ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊？！ - บทที่ 1341 อยากที่จะอาศัยจังหวะที่หัวใจอ่อนแอแล้วเสียบเข้ามาเหรอ

ซ่างหยิงอึ้งไปเล็กน้อย ลูกชายของตัวเองอยากได้อะไร เธอต้องรู้อยู่แล้ว

แต่ว่าเธอจะให้เขาทำตามใจชอบไม่ได้

เงียบไปสักพัก ซ่างหยิงก็ได้ถอนหายใจ “ต่อไปลูกจะเข้าใจในความลำบากของแม่และพ่อของลูก”

พูดจบ เธอก็ได้หันตัวเดินขึ้นชั้นบน

ความลำบาก?

ฟางยู่เชินเงยหน้า มุมปากก็ได้มีรอยยิ้มที่ขมขื่นขึ้น ทำไมพวกเขาไม่เคยที่จะคิดถึงความรู้สึกของเขาเลย?

เขาได้ถอยให้แล้วหลายครั้ง แต่กลับได้ผลลัพธ์แบบนี้มา

ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้ งั้นก็อย่าหาว่าเขาอกตัญญู

เย่เสี่ยวอี้ ไม่ว่าพูดยังไงเขาก็ไม่มีทางสู่ขอเธอ!

วันต่อมา สื่อใหญ่หลายแห่งต่างก็เป็นข่าวของการยกเลิกการแต่งงานของฟางเย่สองตระกูล ไม่นานก็ได้เป็นประเด็นร้อนในโซเชียล

เย่เสี่ยวอี้สั่งสอนมือที่สามก็ได้เป็นข่าวซุบซิบในหมู่ผู้คนอีกครั้ง

เหลียงซินเวยก็ได้ถูกดึงเข้าไปในประเด็นนี้

และเหลียงซินเวยก็ได้ยุ่งเรื่องโรงเรียน จัดการเรื่องการย้ายโรงเรียนให้อานอาน ไม่รู้เลยว่าบนโซเชียลได้มีความเกี่ยวกับตัวเองอีกแล้ว

จัดการเรื่องย้ายเสร็จ เธอก็ได้ตรงกลับบ้าน

พอเข้าประตูเขตชุมชน นักข่าวกลุ่มหนึ่งที่รอเหยื่อติดกับอยู่นั้นก็ได้รีบแบกไมค์ยาวไฟล้อมเข้ามา

แช๊ะๆ ——

แสงแฟลชที่กะพริบอย่างบ้าคลั่ง ทำให้เหลียงซินเวยหลบอย่างอัตโนมัติ

“คุณเหลียง ช่วงสายวันนี้ประธานฟางประกาศยกเลิกสัญญาแต่งงานกับตระกูลเย่ คุณรู้เรื่องนี้ไหมคะ?”

“คุณเหลียง เป็นเพราะว่าคุณหรือเปล่าประธานฟางถึงได้ยกเลิกสัญญาแต่งงานกับตระกูลเย่ครับ?”

“คุณเหลียง กับการเป็นมือที่สามที่ทำลายความสัมพันธ์ของประธานฟางกับคุณหนูเย่ คุณมีความรู้สึกอย่างไรบ้างคะ?”

“คุณเหลียง……”

คำถามยิ่งอยู่ยิ่งดูแรงขึ้น แต่ว่าเหลียงซินเวยไม่ได้ฟังเข้าไปเลยแม้แต่นิด ในหัวของเธอได้วุ่นวายไปหมด ได้ยินแต่ว่า “ฟางยู่เชินได้ประกาศยกเลิกงานแต่งกับตระกูลเย่” ประโยคนี้

คิดไม่ถึงว่าเขาทำแบบนี้จริง

เขาทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้?

พอเกิดเรื่องแล้ว เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับการต่อว่าของพ่อแม่ของเขาแล้วก็แรงกดดันของตระกูลเย่แน่

เพื่อเธอ ทำคุ้มจริงๆ เหรอ?

เห็นว่าเธอไม่ได้พูดอะไร นักข่าวคนหนึ่งก็ได้พูดเสียงแหลม ถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรว่า “คุณเหลียง คนที่เป็นมือที่สาม ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเลยเหรอคะ?”

เสียงที่แหลมนี้ทำให้เหลียงซินเวยดึงสติกลับมา เธอก็ได้เจอกับสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของนักข่าว ใบหน้าได้เย็นชาลง “ฉันไม่เคยเป็นมือที่สามค่ะ!”

