ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1394 หยวนหยวนตายแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เจียงสื้อสื้อเดินเข้าไป ไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง
จิ้นเฟิงเฉินก้มลงมามองเธอ เงียบไปสักพักแล้วค่อยๆ เปิดปากพูด “ไม่มีอะไร ฉันไปที่บริษัทก่อนนะ คุณขึ้นไปพักผ่อนข้างบนเลย อย่าดื้อ” พูดจบ เขาก็หันหลังก้าวเท้าใหญ่เดินออกไป
มองดูแผ่นหลังของเขา เจียงสื้อสื้อก็ขมวดคิ้ว นัยน์ตาเผยให้เห็นถึงความกังวล
สภาพเขาดูเหมือนไม่ใช่คนที่ไม่เป็นอะไร
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า?
จิ้นเฟิงเฉินออกมาจากบ้าน ไม่ได้ไปที่โรงพยาบาลแต่กลับไปที่ฐานที่มั่น
เขาพึ่งมาถึง กู้เนี่ยนก็รีบมารายงาน “คุณชาย หลังจากที่ตำรวจทำการตรวจสอบเสร็จ ซ่างกวนหยวนเสียชีวิตแล้วจริงๆ ”
“ไม่มีอะไรผิดปกติ?” จิ้นเฟิงเฉินถาม
“ไม่มี”
“มีคนเสียชีวิตในสถานที่กักขังโดยไร้เหตุผลแบบนี้ ทางตำรวจก็คงต้องตรวจสอบรายละเอียดอย่างชัดเจนสิ” อิ้งเทียนพูด
กู้เนี่ยนขมวดคิ้ว คิดไปคิดมา “ถ้าอยากรู้เหตุผลของการตาย ก็มีแค่ทำกายวิภาค”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มแห้ง “กายวิภาค? คุณคิดว่าตระกูลซ่างกวนจะตกลงงั้นเหรอ?”
“แล้วต้องทำยังไง? ซ่างกวนหยวนตายไปอย่างน่าแปลกประหลาด ในนี้มันต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างแน่ๆ ” น้ำเสียงของกู้เนี่ยนดูมั่นใจมาก
อิ้งเทียนถอดหายใจ “พวกเราก็รู้ว่ามันมีปัญหา แต่ถอดฟ้องร้องแล้ว พวกเราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปขอให้ตำรวจหาผลสรุปที่พึงพอใจสักหน่อย และอีกอย่าง ทางตำรวจก็น่าจะปวดหัวไม่น้อย พวกเขาอยากสืบสวนสาเหตุการตายของซ่างกวนหยวนมากกว่าพวกเราเสียอีก”
กู้เนี่ยนหันไปมองทางจิ้นเฟิงเฉิน เห็นเพียงสีหน้าที่นิ่งสงบของเขา นัยน์ตาคู่สีดำที่ลึกจนมองไม่เห็นข้างล่าง ทำให้คนเดาไม่ออกว่าตอนนี้อารมณ์ของเขาเป็นยังไงบ้าง
“คุณชาย……” กู้เนี่ยนร้องเสียงออกมาอย่างระมัดระวัง
“ในเมื่อคนตายไปแล้ว งั้นก็ตายไปเถอะ” น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินไม่มีขึ้นมีลงเลยแม้แต่น้อย ราวกับกำลังคุยเรื่องที่ปกติธรรมดา
“แต่ว่าคุณชาย……” กู้เนี่ยนยังรู้สึกแปลกประหลาดอยู่ ถ้าไม่ตรวจสอบให้ชัดเจน เขากลัวว่าวันหลังจะมีปัญหาเกิดขึ้น
จิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไปพูดกับอิ้งเทียน “ส่งคนไปตามส่องทุกการเคลื่อนไหวการกระทำของตระกูลซ่างกวน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นรีบมารายงานฉันด่วน”
อิ้งเทียนก้มหน้า “ครับ”
กู้เนี่ยนโล่งใจ ที่แท้คุณชายก็มีแผนของตัวเอง
……
เจียงสื้อสื้อนั่งพิงอยู่บนหัวเตียง หันหน้าไปมองทางหน้าต่าง คิ้วบางขมวดติดกัน นัยน์ตาคู่ที่ใสสะอาดเต็มไปด้วยความกังวล
ทำไมเฟิงเฉินยังไม่กลับมา?
ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงนะ?
