ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 1443 ไม่ได้วางแผนจะไปคาดหวังอะไรจากเขา
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 1443 ไม่ได้วางแผนจะไปคาดหวังอะไรจากเขา
“พี่ชาย แย่แล้ว”
จิ้นเฟิงเหราผลักประตูห้องทำงานประธานบริษัท รีบเดินเข้าไปอย่างรีบร้อน
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นไป”เป็นอะไรไป?”
“ซินหยู่ถูกคนซื้อไปแล้ว!”
“อะไร?” จิ้นเฟิงเฉินนึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป
“มีคนแย่งซื้อซินหยู่ไปก่อนก้าวหนึ่งเสียแล้ว” จิ้นเฟิงเหราพูดย้ำออกไปใหม่อีกครั้ง
หัวคิ้วของจิ้นเฟิงเฉินได้ขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นมาทันที”ใคร?”
“ฉันเคยถามไปแล้ว แต่คนที่รับผิดชอบของซินหยู่ก็ปิดปากเงียบ แต่ดูจากสีหน้าของเขาแล้วก็คงจะเป็นคู่แข่งของพวกเรา”
ตอนนี้คนที่ได้พุ่งเป้ามาที่จิ้นกรุ๊ปจากทุกหนทางก็มีเพียงแค่พวกซ่างกวนเชียนกับคริสมินเท่านั้น
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเย็นออกมา”เพียงแค่บริษัทเล็กๆบริษัทหนึ่งเท่านั้นเอง”
“แต่ว่านะพี่ชาย ซินหยู่มีการวิจัยเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุด ตอนนี้มันได้ตกไปอยู่ในมือของซ่างกวนเชียนกับคริสมิน”
จิ้นเฟิงเหราเพียงแค่รู้สึกว่ามีความคับแค้นใจสุมอยู่ในอก อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จุกอยู่จนเกิดความหวาดหวั่นไปหมด
กับซินหยู่แล้ว จิ้นกรุ๊ปนั้นเป็นบริษัทที่จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ตอนนี้มาเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นมา ชิงซื้อไปก่อน ได้สร้างความวุ่นวายให้กับแผนในตอนนี้ของจิ้นกรุ๊ปไปหมด
“ไม่เป็นไร” จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย”เชื่อมั่นในนักวิจัยของพวกเราเอง พวกเขาเองก็ยอดเยี่ยมมากเหมือนกัน เชื่อว่าในการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์มันก็จะต้องมีนวัตกรรมที่ก้าวหน้าใหม่ๆมา”
“แน่นอนว่าฉันจะต้องเชื่อนักวิจัยของพวกเราอยู่แล้ว แต่ก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกไม่ยินยอม” จิ้นเฟิงเหรายังคิดว่าไม่สามารถกล้ำกลืนความโกรธลงไปได้เลย”ตกลงแล้วพวกเขารู้ข่าวว่าพวกเราต้องการจะซื้อซินหยู่มาจากที่ไหนกัน?”
“คนที่รับผิดชอบซินหยู่ไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์อะไรนัก”
คำพูดเพียงประโยคเดียวของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้อธิบายทุกอย่างออกมาจนหมด
“เชี้ย!” จิ้นเฟิงเหราอดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบออกมา”เขาได้ตอบรับและเซ็นสัญญาของพวกเราไปเรียบร้อยแล้ว แล้วหันหน้าไปขายบริษัทให้คนอื่นได้ยังไงกันล่ะ?”
“ไม่มีใครไปมีปัญหากับเงินหรอก” จิ้นเฟิงเฉินปิดเอกสารในมือลงไป เลิกตาขึ้นมองจิ้นเฟิงเหราที่มีใบหน้าโกรธจัดออกมา พลางแสยะริมฝีปากออกมา”เอาความโกรธในตอนนี้ของนายไปเปลี่ยนให้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการจัดการกับพวกซ่างกวนเชียนดีกว่า”
จิ้นเฟิงเหราส่งเสียง”เหอะ” อย่างเยือกเย็นออกมา”พี่ชาย พี่วางใจเถอะ เรื่องจัดการกับพวกเขา ฉันจะรักษาความกระตือรือร้นที่ทะยานสูงอย่างนี้ไปให้ตลอด”
หางคิ้วของจิ้นเฟิงเฉินเลิกขึ้น”งั้นก็ดี”
……
“คุณว่าอะไรนะ? ซินหยู่ถูกคนอื่นซื้อไปแล้ว?!”
ซ่างกวนเชียนตื่นตัวจนลุกยืนขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างมองจ้องคริสมิน
คริสมินพยักหน้าออกมา”อืม”
“ดีมากเลย! มันเยี่ยมไปเลย!” ซ่างกวนเชียนมีความสุขจนเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดังออกมา”จิ้นเฟิงเฉินเอ๋ยจิ้นเฟิงเฉิน นายก็มีวันนี้เหมือนกันนะ!”