“งั้นคุณสามารถที่จะยืนยันได้ไหมคะว่าที่ประธานฟางทำแบบนี้ไม่ได้ทำเพื่อคุณ?” นักข่าวก็ได้ตามต่อ

“แน่นอนว่าไม่ใช่ค่ะ ฉันกับประธานฟางเป็นเพื่อนธรรมดาๆ เท่านั้น ขอให้พวกคุณหลีกทางให้ด้วยค่ะ”

แต่ว่านักข่าวจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ที่ไหน ก็ได้ถามคำถามที่เกินไปกับเธอไม่ยอมปล่อย

ตอนที่เธอใกล้จะทนไม่ไหวแล้วนั้น มือข้างหนึ่งก็ได้กอดไหล่เธอไว้ ปกป้องเธอ พูดออกไปเสียงเข้มว่า “พวกคุณมาหาผิดคนแล้ว เวยเวยไม่เคยที่จะเป็นมือที่สาม ต่อให้เธอกับฟางยู่เชินมีความรู้สึกต่อกัน แต่นั่นก็เป็นอดีต ตอนนี้เธอเป็นแฟนของผม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการยกเลิกสัญญาแต่งงานของฟางเย่สองตระกูลเลยแม้แต่นิด”

เหลียงซินเวยเงยหน้า ก็ได้มองเย่เฉินหยุนที่อยู่ข้างๆ ด้วยความตกใจสุดขีด

เขารู้ว่าตัวเองพูดอะไรอยู่ไหม?

และพวกนักข่าวก็ได้ถูกการประกาศเป็นเจ้าของของเขาทำเอาอึ้งไปเลย

บอดี้การ์ดก็ได้เข้ามาขวางนักข่าว เย่เฉินหยุนก็ได้โอบไหล่เหลียงซินเวยเดินเข้าไป

ตลอดทาง พวกคนของชุมชนนั้นต่างก็มองมาอย่างตั้งคำถามไม่น้อย แต่ว่าเจอกับบรรยากาศที่กดดันของเย่เฉินหยุน ก็ต่างพาหันไปทางอื่น

กลับไปถึงบ้าน เย่เฉินหยุนก็ได้ปล่อยเหลียงซินเวย ถามอย่างเป็นห่วงว่า “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เหลียงซินเวยส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณพี่นะคะ”

“ไม่เป็นไรก็ดี”

เย่เฉินหยุนยิ้มบางๆ “ฟางยู่เชินรักเธอจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้ทางประกาศเรื่องยกเลิกสัญญาการแต่งงานกับภายนอกหรอก”

เหลียงซินเวยกลับไม่ได้รู้สึกดีใจ เธอเดินไปนั่งที่โซฟา ถอนหายใจพูด “เขาทำแบบนี้ไม่คุ้ม อยู่ๆ ก็ยกเลิกสัญญาแต่งงานแบบนี้ เขาต้องเจอกับปัญหามากมายแน่”

“ก็จริง” เย่เฉินหยุนก็ได้พยักหน้าเห็นด้วย พูดต่อว่า “แต่อย่างน้อยก็สามารถให้เธอเห็นความหนักแน่นของเขา”

“พี่เย่” เหลียงซินเวยหันหน้าไปมองเขา “ฉันไม่มีค่าพอให้เขาทำแบบนี้”

“นั่นเธอคิดไปเอง แต่ในใจของเขา ขอแค่ทำเพื่อเธอ คุ้นค่าทั้งหมด” เย่เฉินหยุนสามารถที่จะเข้าใจความรู้สึกของฟางยู่เชินได้

ถ้าเกิดตอนนั้นเขาสามารถมีความหนักแน่นเหมือนฟางยู่เชิน เขากับซีเอนก็ไม่มีทางแยกกัน ยิ่งไม่มีทางเป็นการเสียใจของชาตินี้

เหลียงซินเวยก้มหน้าลง “ฉันไม่ต้องการให้เขาทำอะไรพวกนี้เพื่อฉัน ฉันก็แค่หวังว่าเขาจะมีความสุข”

“อยู่ด้วยกันกับเธอ เขาก็มีความสุขมากแล้ว” เย่เฉินหยุนเดินไป ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เวยเวย เขาไม่ได้ชอบเสี่ยวอี้เลย ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับเสี่ยวอี้”

“จริงเหรอคะ?” เหลียงซินเวยก็ได้กระตุกมุมปาก “พ่อแม่ของเขาสามารถเปลี่ยนความเป็นไปไม่ได้กลายเป็นเป็นไปได้”

ได้ยินแบบนั้น เย่เฉินหยุนขมวดคิ้ว “เธอไม่เชื่อความหนักแน่นของฟางยู่เชินเหรอ?”

