ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1355 ผลที่ตามมาก็คือฉันจะต้องตาย
หลังจากที่ซ่างกวนหยวนรู้ข่าวว่าจิ้นเฟิงเฉินกลับไปในประเทศ เธอไม่อยากจะเชื่อเลย “คุณว่าอะไรนะ พวกเขากลับประเทศไปแล้ว?”
เจี่ยงฉือพยักหน้า “อืม”
“กลับไปตอนไหนกัน? ทำไมฉันถึงไม่รู้?”
“ไฟล์บินเมื่อคืนน่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ซ่างกวนหยวนก็โมโหมากๆ ก่อนที่เธอจะปาข้าวของบนโต๊ะทิ้งลงไปที่พื้น
นี่พวกเขากลับไปในประเทศแล้วเหรอ?
แล้วที่เธอมาที่ประเทศฝรั่งเศสจะมีประโยชน์อะไร?
ผ่านไปพักใหญ่ หลังจากที่ซ่างกวนหยวนสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เธอก็มองไปทางเจี่ยงฉือด้วยความไม่พอใจ “คุณส่งคนไปสะกดรอยตามพวกเขาไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้มาเอาตอนนี้?”
“พวกเขาย้ายไปอยู่กันที่คฤหาสน์ตระกูลจิ้นในฝรั่งเศส มีคนขับรถเข้าไปในคฤหาสน์วันนั้น และก็ออกมาตอนกลางคืน คนของผมไม่ได้คิดมากอะไร นึกว่าเป็นแค่แขกธรรมดา”
“เศษขยะ! พวกคุณมันก็คือเศษขยะกันทั้งนั้น! แค่ให้เฝ้าคนไว้ยังทำไม่ได้เลย!” ซ่างกวนหยวนโกรธมากจนใบหน้าของเธอบูดเบี้ยว ดวงตาของเธอแดงก่ำ ดวงตาของเธอที่จ้องไปเจี่ยงฉือก็ดูน่ากลัวมากๆ ราวกับว่าเธอแทบรอไม่ไหวที่จะฉีกเขาเป็นเสี่ยงๆ
เจี่ยงฉือเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ผมได้จองไฟท์บินหลังจากนี้อีก 2 ชั่วโมงไว้ พวกเราก็กลับไปในประเทศกัน”
หลังจากที่นายท่านหญิงซ่างกวนเข้ารับการผ่าตัดมา ร่างกายฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี และหลังจากได้รับการยืนยันว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เธอก็ถูกซ่างกวนหยวนนำตัวกลับไปที่บ้านเพื่อพักฟื้น
เมื่อเธอรู้ว่าซ่างกวนหยวนตามจิ้นเฟิงเฉินไปประเทศฝรั่งเศส เธอก็ถอนหายใจและส่ายหน้าทันที “ทำไมเด็กน้อยอย่างหยวนหยวนถึงไม่ตายใจสักที?”
เธอทำเพื่อความสุขของหลานสาวของตัวเอง จนยอมเสียหน้าของตัวเอง ไม่ว่าภายนอกจะพูดว่าตระกูลซ่างกวนเป็นยังไง เธอก็ทำเหมือนไม่เคยได้ยิน
แต่ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินเลือกที่จะกลับไปยังตระกูลจิ้น เธอคิดว่าบางทีหยวนหยวนอาจจะยอมแพ้ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเธอจะไม่ตายใจขนาดนี้ และจะเอาจิ้นเฟิงเฉินเพียงคนเดียวด้วย
“คุณย่า ถ้าเป็นไปได้ คุณย่าควรจะพูดเตือนหยวนหยวนหน่อยนะ อย่าให้เธอทำเรื่องโง่ๆ อีกเลย” ซ่างกวนเชียนพูดเตือน
นายท่านหญิงซ่างกวนพยักหน้า “อืม ย่าจะพูดเตือนเธอเอง ไม่ว่าอย่างไร ตระกูลจิ้นก็ไม่เชื่อตระกูลที่พวกเราจะเข้าไปหาเรื่องได้”
……
“คุณย่า คุณย่าจะต้องออกหน้าแทนหนูนะ ตระกูลจิ้นทำเกินไปมาก เขาก็ไม่คิดเลยว่าถ้าตอนนั้นหนูไม่ได้เฟิงเฉินไว้ ตระกูลจิ้นก็คงไม่มีคนที่ชื่อเฟิงเฉินอยู่แล้ว”
ซ่างกวนหยวนกลับมาจากฝรั่งเศส เธอทั้งร้องไห้ทั้งรู้สึกโกรธและกล่าวหาตระกูลจิ้นด้วยความไม่พอใจ
นายท่านหญิงเช็ดน้ำตาให้กับเธอ ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดว่า “พวกเขาทำเกินไปจริงๆ โดยเฉพาะเฟิงเฉิน เขาไม่น่าจะทำอย่างนั้นกับหนูเลย”
“คุณย่า เฟิงเฉินไม่เอาหนูแล้ว เขาเคยตอบตกลงกับคุณย่าแล้วว่าเขาจะดูแลหนูไปตลอดชีวิต ทำไมเขาถึงได้ไม่รักษาสัญญาแบบนี้?” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซ่างกวนหยวนก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม ซึ่งก็เต็มไปด้วยความคับข้องใจ
ถ้ารู้ว่าตอนจบมันจะเป็นแบบนี้ ในตอนนั้นเธอก็ไม่น่าจะกลับประเทศมาเลย เธอควรจะอยู่กับเฟิงเฉินที่สิงคโปร์ต่อไป
ในตอนแรกในท่านหญิงก็รับปากกับซ่างกวนเชียนแล้วว่าจะพูดเตือนซ่างกวนหยวน แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินหลานสาวบ้านตัวเองกำลังร้องไห้แบบนี้ สุดท้ายเธอก็ใจอ่อนอยู่ดี เธอให้พ่อบ้านโทรบอกให้ซ่างกวนเชียนให้รีบกลับบ้าน
แค่เข้ามาในบ้าน ตอนที่เขามองเห็นซ่างกวนเชียน เขาก็ชะงักไป ก่อนจะได้สติกลับมา
“หยวนหยวนกลับมาตอนไหนเหรอ?” เขาถามด้วยความสงสัย ซ่างกวนหยวนไม่ได้สนใจเขา
นายท่านหญิงจึงตอบว่า “เพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน”
ซ่างกวนเชียนเห็นว่าซ่างกวนหยวนร้องไห้จนตาแดงไปหมด เขาก็ขมวดคิ้ว และเขาก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่าที่นายท่านหญิงเรียกเขากลับมาเพราะอะไร
นายท่านหญิงเงียบไปอยู่พักใหญ่ ก่อนจะพูดอธิบายว่า “เสี่ยวเชียน แกไปที่บ้านตระกูลจิ้นหน่อยสิ และพาจิ้นเฟิงเฉินกลับมาที่ตระกูลซ่างกวน”
ถึงแม้เขาคาดเดาไว้นานแล้ว แต่ซ่างกวนเชียนก็ยังรู้สึกแปลกใจ
“คุณย่า คุณย่ารู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่”
จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนของตระกูลจิ้น เขาจะไปมีอำนาจพาตัวเขาคนนั้นมาที่ตระกูลซ่างกวนได้อย่างไร?
“ถึงแม้ย่าจะแก่แล้ว แต่ย่าก็ไม่ได้เลอะเลือน” นายท่านหญิงจ้องมองไปที่เขาด้วยความไม่พอใจ “ทำไมย่าจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่”
“คุณย่า นั่นคือตระกูลจิ้นนะ แล้วคุณย่าคิดว่าผมจะสามารถพาคนออกมาจากตระกูลจิ้นได้เหรอ?”