ทันใดนั้น ประตูห้องถูกคนที่อยู่ด้านนอกเปิดเข้ามา เงาของร่างสูงเดินเข้ามาข้างใน
ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เจียงสื้อสื้อหันไปมอง พอเห็นเป็นจิ้นเฟิงเฉินก็รีบลุกขึ้นมานั่งตัวตรง “เฟิงเฉิน”
เธอมองดูเขาเข้าใกล้ทีละก้าวทีละก้าว จากนั้นนั่งลงขอบเตียง
“ทำไมยังไม่นอน?” จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยน
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “นอนไม่หลับ?”
“เป็นอะไร?” จิ้นเฟิงเฉินยกมือขึ้นมาลูบแก้มเธอ และถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?” เจียงสื้อสื้อจ้องสบตาเข้าไปในนัยน์ตาของเขา
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเบาๆ “ดูเหมือนว่าฉันมีเรื่องอะไรก็ไม่สามารถปิดบังคุณได้”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” น้ำเสียงของเธอรีบร้อนอย่างเห็นได้ชัด
จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้าลง คิดไตร่ตรองไปสักพัก “……ซ่างกวนหยวนตายแล้ว”
“ตาย……ตายแล้ว?” หว่างคิ้วเจียงสื้อสื้อขมวดติดกัน “เธอถูกขังอยู่ในสถานที่กักขัง จะตายได้ยังไง?”
จิ้นเฟิงเฉินยกหน้าขึ้นมา “ตายแล้วจริงๆ ”
สีหน้าของเขาจริงจังมาก ไม่เหมือนพูดล้อเล่น
ดวงตาของเจียงสื้อสื้อถูกปกคลุมไปด้วยละอองน้ำตา
ถึงแม้เธอจะเกลียดซ่างกวนหยวน แต่พอได้ยินข่าวว่าเธอเสียชีวิต ในใจก็อดที่จะเศร้าไม่ได้
เมื่อก่อน พวกเธอสนิทกันมาก
เธอคิดว่าพวกเธอจะเป็นเพื่อนสนิทกันตลอดชีวิต
แต่ซ่างกวนหยวนเป็นคนทำร้ายทั้งหมดเองกับมือ
นึกถึงตรงนี้ น้ำตาก็ไหลลงมาก
“ไม่ต้องร้อง ร้องไห้เพื่อคนแบบนั้น มันไม่คุ้มค่า” จิ้นเฟิงเฉินใช้ปลายนิ้วค่อยๆ เช็ดน้ำตาบนแก้มเธอเบาๆ
เจียงสื้อสื้อดูดน้ำมูก “ใช่ ไม่คุ้มค่า ฉันแค่รู้สึกใจหาย คนที่เย่อหยิ่งแบบนั้นสุดท้ายกลับตายในสถานที่กักขัง ไม่รู้ว่าต้องบอกเธอน่าสงสารหรือน่าสมเพชกันแน่”
เธอก้มหัวลง เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ค่อยดี
จิ้นเฟิงเฉินกลัวเธอจะคิดมาก เลยกอดเธอไว้ ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้เส้นผมที่นุ่มนวลของเธอ น้ำเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นในหูของเธอ “ตอนที่หลอนเริ่มทำร้ายคุณอย่างไร้ขอบเขต ก็น่าจะรู้ว่าสักวันจะจบลงอย่างวันนี้”
เจียงสื้อสื้อเอาหน้าไปแนบชิดกับหน้าอกของเขา ได้ยินเสียงจังหวะหัวใจเต้นที่มั่นคงของเขา ความรู้สึกที่อัดอั้นในใจก็ค่อยๆ หายไป
“แต่พวกเราไม่ได้อยากให้เธอตาย”
เธอแค่อยากให้ซ่างกวนหยวนเข้าคุกไม่กี่ปี ใช้เวลาไม่กี่ปีนี้สำนึกผิดดีๆ
แต่ใครจะไปรู้ว่าคนตายไปแล้ว
“นี่เป็นผลกรรมของเธอ”
จิ้นเฟิงเฉินปล่อยตัวเธอ ทั้งสองมือข้างจับกุมไหล่เธอไว้ ก้มหัวมองเข้าไปในดวงตาของเธอ ยกยิ้มมุมปาก “อย่าคิดมากเลยนะ ถือซะว่าพวกเราไม่รู้จักเธอ ต่อจากนี้ไปบนโลกนี้จะไม่มีเธอคนนี้อีก”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “อือ”
……
ตอนที่ซ่างกวนเชียนได้ยินข่าว กำลังจะออกจากบ้านพอดี
“คุณซ่างกวน น้องสาวของคุณเสียชีวิตในห้องที่แจกจ่ายคำสั่งเมื่อคืน”
ข่าวนี้ราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน ระเบิดคาที่จนทำเอาสมองของซ่างกวนเชียนว่างเปล่าไปชั่วพริบตา อีกฝ่ายพูดอะไรมาอีก ไม่ได้ยินเลยสักนิด
หยวนหยวนตายแล้ว!
