ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 135 น่าขยะแขยงทั้งตระกูล
บทที่ 135 น่าขยะแขยงทั้งตระกูล
เจียงสื้อสื้อยืนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ด้านข้างอย่างอึ้งๆ เมื่อสักครู่ที่ถูกทุกคนในงานชี้หน้าด่าทอ หรือถูกคนในตระกูลเจียงใส่ความ เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด
แต่หลายปีที่ผ่านมา เธอต้องประสบพบเจอเรื่องแบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้ง ซึ่งเจียงสื้อสื้อก็ชินไปแล้วซะเป็นส่วนใหญ่
แต่วินาทีนี้มีคนๆนึงกำลังปกป้องเธอถึงขนาดนี้ ในใจของเจียงสื้อสื้อรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
เวลานี้เสิ่นซูหลันก็ยังคงพูดจาปลิ้นปล้อนต่อไป
“คุณจิ้น คุณจะทำจนหลานฉันตายให้ได้ใช่ไหม? ฉันรู้ว่าคุณอยากจะปกป้องเจียงสื้อสื้อ แต่ตอนนี้จะเอาชีวิตคนมาล้อเล่นไม่ได้!”
เจียงนวลนวลซบกับหน้าอกของหลานซือเฉิน แสร้งทำเป็นขอความเมตตา “พี่สื้อสื้อฉันขอร้องล่ะ อย่าโหดเหี้ยมขนาดนี้ได้ไหม พวกเราเป็นฝ่ายทำไม่ได้กับพี่ พวกเราผิดเอง บอกให้คุณจิ้นปล่อยพวกเราไปเถอะ!”
เจียงสื้อสื้อไม่ได้สนใจ เธอรู้ดีว่าจุดประสงค์ของเจียงนวลนวลก็แค่อยากรีบออกไปจากที่นี่ แต่ครั้งนี้ไม่ว่ายังไง เธอก็จะทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเองให้ได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบานปลายใหญ่โต จนคนทั่วทั้งงานเข้ามารุมล้อม ทุกคนต่างพากันซุบซิบเสียงดัง
“ว้า นี่มันดราม่าแห่งปีชัดๆ! ไม่รู้เหมือนกันว่าสรุปแล้วเรื่องมันเป็นยังไง?”
“ฉันว่าผู้หญิงท้องคนนั้นตั้งใจล้มลงไปเองมากกว่า! ส่วนอาซ้อนั่นถึงขนาดผลักคนไปหาหอแชมเปญ…”
“จริง! เมื่อกี้คุณชายจิ้นโคตรเท่ ว่าแต่ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมคุณชายจิ้นต้องปกป้องเธอขนาดนี้ด้วย? แถมดูท่าทางเป็นเดือนเป็นร้อยสุด! นี่ถ้าไม่รู้คงนึกว่าเป็นแฟนไปแล้วนะ!”
“ไหนว่าคุณชายจิ้นจะหมั้นกับซูชิงหลิงไม่ใช่หรอ? หรือว่าเป็แค่ข่าวลือมั่วๆ?”
“ไม่รู้สิ! แต่พวกเธอไม่สังเกตหรอ? คุณชายจิ้นเย็นชากับซูชิงหยิงออกจะตายไป แต่กับผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แค่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน แถมยังอ่อนโยนอีก…”
ซูชิงหยิงและซูซินหรุ่ยก็อยู่ในกลุ่มที่ยืนล้อมรอบดูเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน เมื่อได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ชม นัยน์ตาของซูชิงหยิงก็ลุ่มลึกลง
ซูซินหรุ่ยยืนอยู่ข้างๆก็พลอยโมโหตามไปด้วย “พี่ซูหยิงดูสิ เป็นนังแพศยานี่อีกแล้ว วันๆดีแต่สร้างเรื่องแล้วให้พี่เฟิงเฉินต้องคอยมานั่งตามล้างตามเก็บ ฉันว่ายัยนี่มันต้องตั้งใจแน่ๆ ตั้งใจสร้างเรื่องให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองกับพี่เฟิงเฉินมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ช่างเป็นผู้หญิงที่หน้าไม่อายจริงๆ”
ซูชิงหยิงไม่ได้พูดอะไร สายตาจ้องไปยังเจียงสื้อสื้อที่ยืนอยู่ข้างๆจิ้นเฟิงเฉิน ประกายตาแฝงไปด้วยรังศีอำมหิตเกลียดชัง
……
ไม่นาน อานเชิ่งก็เดินเข้ามาแล้วพูด “กรอเวลากล้องวงจรปิดแล้ว”
ขณะพูด อานเชิ่งก็อดลอบสังเกตเจียงสื้อสื้อไม่ได้ เขาแอบสงสัยในใจ นี่หรอผู้หญิงที่จิ้นเฟิงเฉินชอบ? แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาจึงไม่ได้ถามออกไป
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ขอบคุณครับลุงอานเชิ่ง งั้นก็ปล่อยภาพออกมาให้ทุกคนดูกันเถอะ!”