เมื่อเทียบกับความตื่นตัวของเขาแล้ว คริสมินเห็นได้ชัดว่าสงบลงมากเลย ถึงขนาดที่ภายในจิตใจยังมีความกังวลอยู่บ้าง
ซ่างกวนเชียนดีใจเสร็จแล้ว ก็ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขา หัวคิ้วได้ขมวดเข้าหากัน”เป็นอะไรไปหรือเปล่า?”
“ไม่รู้ว่าบริษัทไหนซื้อซินหยู่ไป” คริสมินขมวดคิ้วออกมา”ตอนนี้ไม่มีข้อมูลอะไรหลุดออกมาเลย”
บริษัทนี้หลบอยู่ในมุมมืด มักจะทำให้ในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
ถ้าเหมือนกับพวกเขา ที่ถือว่าจิ้นกรุ๊ปเป็นศัตรูนั่นมันก็ยังถือว่าดีอยู่ เพราะถึงยังไงศัตรูของศัตรูก็คือมิตร
แต่ถ้าไม่ใช่ พวกเขาก็เพิ่มศัตรูมาคนหนึ่ง
ซ่างกวนเชียนอ่านความคิดของเขาออก พลางหัวเราะเยาะออกเสียงออกมา”คริส นายฉลาดขนาดนี้มองไม่ออกเลยเหรอ? บริษัทนั้นชิงซื้อซินหยู่ไปก่อน มันไม่ได้แสดงออกมาว่าจงใจต่อต้านจิ้นกรุ๊ปหรือไง?”
“เรื่องนี้แน่นอนว่าฉันจะต้องมองออกอยู่แล้ว” คริสมินแสยะยิ้มเย็นออกมา”ฉันก็แค่กังวลว่าเรื่องมันจะไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เห็น บางทีนี่อาจจะเป็นฝีมือของจิ้นเฟิงเฉินที่ทำการเล่นลูกไม้ปิดหูปิดตาคนอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์บางอย่าง? แท้ที่จริงการเข้าซื้อก็เป็นแผนของเขาด้วย”
“ฉันไม่ปฏิเสธเลยว่าแผนการของจิ้นเฟิงเฉินมันล้ำลึกมาก แต่เขาไม่มีความจำเป็นจะต้องทำอย่างนี้เลยสักนิด” ซ่างกวนเชียนพูดวิเคราะห์ออกมา”เดิมทีข่าวที่จิ้นกรุ๊ปต้องการจะซื้อซินหยู่ได้เก็บซ่อนเอาไว้ตลอดมา ถ้าเขามีความตั้งใจจะเข้าจัดการบริษัทอื่น ก็ไม่จำเป็นจะต้องปกปิดเลยสักนิด”
“ก็ลองดูก่อนสักหน่อยเถอะ ถ้าเป็นแผนที่จิ้นเฟิงเฉินวางแผนเอาไว้ ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะต้องเปิดเผยออกมา และถ้าไม่ใช่เขา อย่างนั้นแล้วพวกเราก็จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าตกลงแล้วใครมันเป็นคนซื้อซินหยู่ไปกันแน่!”
“ฉันจะส่งคนไปตรวจสอบให้ชัดเจน”
ซ่างกวนเชียนคิดว่ายังต้องระมัดระวังเอาไว้สักหน่อยก็ดี จะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้มันชัดเจน อย่างนี้แล้วภายในใจของพวกเขาถึงจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้
“ทางJRมีข่าวอะไรมาบ้างหรือเปล่า?” คริสมินได้เปลี่ยนประเด็นออกมาทันที พลางเอ่ยถามออกมา
พอเอ่ยถึงJRขึ้นมา สีหน้าของซ่างกวนเชียนมืดครึ้มออกมาทันที”หลี่ซียังไม่ยอมเจอหน้าฉันเลย”
คริสมินงงงวยออกมา”คุณว่าที่ในประเทศJRยังไม่มั่นคง หลี่ซีวางมาดเสียสูงขนาดนั้น ไม่อยากจะร่วมงานกับคนอื่นเขา ต้องการจะลุยเดี่ยวใช่มั้ย?”