หยวนหยวนสุดที่รักของเขาตายแล้ว!
ซ่างกวนเชียนค่อยๆ วางโทรศัพท์บนมือลงมา มองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
หัวใจราวกับโดนคนกำบีบไว้แรงๆ
เจ็บ!
เจ็บปวดจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก
“เสี่ยวเชียน คุณยืนอยู่หน้าประตูทำไม?”
เสียงของนายท่านหญิงดังขึ้นมาจากด้านหลัง ซ่างกวนเชียนได้สติกลับมาในชั่วพริบตา เขาหันตัวไป
“คุณร้องไห้?” นายท่านหญิงเห็นตาของเขาแดงไปหมด
ซ่างกวนเชียนกำหมัดสองมือไว้แน่น หายใจเข้าลึกๆ ให้ตัวเองสงบลง แล้วค่อยเปิดปากพูด “คุณย่า เมื่อกี้ฉันได้รับสายจากตำรวจ……”
เขายังไม่ทันพูดจบ นายท่านหญิงก็รีบไถ่ถามก่อน “หยวนหยวนเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?”
เห็นสภาพของนายท่านหญิงรีบร้อน ในใจของซ่างกวนเชียนยิ่งเจ็บปวด เขาเงียบไปหลายวินาทีแล้วค่อยพูด “หยวนหยวนตายแล้ว”
นายท่านหญิงเบิกตากว้าง ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เสี่ยวเชียน คุณกำลังพูดอะไร? หยวนหยวนจะเป็นไปได้……”
“คุณย่า ทางตำรวจพึ่งส่งข่าวมาให้ฉันบอกว่าเมื่อคืนพบว่าหยวนหยวนล้มลงไปกับพื้นไม่ขยับตัวเลย พอไปตรวจดู คนไม่มีลมหายใจแล้ว”
“หยวนหยวนของฉัน……” นายท่านหญิงตะโกนร้องมาอย่างเสียงแหลม ร่างกายทั้งตัวล้มลงไปด้านหลังแนวตรง
“คุณย่า!”
ซ่างกวนเชียนรีบพุ่งเข้าไปอุ้มคนไว้
เห็นเพียงดวงตาของนายท่านหญิงปิดสนิท ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบากของกาลเวลาตอนนี้ขาวซีดราวกับกระดาษ
“พ่อบ้าน รีบโทรหา120”
พ่อบ้านได้ยินก็รีบกดโทรหา120ด่วน
นายท่านหญิงโดนส่งเข้าไปในโรงพยาบาล พอหลังจากที่ซ่างกวนเชียนมั่นใจว่านายท่านหญิงไม่เป็นไรแล้ว ก็รีบขับรถเดินทางไปเมืองจิ่น
ตอนเขาเห็นซ่างกวนหยวนที่ถูกปิดคลุมด้วยผ้าขาว ใต้เท้าสะดุด ถ้าไม่ใช่เพราะคนข้างตัวมาช่วยพยุงไว้กะทันหัน คงล้มลงไปฟาดกับพื้นแรงๆ ตั้งแต่แรกแล้ว
หยวนหยวน
เขาตะโกนเรียกออกมา พร้อมกับเดินเข้าไปทีละก้าว
ทั้งสองขาราวกับถูกเทไปด้วยตะกั่ว ทุกก้าวมันช่างหนักหน่วง
เขาเปิดผ้าขาวออกมา ตอนเห็นใบหน้าขาวซีดไม่มีเส้นเลือดของซ่างหวนหยวน ความโศกเศร้าราวกับมีของแหลมมาทิ่มแทงเสียดกระดูกพุ่งขึ้นเต็มหัวอกทันที
น้ำตาไหลออกมาจากเบ้าตาทันที
“หยวนหยวน” มือที่สั่นคลอลูบไล้บนหน้าของซ่างกวนเชียน เขาควบคุมความโศกเศร้าไม่ไหวจนร้องไห้ออกมา