็นห่วงเธออยู่ตลอด พวกเราแค่หวังดีอยากให้คู่ครองดีๆให้ก็เท่านั้น แล้วเราก็วางใจถ้าจะยกเธอให้ผอ.เลี๋ยง แต่…”
เลี๋ยงห้าวเทียนฟังจนไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะเชื่อใครดี
เจียงสื้อสื้อกุมใบหน้า เธอแสยะยิ้มมุมปาก หลายปีมานี้คนในตระกูลเจียงเป็นห่วงเธออยู่ตลอด? แถมยังอยากหาคู่ครองดีๆให้เธอ?
“หึ งั้นขอถามหน่อย ผอ.เจียงรักฉันมากขนาดนี้ทำไมถึงได้ตบฉันท่ามกลางสายตาคนอื่น? หรือว่านี่เป็นวิธีแสดงความรักที่มีต่อลูกสาวของคุณ?”
เจียงเจิ้นพูดไม่ออก
เห็นดังนั้น เจียงนวลนวลจึงรีบเดินเข้าไปดึงแขนเจียงสื้อสื้อพร้อมกับพูดโน้มน้าว “พี่สื้อสื้อ ก็ไม่ใช่เพราะคุณพ่อโมโหเกินไปถึงได้อารมณ์ชั่ววูบหรอกหรอ คุณพ่อไม่ควรตบพี่ก็จริง แต่ต่อให้ปกติพี่จะดื้อยังไง วันนี้ก็ไม่น่ายั่วโมโหคุณพ่อขนาดนี้นี่! พวกเราก็แค่อยากให้พี่ได้ดี ต่อให้พี่ไม่ชอบผอ.เลี๋ยงก็ไม่น่าพูดจาแบบนั้นออกมา รีบขอโทษคุณพ่อสิ!”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกขยะแขงครอบครัวนี้จนขีดสุด เธอสะบัดมือของเจียงนวลนวลออกตามสัญชาติญาณ แต่ใครจะคิดว่าวินาทีต่อมา เจียงนวลนวลราวกับถูกผลัก เธอเสียการทรงตัวก่อนจะเซไปด้านหลังแล้วล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างจัง
เจียงนวลนวลกำลังตั้งครรภ์ หลานซือเฉินร้อนใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเจียงนวลนวลล้มลงไปกับพื้น เขาก็เปลี่ยนไปในพริบตา เขาตะคอกเสียงดังลั่น “เจียงสื้อสื้อ เธอคิดจะทำอะไร?!”
ขณะพูดก็รีบเข้าไปพยุงเจียงนวลนวล
เสิ่นซูหลันเองก็เข้าไปดูอาการของเจียงนวลนวล ก่อนจะชี้หน้ากล่าวโทษเจียงสื้อสื้อ “สื้อสื้อ รู้ทั้งรู้ว่าน้องสาวเธอกำลังท้องกำลังไส้ ยังผลักเธอได้ ยังนิ่งเฉยได้อีก? หรือจะต้องให้เด็กข้างในแท้งมันถึงจะสมใจเธอ?”
แขกเหรือในงานเดินผ่านไปมา เมื่อสถานการณ์เริ่มบานปลาย ไม่นานก็เป็นจุดสายตาของคนอื่น
ทุกคนเห็นเหตุการณ์ก็ชี้ไม้ชี้มือมาที่เจียงสื้อสื้อ
“หน้าตาก็สวยอยู่หรอกทำไมถึงได้โหดเหี้ยมจัง! ทำได้แม้กระทั่งคนท้อง!”
“ก็ใช่น่ะสิ ได้ยินว่าคนท้องเป็นน้องสาวของเธอด้วย น่ากลัวชะมัด!”
“อี๋ คนแบบนี้เข้างานมาได้ไง รีบเรียกออร์แกไนซ์เซอร์มมาลากหล่อนออกไปเถอะ!”
“ยังยืนทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้หนาว ขอโทษสักคำก็ไม่มี”
……
เจียงนวลนวลที่กองอยู่บนพื้น ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่น นัยน์ตาก็เผยยิ้มบางๆ แต่ปากก็ยังแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่คงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ อย่าว่าพี่สื้อสื้อเลยนะคะ”
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ก็ยิ่งเห็นใจเจียงนวลนวล ในขณะเดียวกันสายตาที่มองไปยังเจียงสื้อสื้อก็ยิ่งเพิ่มความรังเกียจมากขึ้น
คำพูดดูถูกและสายตาเลียดชังที่ส่งเข้ามา นัยน์ตาของเจียงสื้อสื้อก็ค่อยๆลุ่มลึก เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเจียงนวลนวลก็แค่กำลังเล่นละคร ตอนที่เธอสะบัดมือออกแทบจะไม่ได้ออกแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ ผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงร้ายเงียบไม่เปลี่ยน
เจียงนวลนวลกุมท้อง ใบหน้าดูไม่ค่อยดี ดูอ่อนแรงสุดๆ
“พี่ซือเฉิน ฉันปวดท้อง!”
เสิ่นซูหลันรีบพูดอย่างเป็นห่วง “นวลนวล ไม่เป็นไรใช่ไหม? ซือเฉินรีบพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลเถอะ!”
หลานซือเฉินพยักหน้า เขากัดฟันขู่เจียงสื้อสื้อ “เจียงสื้อสื้อ ถ้านวลนวลเป็นอะไร ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่”
พูดจบ เขาก็อุ้มเจียงนวลนวลออกไป