ซ่างกวนเชียนส่ายหน้าออกมา”ฉันไม่ได้คิดว่าเธอจะวางมาดสูงส่ง แต่เธอยังเฝ้าสังเกตอยู่ เธอยังไม่รู้เลยว่าบริษัทไหนถึงจะควรค่าให้ร่วมงานด้วย”
“ไม่รู้?” คริสมินเหมือนกับได้ยินเรื่องตลกก็ไม่ปาน จึงได้หลุดหัวเราะออกมา หัวเราะออกมาจนมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยการเสียดสี”ขอเพียงแค่เธอเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานคนหนึ่ง อย่างนั้นแล้วก่อนกลับมาประเทศก็ต้องตรวจสอบเรื่องทั้งหมดให้ดีก่อน ไม่ต้องการให้ตอนนี้ยังคงต้องมาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่หรอก”
“เธอจะต้องมีความคิดของตัวเอง” ไม่รู้ว่าทำไม ซ่างกวนเชียนถึงได้ปกป้องหลี่ซีออกไปโดยไม่รู้ตัว
เขาปกป้องคนคนหนึ่งได้ขนาดนี้ จะเป็นตอนที่หยวนหยวนยังมีชีวิตอยู่
คริสมินมองเห็นสีหน้าเศร้าเสียใจที่เขาเผยออกมา คาดเดาได้ว่าเขาคิดถึงซ่างกวนหยวนขึ้นมาอีกแล้ว จึงได้เข้าไปตบไหล่ของเขาไปเบาๆ พลางเอ่ยปลอบออกไป”คุณวางใจเถอะ จิ้นเฟิงเฉินพวกเขาจะต้องชดใช้ให้กับการตายของน้องสาวของคุณ”
ซ่างกวนเชียนกำหมัดแน่น กัดกรามแน่น ในตาได้แผ่ความเกลียดชังที่เข้มข้นออกมา”ฉันจะต้องไม่มีทางให้จิ้นเฟิงเฉินมีชีวิตที่ดี”
หยวนหยวน พี่จะต้องแก้แค้นให้เธอ
“พวกเราจะต้องคิดหาวิธีร่วมงานกับJR” ซ่างกวนเชียนหันหน้าไปมองคริสมิน ด้วยใบหน้าที่แน่วแน่
ในปัจจุบันนี้พวกเขาได้สูญเสียคู่ค้าทั้งสองไปเรียบร้อยแล้ว พลังความยิ่งใหญ่ได้ลดต่ำลงไปครึ่งหนึ่งทันที ถ้าสามารถดึงJRเข้ามาเป็นพวกได้ เรื่องที่จิ้นกรุ๊ปนั่นจะตกต่ำลงมันก็เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นอีกไม่นานแล้ว
คริสมินพยักหน้าออกมา”ได้ ฉันจะติดต่อกับJRเอง”
……
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ห้องทำงานผู้บริหารJRกรุ๊ป
หลี่ซีกับเจี่ยงฉือกำลังลิ้มรสชัยชนะครั้งแรกอยู่
การเข้าซื้อซินหยู่เป็นไปอย่างราบรื่น เป็นก้าวแรกของการโจมตีจิ้นกรุ๊ปของพวกเขา
ต่อจากนั้น JRก็ค่อยๆลุกล้ำตลาดที่จิ้นกรุ๊ปมีอยู่ไปทีละนิดๆ
จู่ๆเจี่ยงฉือก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมา พลางเอ่ยออกมา”ใช่แล้ว พี่ชายของคุณยังไม่ยอมแพ้ ส่งแบบร่างหนังสือสัญญาหลายฉบับมาให้พวกเรา คุณอยากจะลองพิจารณาดูสักหน่อยหรือเปล่า?”
หลี่ซีดื่มไวน์แดง”ตอนนี้ยังไม่อยากจะพิจารณาดู”
ตอนนี้ในช่วงเวลานี้ เธอยังไม่อยากจะเจอหน้ากับซ่างกวนเชียน รอจิ้นกรุ๊ปตอบรับสัญญาแล้ว บางทีเธออาจจะเจอเขาสักหน่อย
“ไม่พิจารณาดูจริงๆ?” เจี่ยงฉือเลิกคิ้วออกมา
หลี่ซีพยักหน้าออกมา”ถ้าฉันจะพิจารณา ก็คงพิจารณาไปตั้งนานแล้ว ไม่มีทางจะต้องรอมาจนถึงทุกวันนี้หรอก”
“ฉันว่าพี่ชายของคุณไม่ยอมแพ้ง่ายๆขนาดนั้นหรอก” จู่ๆเจี่ยงฉือก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้ชายคนนี้ขึ้นมาบ้าง”เขารักคุณมากจริงๆ เพื่อที่จะสามารถแก้แค้นให้คุณได้ จึงทำเรื่องมาไม่น้อยเลย เพียงแต่เรื่องที่เขาทำสำหรับจิ้นเฟิงเฉินแล้วมันไม่เจ็บไม่คันอะไรเลย”
หลี่ซีหลุบตาลงมองไวน์ในมือ เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง”เดิมทีฉันก็ไม่ได้วางแผนที่จะคาดหวังกับเขาอยู่แล้ว”
“รอแก้ไขปัญหาเรื่องจิ้นกรุ๊ปแล้ว คุณยังต้องกู้สถานะซ่างกวนหยวนของคุณคืนมา ไม่อย่างนั้นแล้วพี่ชายของคุณก็จะอยู่ในความรู้สึกผิดเจ็บแค้นกับสิ่งที่ได้ทำไปชั่วชีวิตเลย” เจี่ยงฉือพูดออกมา
หลี่ซีเอาแก้วไวน์วางลงไปบนโต๊ะน้ำชา เลิกตาขึ้นมองไปทางท้องฟ้าที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างที่ดิ่งยาวจรดพื้น บนใบหน้าที่ได้แต่งแต้มมาอย่างงดงามไม่มีสีหน้าอะไรออกมา”ค่อยดูกันอีกทีเถอะ”
เจี่ยงฉือมองเธอไปแวบหนึ่ง รู้ชัดแล้วว่าเธอมีแผนการของตัวเอง จึงไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก