ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 138 หึง
บทที่ 138 หึง
จูบของทั้งสองทำให้อุณหภูมิภายในห้องสูงขึ้น
เจียงสื้อสื้อระดมจูบอย่างหนักหน่วง จิ้นเฟิงเฉินผันตัวเองจากฝ่ายรุกกลายเป็นฝ่ายรับ ทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนมาล้มอยู่บนเตียงเมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจ จิ้นเฟิงเฉินขึ้นคร่อมเจียงสื้อสื้อ ร่างทั้งสองมีเพียงเสื้อผ้าบางๆขวางกั้น ทำให้สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิเร่าร้อนของอีกฝ่าย
ราวกับว่าแค่จูบแสนธรรมดาไม่อาจทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอิ่มเอมได้อีกต่อไป มือหนาของจิ้นเฟิงเฉินค่อยๆลูบไล้ไปตามร่างกายของเจียงสื้อสื้อ เขาลากจูบจากริมฝีปากไปยังใบหู จนถึงซอกคอ…
เสื้อผ้าของเจียงสื้อสื้อใกล้จะถูกกระชากออกเต็มที ขณะที่มือใหญ่ซุกซนไปจนถึงจุดอ่อนไหวที่สุดของหญิงสาว เธออดครางเสียงหลงออกมาไม่ได้ สติเส้นสุดท้ายของจิ้นเฟิงเฉินใกล้จะกระเจิงเต็มทน…
แต่แล้วเมื่อถึงนาทีสำคัญ เจียงสื้อสื้อก็ผล็อยหลับไป
หญิงสาวหลับตาพริ้ม เสียงหายใจสม่ำเสมอดังออกมา จิ้นเฟิงเฉินเห็นแบบนั้นแทบอยากจะจับแม่สาวน้อยนี่ฟาดสักที แต่ก็ทำไม่ลง
สุดท้ายจึงทำได้เพียงหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ จิ้นเฟิงเฉินถอนหายใจ แล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมให้เจียงสื้อสื้อ ก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากนูน แล้วเดินกลับไปอาบน้ำเย็นที่ห้องข้างๆ
……
พระอาทิตย์ขึ้น เจียงสื้อสื้อตื่นขึ้นมาด้วยสมองที่ตื้อไปหมด เธอกระพริบตามองไปรอบๆห้อง นี่เหมือนจะเป็นห้องนอนของจิ้นเฟิงเฉิน ความทรงจำเมื่อวานพรั่งพรูขึ้นมาในหัว หลังจากออกมาจากงานเลี้ยง เธอก็ขอให้จิ้นเฟิงเฉินพาเธอไปดื่มเหล้า จากนั้นล่ะ…
เรื่องราวหลังจากนั้นเธอก็จำไม่ได้แล้ว แต่พอคิดๆดู เธอก็อดกังวลขึ้นมาไม่ได้ หวังว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ควรพูด หรือทำอะไรที่ตัวเองไม่ควรทำหรอกมั้ง?
เจียงสื้อสื้อลุกขึ้นมานั่งด้วยความงุนงง เวลานี้เองที่เสียวเป่าน้อยพุ่งเข้ามาหา
“ป้าสื้อสื้อตื่นแล้วหรอ! อาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว รีบลงมากินข้าวเถอะฮะ!”
เจียงสื้อสื้อไม่ได้เจอเสียวเป่ามาหลายวัน คราวนี้ได้มาเจอเจ้าจุ้มปุ๊ก เสียวเป่าดีใจ เธอก็ดีใจ อดไม่ไหวอุ้มขึ้นมาฟัดด้วยความหมั่นเขี้ยว
เสียวเป่าโดนฟัดจนจั๊กจี้ไปหมด เด็กน้อยหัวเราะพร้อมกับพยายามเบี่ยงตัวหลบ จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้ามาเห็นภาพนี้พอดี เขารู้สึกจี๊ดไปหมด
เจียงสื้อสื้อเองก็เห็นเขาแล้วเช่นกัน แม้ว่าเมื่อคืนจะดื่มจนเมาทำให้จำอะไรหลายอย่างไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้สมองของเธอเริ่มฟื้นความทรงจำบางอย่างขึ้นมา เช่นภาพที่ทั้งสองคนจูบกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอเป็นฝ่ายรุก
แค่คิด เจียงสื้อสื้อก็รีบปล่อยเสียวเป่าออก ก่อนจะทักทายเขาอย่างเก้ๆกังๆแล้วหนีเข้าห้องน้ำไป
จิ้นเฟิงเฉินเซ็ง ทำไมการปฏิบัติของเธอที่มีต่อเขามันช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว! เขาหงุดหงิด ก่อนจะหันไปพูดกับลูกชายตัวเอง “เย็นนี้ไปบ้านคุณปู่คุณย่า หนึ่งอาทิตย์แล้วค่อยกลับ”
เสียวเป่ามองจิ้นเฟิงเฉินอย่างงุนงง ก่อนจะเอ่ยปากถาม “ทำไมฮะ?”
แด๊ดดี๊เป็นอะไรของเขาไปอีกเนี่ย? เมื่อกี้ก็ให้คนพาเขามาหาป้าสื้อสื้อเองนี่นา แถมยังบอกว่าจะได้เจอป้าสื้อสื้อไปอีกหลายวัน แล้วทำไมจู่ๆจะส่งเขาไปบ้านคุณปู่คุณย่าเฉยเลย? เสียวเป่าแอบบ่นอุบในใจ
จิ้นเฟิงเฉินไม่ตอบ เขาร้องหึออกมาทีนึง ก่อนจะหันหลังเดินลงบันไดไปด้วยท่าทางงอนๆ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เสียวเป่ายังรอเธออยู่ตรงด้านนอก ทันทีที่เห็นเจียงสื้อสื้อ เสียวเป่าก็รีบโอดครวญฟ้อง “ป้าสื้อสื้อฮะ ไม่รู้ว่าแด๊ดดี้ไปกินยาตัวไหนผิดมา ตอนเช้ายังบอกผมอยู่เลยว่าหลายวันนี้จะพาผมไปหาป้าบ่อยๆ พอเมื่อกี้จู่ๆก็บอกจะส่งผมไปบ้านคุณปู่คุณย่าหนึ่งอาทิตย์ ป้าสื้อสื้อ กว่าผมจะได้เจอป้าคงอีกนานเลยใช่ไหมฮะ?”
ฟังที่เสียวเป่าพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็นิ่งไป เธอใช้ความคิดนิดหน่อยก่อนจะเข้าใจ อีตาจิ้นเฟิงเฉินกำลังหึงลูกชายตัวเองหรอเนี่ย?
ไม่ทันไรเจียงสื้อสื้อก็หัวเราะ หมอนี่ขี้ใจน้อยชะมัด แม้แต่ลูกชายตัวเองก็ยังหึงได้ลง คิดๆอยู่ เจียงสื้อสื้อก็อุ้มเสียวเป่าลงข้างล่าง
จิ้นเฟิงเฉินรออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว หลังกินอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ไปส่งเสียวเป่าที่โรงเรียนตามปกติแล้วจึงไปส่งเจียงสื้อสื้อที่บริษัท
เพราะกลัวว่าอีกนานกว่าจะได้เจอเจียงสื้อสื้ออีก เสียวเป่าจึงเกาะอยู่ในอ้อมอกของเธอไม่ปล่อยไปตลอดทาง
“ป้าสื้อสื้อ เสียวเป่าไม่อยากแยกจากป้าสื้อสื้อ”
ถ้าได้ตัวติดอยู่กับป้าสื้อสื้อทุกวันก็คงดีสิ เสียวเป่าคิดในใจ
เจียงสื้อสื้อลูบหัวของเด็กน้อย “ถ้าเสียวเป่าคิดถึงป้าสื้อสื้อ ก็โทรมาหาป้าได้นี่นา!”
“งั้นตอนเย็นไปกินข้าวที่บ้านป้าสื้อสื้อได้ไหมฮะ? เสียวเป่าอยากกินอาหารที่ป้าสื้อสื้อเป็นคนทำ”
ฟังจบ เจียงสื้อสื้อก็เงียบไป เธอเองก็อยากจะทำกับข้าวให้เสียวเป่ากิน แต่คุณหญิงจิ้น…ถ้ารู้ว่าเธอยังไปมาหาสู่จิ้นเฟิงเฉินกับเสียวเป่าอยู่ละก็…
เธอถอนหายใจ มองสายตารอคอยของเสียวเป่าแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
จิ้นเฟิงเฉินใช้เวลาเสี่ยววินาทีก็พอจะเดาได้ว่าเจียงสื้อสื้อกำลังคิดอะไร เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ตอนนี้เองที่รถขับมาถึงหน้าโรงเรียน เจียงสื้อสื้อรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“เสียวเป่าถึงโรงเรียนแล้วครับ รีบเข้าเรียนเถอะ! เป็นเด็กดีด้วยนะครับ!”