“ฉันเชื่อหรือไม่มันไม่สำคัญทั้งนั้นค่ะ” เหลียงซินเวยสูดหายใจเข้าลึกๆ “ไหนๆ ฉันเลือกที่จะเลิกกับเขาแล้ว ก็ไม่มีทางหันกลับไป อีกอย่าง……”

เธอได้เงยหน้ามองเขา “ตอนนี้ฉันเป็นแฟนของพี่ไม่ใช่เหรอ?”

เย่เฉินหยุนอึ้งไป “นั่นก็แค่แผนรับมือในตอนนั้นเท่านั้น”

“ไหนๆ ก็พูดออกมาแล้ว งั้นก็ช่วยฉันเถอะค่ะ”

ในความหมายของคำพูด เธออยากที่จะใช้เหตุผลนี้มาปฏิเสธฟางยู่เชิน

ถึงแม้ว่าฟางยู่เชินยืนยันหนักแน่น แต่ว่าซ่างหยิงไม่ว่าพูดอะไรเธอก็ไม่เห็นด้วย

เธอไม่กล้าที่จะเสี่ยง ไม่กล้าที่จะเอาความปลอดภัยของอานอานมาเสี่ยง

เย่เฉินหยุนตกลงอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้ ก็ถือว่าเพื่อพี่สาวของเธอ เรื่องนี้ไม่ช่วยก็ไม่ได้”

“ขอบคุณค่ะ”

“กับฉันเธอไม่ต้องเกรงใจ แต่ว่าฉันหวังว่าเธอทำแบบนี้ไปแล้ว ไม่เสียใจทีหลัง”

“เสียใจทีหลัง?” เหลียงซินเวยขำสมเพชตัวเองสักพัก “จะไม่เสียใจทีหลังได้ยังไงคะ?”

ตั้งแต่บอกเลิกกันไปนั้น เธอก็ได้เสียใจทีหลังแล้ว

ในเวลาเดียวกัน ฟางยู่เชินเห็นคลิปบนเน็ต

เขาได้ยินเย่เฉินหยุนพูดคำพูดพวกนั้น สีหน้าก็ได้เครียดไปเลย

ส้งหยาวที่อยู่อยู่ข้างๆ ก็ได้รู้สึกถึงบรรยากาศที่เยือกเย็นที่แผ่มาจากตัวของเขา ไม่กล้าที่จะหายใจแรงๆ ทันที

ฟางยู่เชินมองเย่เฉินหยุนกอดเหลียงซินเวยเดินเข้าชุมชน ก็ได้ออกแรงใช้มือมาปิดโน๊ตบุ๊ค นัยน์ตาที่ดำก็ได้หรี่ลง

เย่เฉินหยุนนี่คิดที่จะทำอะไรกันแน่?

อยากที่จะอาศัยจังหวะนี้แล้วเสียบเข้ามาเหรอ?

“ท่านประธานครับ มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์คุณครับ คุณว่า……”

“ไล่มันไป!” ไม่รอให้ส้งหยาวพูดจบ ฟางยู่เชินก็ได้ขัดคำพูดของเขาอย่างโมโห

ส้งหยาวก้มหน้าลง “ครับ”

นิ้วก็ได้เคาะโต๊ะ ฟางยู่เชินก็ได้กดความโมโห คิดอยู่สักพัก ก็ได้เปลี่ยนคำพูดว่า “ฉันตกลงสัมภาษณ์”

“ครับ?” ส้งหยาวอึ้งไปเลย

ท่านประธานเปลี่ยนความคิดเร็วเกินไปแล้ว

ฟางยู่เชินลุกขึ้น “นักข่าวอยู่ที่ไหน?”

“อยู่ที่ห้องประชุมครับ”

ฟางยู่เชินก็ได้ก้าวออกไป ส้งหยาวก็ได้รีบตามไป

พอเข้าไปที่ห้องประชุม นักข่าวที่ได้รออยู่นานก็ได้รีบลุกขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ประธานฟาง คุณมาได้สักทีนะคะ”

ฟางยู่เชินเดินตรงไป นั่งอยู่ที่โซฟาตรงข้ามเธอ ถามออกไปตรงๆ ว่า “คุณอย่างจะขอสัมภาษณ์เรื่องอะไร?”

นักข่าวมองส้งหยาวสักพัก ก็ได้พูดอย่างระมัดระวังว่า “ก็เรื่องที่คุณยกเลิกงานสัญญาแต่งงานค่ะ”

“งั้นก็เริ่มกันเถอะ ผมจะตอบไปเลยทั้งหมด”

ได้ยินแบบนั้น พวกนักข่าวก็ได้พากันตกใจ ก็ได้รีบไปจัดกล้องได้เรียบร้อย เริ่มสัมภาษณ์