“ทำไม่ได้ก็ต้องคิดหาวิธี ยังไงก็จะต้องพาตัวเขามาให้ได้!”
น้ำเสียงที่ดูไม่พอใจของนายท่านหญิงมันทำให้ซ่างกวนเชียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองไปยังซ่างกวนหยวนที่หันหลังให้เขา ก่อนที่เขาจะถอนหายใจภายในใจ
เรื่องนี้ก็จบไปตั้งนานแล้ว ทำไมเธอถึงไม่รู้จักยอมแพ้?
เขากำมือทั้งสองข้างแน่น ก่อนจะปล่อยออก และพูดว่า “หยวนหยวน เธอเคยนึกถึงผลที่ตามมาบ้างไหม”
ซ่างกวนหยวนเหลือบมองไปทางเขา น้ำเสียงของเธอเย็นชาเล็กน้อย “ผลที่ตามมาก็คือฉันจะต้องตาย”
เมื่อคำพูดนี้ได้พูดออกไป นายท่านหญิงก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะรีบพูดว่า “หยวนหยวน หนูอย่าคิดสั้นนะ หนูต้องการอะไร ย่าจะทำให้หนูทุกๆ อย่างเลย”
“คุณย่า หนูไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น หนูต้องการแค่จิ้นเฟิงเฉิน!”
“ได้ ย่าจะให้พี่ของหนูไปที่ตระกูลจิ้นตอนนี้เลย”
เมื่อพูดจบ คุณย่าก็ใช้สายตามองไปทางซ่างกวนเชียนที่ยืนนิ่งไม่ขยับตัวอยู่ที่เดิม “ยังไม่รีบไปอีก! อยากจะเห็นน้องสาวของแกไปหาความตายจริงๆ เหรอ?”
“คุณย่า…” ซ่างกวนเชียนดูหมดหนทาง
หรือว่าเธอฟังไม่ออกเหรอว่าซ่างกวนหยวนกำลังพูดขู่พวกเขาเท่านั้นเอง?
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น รีบไป!” นายท่านหญิงออกคำสั่ง ซ่างกวนเชียนทำอะไรไม่ได้ จึงต้องยอมไป
นายท่านหญิงตบไหล่เพื่อปลอบซ่างกวนหยวนเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หยวนหยวนของพวกเราน่ารักขนาดนี้ เฟิงเฉินจะต้องคิดได้ว่าตัวเองทำผิดไป และจะกลับมาอยู่ข้างกายหนูแน่นอน”
“จริงเหรอคะ?” ซ่างกวนหยวนเงยหน้ามองเธอ ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวัง
นายท่านหญิงยิ้ม “จริงอยู่แล้ว”
“คุณย่าดีที่สุดเลย” ซ่างกวนหยวนกอดเธอไว้ ก่อนจะเอาหัวซบลงบนไหล่ของเธอ
นายท่านหญิงยิ้มออกมาด้วยความสุข “หยวนหยวนของพวกเราก็ดีที่สุดเหมือนกัน”
……
ตระกูลจิ้นไม่ได้ยินดีกับการมาของซ่างกวนเชียน ถ้าไม่ใช่เพราะได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ทุกคนในตระกูลจิ้นก็คงอยากจะไล่เขาออกไป
“เชิญนั่งสิ” พ่อจิ้นทำท่าเชิญ เพื่อให้ซ่างกวนเชียนนั่งลง
ซ่างกวนเชียนนั่งลงตามที่เขาบอก ก่อนจะสบตาเข้ากับสายตาที่ไม่เป็นมิตรของแม่จิ้น จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาด้วยความอึดอัด
“วันนี้มาเพราะมีเรื่องอะไรเหรอ?” พ่อจิ้นถามอย่างตรงไปตรงมา
“คุณลุง ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องมารบกวน” ซ่างกวนเชียนยิ้มอย่างมีมารยาท แต่ภายในใจเค้าไม่มีความมั่นใจอยู่เลย
“ในเมื่อรู้ว่าเป็นการรบกวน แล้วจะมาทำไมอีก?” แม่จิ้นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
พ่อจิ้นตบมือเธอเบาๆ “พอได้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ถือว่าเป็นแขก อย่าทำหน้าไม่พอใจแบบนั้นสิ”
คำพูดนี้ทำให้แม่จิ้นโมโหมากๆ เธอพูดเสียงดังขึ้น “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าน้องสาวของเขา เฟิงเฉินจะความจำเสื่อมไหมล่ะ อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยคนในตระกูลซ่างกวนไปง่ายๆ!”
เมื่อพูดจบ เธอก็หันไปมองซ่างกวนเชียน ความรู้สึกที่ไม่พอใจของเธอเห็นได้อย่างชัดเจน
พ่อจิ้นรับรู้ได้ จึงมองไปทางซ่างกวนเชียน “พูดมาเถอะ ที่แกมาจะต้องมีธุระแน่นอน”
แม่จิ้นก็มีท่าทีแบบนี้แล้ว ซ่างกวนหยวนจะกล้าพูดได้อย่างไรว่าที่มาที่นี่ก็เพื่อเอาตัวจิ้นเฟิงเฉินกลับไปที่ตระกูลซ่างกวน
เขาครุ่นคิด ก่อนจะพูดขอร้องออกมา “ผมอยากจจะเจอเฟิงเฉิน”
“ไม่ได้!” แม่จิ้นพูดด้วยความเยือกเย็น
ซ่างกวนเชียนเม้มปากด้วยความอึดอัด “คุณป้าครับ ผมก็แค่มีเรื่องบางอย่างอยากจะพูดกับเฟิงเฉินตัวต่อตัว”
“ฉันบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่เข้าใจเหรอ?” แม่จิ้นมองไปทางเขาด้วยความไม่พอใจ
“ผม…”
ซ่านกวนเชียนยังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งมาตัดบทเขา “นายอยากพูดอะไร?”
คือจิ้นเฟิงเฉินนั่นเอง
ซ่างกวนเชียนรีบลุกขึ้น ก่อนจะมองไปทางของเสียงที่ดังขึ้น
เขาเห็นแค่จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้ามา ใบหน้าที่ดูดีและไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แววตาดูเยือกเย็นราวมากๆ
ซึ่งมันไม่เหมือนกับจิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ในตระกูลซ่างกวนเลย
ซ่างกวนเขียนกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเริ่มรู้สึกอึดอัด “ประธานจิ้น ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันหวังว่าพวกเราจะไม่เจอกันอีกตลอดไป” จิ้นเฟิงเฉินเดินมาจนอยู่ห่างกับเขาไม่มาก่อนจะหยุดเดิน น้ำเสียงของเขาก็ดูเย็นชาเป็นพิเศษ
“ฉันก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน” ซ่างกวนเชียนยิ้มด้วยความขมขื่น “แต่นายก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้”
ในช่วงเวลาที่อยู่ในตระกูลซ่างกวน จิ้นเฟิงเฉินรู้ดีว่าซ่างกวนเชียนมีความรู้สึกแบบไหนต่อซ่างกวนหยวน และเขาเองก็รู้เช่นกันว่าเขาคนนั้นมาที่ตระกูลจิ้นด้วยความรู้สึกแบบไหน
“พวกเราขึ้นไปพูดกันด้านบนเถอะ” จิ้นเฟิงเฉินพูด
เมื่อแม่จิ้นได้ยิน เธอก็เป็นกังวล “เฟิงเฉิน แกมีอะไรจะพูดกับเขาเหรอ? ถ้าจะพูดคุยกันจริงๆ ก็พูดตรงนี้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่างกวนเชียนก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะพูดอย่างประนีประนอม “ไม่จำเป็นต้องขึ้นไปชั้นบนหรอก พูดตรงนี้ก็ได้”