แม้ว่าลึกๆในใจของเสียวเป่าจะแอบผิดหวัง แต่ก็ยังรับปากอย่างว่าง่าย “ได้ฮะ คุณป้าสบายใจเถอะ! เสียวเป่าจะเป็นเด็กดี บ๊ายบายฮะป้าสื้อสื้อ บ๊ายบายฮะแด๊ดดี๊!”
“อื้อ บ๊ายบายครับ!”
หลังจากขับออกมาจากเขตโรงเรียน จิ้นเฟิงเฉินก็ขับไปส่งเจียงสื้อสื้อที่บริษัท หลังจากถึงหน้าบริษัทจิ่นซื่อ เจียงสื้อสื้อลงจากรถรวมถึงบอกลาจิ้นเฟิงเฉินพร้อมกับถือโอกาสพูดถึงเรื่องเมื่อคืน
“จิ้นเฟิงเฉิน ขอบคุณที่เมื่อคืนช่วยฉันไว้นะคะ”
“เมื่อคืนเธอขอบคุณฉันแล้วล่ะ” จิ้นเฟิงเฉินกล่าว
ฮะ? เจียงสื้อสื้องง ขอบคุณไปแล้ว ทำไมเธอจำไม่ได้ หรือว่าเป็นตอนที่เธอเมาหรอ?
เจียงสื้อสื้อเริ่มทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นอีก “หรอคะ? จริงสิ ตอนที่ฉันเมาคงไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้คุณใช่ไหมคะ?”
“ไม่เลย” จิ้นเฟิงเฉินมอง มุมปากยกยิ้มบางๆ
อันที่จริง ก็แค่ยั่วจนไฟตัณหารุกแล้วต่อมาเธอก็หลับไปเฉยๆ เล่นเอาเขาต้องอาบน้ำเย็นดับเพื่อดับไฟก็เท่านั้น
ได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็โล่งใจ แต่พอสบตาเขา มองรอยยิ้มบางๆบนใบหน้านั่น หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมา เจียงสื้อสื้อรีบบอกลาแล้วเดินเข้าบริษัททันที ดูแล้วเหมือนกับกำลังหนีเขาอยู่ก็ไม่ปาน
แววตาของจิ้นเฟิงเฉินมีแววสนุกสนาน เขาขับรถไปที่บริษัทอย่างอารมณ์ดี
……
เมื่อเข้ามาในบริษัท หน้าของเจียงสื้อสื้อยังแดงอยู่เล็กน้อย ทันทีที่พบกับซูซาน เธอก็รีบขอโทษเป็นพัลวัน “ขอโทษค่ะผู้จัดการซู! พอดีเมื่อคืนเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ฉันเลยออกมาก่อน”
จากที่ตั้งใจจะไปทำงาน แต่ใครจะคิดว่าดันไปเจอพวกตระกูลเจียง แถมยังเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก
“ไม่เป็นไรๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในงานเมื่อวานฉันพอจะได้ยินมาบ้างแล้วล่ะ ต้องโทษที่ฉันทิ้งเธอไว้ให้อยู่คนเดียว แต่ไม่เป็นอะไรก็แล้ว”
ไม่ต้องบอกว่าในใจของซูซานรู้สึกโล่งขนาดไหน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจียงสื้อสื้อ มีหวังพวกผู้บริหารคงได้เล่นงานเธอแหงๆ!
“ขอบคุณค่ะผู้จัดการซู”
จากนั้นทั้งคู่ก็คุยเรื่องงานต่ออีกนิดหน่อย เช่นว่าครั้งหน้าจะมีโอกาสไปพบกับเย่เจี่ยนหยางอีกเมื่อไหร่
……
ส่วนจิ้นเฟิงเฉินเมื่อมาถึงบริษัท ผู้ช่วยก็รีบรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาออกจากงานไปให้ฟัง
“ซีอีโอครับ เมื่อคืนเสิ่นซูหลันถูกตำรวจพาตัวขึ้นโรงพัก ส่วนคนอื่นๆในตระกูลเจียงก็ออกจากงานไป”
“อืม” จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า แล้วตอบกลับสั้นๆคำนึง แค่คิดถึงเรื่องเมื่อวานที่เกิดขึ้นกับเจียงสื้อสื้อ แววตาของเขาก็ค่อยๆนิ่งสนิท ก่อนจะพูดต่อ “ตำรวจทางโน้นปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมจัดการ อย่าให้ตระกูลเจียงใช้วิธีสกปรกเข้าแทรกแซงเด็ดขาด”
“รับทราบครับ ซีอีโอ”