จากนั้นหน้าจอกลางห้องบอลรูมก็ฉายภาพที่เจียงสื้อสื้อถูกคนจากตระกูลเจียงรุมล้อม จากนั้นราวกับเกิดการทะเลาะวิวาท เจียงเจิ้นตบเจียงสื้อสื้อไปทีนึง ก่อนที่ในนาทีต่อมาเจียงนวลนวลจะแกล้งทำเป็นล้มลงไป
ฉากนี้ถูกฉายลงบนหน้าจออย่างชัดเจน แม้จะไม่มีเสียง แต่ก็พอจะรู้ว่าครอบครัวนี้กำลังหาเรื่องเจียงสื้อสื้อ
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินดำทะมึนมากขึ้น โดยเฉพาะช็อตที่เจียงสื้อสื้อโดนตบ ราวกับรังสีดำมืดได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างชายหนุ่ม
ทุกคนในงานต่างก็อึ้งไป โดยเฉพาะคนที่ตำหนิเจียงสื้อสื้อเมื่อสักครู่ ที่รู้สึกละอายใจขึ้นมา
ใครต่างก็คิดไม่ถึงว่าความจริงของเรื่องจะเป็นแบบนี้ ทุกคนเริ่มหันไปซุบซิบนินทาเจียงนวลนวล กำลังท้องไส้อยู่แท้ๆแต่กล้าเอาลูกตัวเองมาทำเป็นเรื่องล้อเล่น มาพร้อมกับคำตำหนิ…ภายนอกก็ดูเป็นใจดีอยู่หรอก ไม่คิดเลยว่าจิตใจจะโหดร้ายขนาดนี้
เจียงนวลนวลไม่ปวดท้องอีกต่อไป เธอหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
โดยเฉพาะสายตายี้ที่ส่งมาจากคนทั่วบริเวณ ยิ่งทำให้เจียงนวลนวลแถมอยากจะมุดแผ่นดินหนี แววตาของเธอยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ คิดไม่ออกจริงๆ ทุกอย่างกำลังไปได้สวยอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้
คนที่สมควรถูกชี้หน้าก่นด่าควรจะเป็นนังเจียงสื้อสื้อสิ ทำไมจิ้นเฟิงเฉินต้องออกโรงช่วยมันด้วย เจียงนวลนวลกัดฟันกรอด สีหน้าของหลายซือเฉินเองก็ไม่สู้ดีนัก เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าที่แท้เจียงนวลนวลแค่เล่นละคร…
ใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ เขาเม้มปาก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้ก็ถึงเวลาคิดบัญชีสักที พูดจาให้ร้ายเจียงสื้อสื้อ ไหนจะคุณนายเจียง ทั้งๆที่เห็นอยู่ว่าด้านหลังมีหอแชมเปญตั้งอยู่ แต่กลับตั้งใจผลักคนทั้งคนไปทางนั้น หวังทำร้ายร่างกายจนเกือบได้รับบาดเจ็บ”
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขารีบมาได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นป่านนี้เจียงสื้อสื้อคงได้นอนอาบเศษแก้วเป็นแน่แท้ หรืออาจจะถึงขั้นเสียโฉม… แค่คิด น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินก็ทุ้มต่ำจนน่ากลัว เขาหันไปออกคำสั่งกับผู้ช่วย “แจ้งตำรวจ”
เพียงได้ยินคำว่าแจ้งตำรวจ เสิ่นซูหลันก็ดิ้นขึ้นมาทันใด ก่อนจะรีบออกตัวพูด “คุณจิ้น ตอนนั้นฉันไม่เห็นจริงๆค่ะ ฉันแค่เป็นห่วงลูกสาวฉัน อีกอย่างฉันก็แค่ผลักเจียงสื้อสื้อเบาๆไปนิดหน่อยก็เท่านั้น แต่เธอยืนไม่มั่นคงเองต่างหาก นี่ไม่ใช่การทำร้ายร่างกายนะคะ”
แน่นอนว่าเสิ่นซูหลันตั้งใจ เมื่อกี้นังเจียงสื้อสื้อนั่นริอาจจะท้าให้เปิดกล้องวงจรปิด เสิ่นซูหลันรู้จักนิสัยของลูกสาวตัวเองดี เธอดูออกว่าเจียงนวลนวลแกล้งล้ม…เพราะแบบนั้นจะยอมให้เปิดกล้องวงจรปิดได้ยังไงกัน!
ทันทีที่เหลือบไปเห็นหอแชมเปญที่วางอยู่ด้านหลัง เสิ่นซูหลันไม่พูดอะไรทั้งนั้น เธอมุ่งเข้าไปจู่โจมในทันที
ถ้าเจียงสื้อสื้อได้รับบาดเจ็บ ดูซิว่าจะเปิดกล้องวงจรปิดยังไง? แต่ใครจะไปคิด วินาทีสำคัญที่ทุกคนต่างคิดว่าเจียงสื้อสื้อจบเห่แล้วแน่ๆ จิ้นเฟิงเฉินดันโผล่ออกมา
ตอนนี้กลายเป็นว่าโดนข้อหาทำร้ายร่างกาย เสิ่นซูหลันร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เธอเข้าไปดึงแขนเจียงเจิ้นแล้วว่า “คุณคะ ช่วยอะไรฉันบ้างสิ! ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ”
ไม่ต้องบอกว่าสีหน้าของเจียงเจิ้นดำทะมึนขนาดไหน เขาฟาดฝ่ามือหนักลงบนใบหน้าเสิ่นซูหลันอย่างจัง
“ใครสั่งให้เธอทำร้ายร่างกาย ถึงจะเป็นห่วงนวลนวลแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปผลักสื้อสื้อ!”
เสิ่นซูหลันถูกตบไม่ทันตั้งตัว เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจียงเจิ้นจะกล้าตบเธอ ตอนแรกเธอตั้งใจจะอาละวาด แต่สถานการณ์ตอนนี้เธอคงพูดอะไรไม่ได้…ถึงยังไงจิ้นเฟิงเฉินก็ยังอยู่ตรงนี้
เจียงเจิ้นมองเจียงสื้อสื้อแล้วพูด “สื้อสื้อ ป้าเธอเขาไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องถึงขั้นแจ้งตำรวจหรอกจริงไหม?”
วินาทีนี้อ้อนวอนจิ้นเฟิงเฉินไปคงไม่มีประโยชน์ ทำได้แค่ต้องให้เจียงสื้อสื้อหายโกรธ
เห็นใบหน้าอีกทั้งคำพูดคำจาจากคนครอบครัวนี้ เจียงสื้อสื้อสะอิดสะเอียนจนอยากจะอ้วก
“ค่ะ ทีเธอทำเธอไม่ได้ตั้งใจ แต่พอหนูทำคือหนูตั้งใจ พวกคุณคนตระกูลเจียงทุกคนลองถามตัวเองดูนะ ฉันเจียงสื้อสื้อเคยทำอะไรให้พวกคุณรู้สึกบาดหมางจิตใจสักนิดหรือเปล่า? ถึงต้องทำลายกันขนาดนี้ เจียงนวลนวลแย่งคู่หมั้นของหนู พ่อก็เงียบ ผู้หญิงสารเลวนี่แย่งสมบัติทุกอย่างที่ควรจะเป็นของหนูไป พ่อก็เงียบ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยปล่อยให้หนูได้มีชีวิตอย่างสงบสุข กัดหนูจนกว่าจะตายกันไปข้าง”
เจียงเจิ้นยืนนิ่งไม่พูดอะไร สีหน้าย่ำแย่
นึกย้อนภาพเหตุการณ์ต่างๆ เจียงสื้อสื้อรู้สึกจิตใจบีบแน่น ที่มุมปากแสยะยิ้มเสียดแทงออกมา
“เจียงนวลนวลเป็นลูกที่พ่อให้กำเนิด ควรแต่งให้กับลูกเศรษฐี เป็นหน้าเป็นตาของวงษ์ตระกูล ส่วนหนูก็สมควรโดนพ่อยัดเยียดให้แต่งกับชายแก่เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวใช่ไหม? ทำไมพวกพ่อถึงได้น่าขยะแขยงขนาดนี้?”
พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็เดินจากไปด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรังเกียจ