ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 152 ผลักไสไล่ส่ง
บทที่ 152 ผลักไสไล่ส่ง
หลังจากที่เจียงสื้อสื้อออกจากโรงพยาบาล เธอก็ยังคงมีอาการเหม่อลอยเล็กน้อย
ภาพเหตุการณ์เมื่อกี้ยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด เจียงสื้อสื้อเเค่นยิ้มเย้ยหยันอย่างสมเพชตัวเอง ที่ผ่านมาเธอคิดอยู่ตลอดว่าระหว่างเธอกับจิ้นเฟิงเฉินนั้นไม่มีวันเป็นไปได้ ทว่าตอนนี้ภายในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจมากเหลือเกิน
เจียงสื้อสื้อเพิ่งจะรู้ตัว ว่าแท้จริงแล้วตัวเองนั้นคาดหวังมาโดยตลอด เธอคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินและเสี่ยวเป่าต่างก็ชอบเธอ ตัวเธอเองก็ไม่เคยหยุดพยายาม เพื่อที่ว่าไม่แน่สักวันคนในตระกูลจิ้นก็อาจจะยอมรับในตัวเธอก็ได้ และระหว่างพวกเขาสองคนก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว
ทว่าตอนนี้……
เขากับซูชิงหยิงกลับคิดจะมีลูกด้วยกัน? เขาเป็นฝ่ายเต็มใจเอง? หรือเป็นเพราะตระกูลจิ้นบีบบังคับเขากันแน่?
แต่ไม่ว่าจะยังไง ระหว่างเธอกับจิ้นเฟิงเฉินก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี
เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึก ดูเหมือนว่าเธอจะต้องตัดใจแล้วจริงๆสินะ พลางตอกย้ำตัวเองอยู่ซ้ำๆ ว่าระหว่างพวกเขามันเป็นไปไม่ได้หรอก
คิดได้ดังนั้นก็ถอนหายใจ พลันจัดการอารมณ์ตัวเองอยู่สักพักก่อนจะกลับไปที่บ้าน
เพราะอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานานไปหน่อย หลังจากที่เสี่ยวเป่าเลิกเรียนก็มาหาเธอที่นี่ทีเดียว เด็กน้อยยืนรออยู่ตรงหน้าประตูเนิ่นนาน เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อแล้วก็ตาเป็นประกายทันที พลันเอ่ยเสียงหวานเจื้อยแจ้วว่า:”คุณน้าสื้อสื้อ! ทำไมคุณน้ากลับมาช้าจังครับ? รู้ไหมว่าเสี่ยวเป่ารอนานมากเลย โทรไปคุณน้าก็ไม่รับสาย ผมก็นึกว่าคุณน้าจะไม่กลับมาอีกซะแล้ว”
มือถือของเจียงสื้อสื้อเเบตฯหมด เมื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย
“ขอโทษนะเสี่ยวเป่า พอดีคุณน้ามีธุระนิดหน่อยน่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ คุณน้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วครับ”
เจียงสื้อสื้อยิ้มขำอย่างเอ็นดู ก่อนจะอุ้มเสี่ยวเป่าเข้าไปในบ้านเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
เธอวางเสี่ยวเป่าลงบนโซฟา พลันเข้าไปทำอาหารต่อที่ห้องครัว
ทีแรกเสี่ยวเป่าอาสาจะช่วย แต่กลับถูกเจียงสื้อสื้อปฏิเสธ
เสี่ยวเป่าจึงได้แต่นั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น สักพักเสียงกริ่งออดก็ดังขึ้น เจียงสื้อสื้อเดาว่าน่าจะเป็นจิ้นเฟิงเฉินที่มา ในหัวสมองพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล เเววตาเธอสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับเสี่ยวเป่าที่อยู่ในห้องนั่งเล่นว่า:”เสี่ยวเป่า น้ากำลังหั่นผักอยู่ ละมือไปไหนไม่ได้ หนูไปเปิดประตูให้น้าหน่อยได้ไหมจ๊ะ?”
“ครับคุณน้า” เสี่ยวเป่าลุกเดินไปเปิดประตูให้อย่างว่าง่าย
เมื่อเห็นจิ้นเฟิงเฉิน เด็กน้อยยังคงติดใจเรื่องราวในคืนวันนั้น เสี่ยวเป่าทำหน้าเชิดใส่คนโตกว่า พลันหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นโดยไม่แม้แต่จะทักทาย
จิ้นเฟิงเฉินเมื่อเห็นท่าทางเง้างอนของลูกชายแล้วก็ได้แต่ยิ้มอ่อนอย่างจนใจ เขาปิดประตูก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว เจียงสื้อสื้อกำลังหั่นผัก เมื่อเห็นว่าจิ้นเฟิงเฉินมาก็พลันเผยสีหน้าอึดอัดเหมือนทำตัวไม่ถูก ทว่าเพียงครู่เดียวก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม ด้วยความที่เมื่อกี้เผลอสะเพร่าเล็กน้อย นิ้วเธอจึงบาดโดนมีดโดยไม่ได้ตั้งใจ
เลือดสีแดงสดพลันไหลออกมาจากบาดแผลเล็ก จิ้นเฟิงเฉินเห็นแล้วรีบคว้ามือเธอมาดูพลางเอ่ยว่า:”ทำไมไม่ระวังเลย เจ็บมากไหม?”
เจียงสื้อสื้อเผยแววตื่นตกใจเล็กน้อย ก่อนจะชักมือกลับแล้วตอบว่า:”ไม่เป็นไร แค่แผลเล็กน่ะ ไม่เจ็บหรอก”
จิ้นเฟิงเฉินนึกว่าเป็นเพราะเธอเขินอาย จึงไม่ได้คิดอะไรมากนัก
หลังจากที่เช็ดแอลกอฮอล์ปิดปลาสเตอร์แผลเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็กะจะหั่นผักต่อ เเต่กลับถูกจิ้นเฟิงเฉินห้ามไว้เสียก่อน
“ฉันทำเอง”
พูดเสร็จเขาก็ดึงแขนเสื้อขึ้น พลันหั่นผักที่เจียงสื้อสื้อทำเหลือไว้เมื่อกี้นี้
เจียงสื้อสื้อเห็นแล้วกะจะปฏิเสธ ทว่ากลับไม่รู้ว่าต้องปริปากเอ่ยยังไง จึงได้แต่ยืนดูอยู่นิ่งๆทั้งอย่างนั้น
ไม่ใช่แค่หั่นผัก แม้แต่งานที่เหลือจิ้นเฟิงเฉินก็เป็นคนทำต่อเองทั้งหมด ทั้งๆที่เมื่อหลายเดือนก่อนผู้ชายคนนี้ยังไม่รู้เรื่องในครัวเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้กลับดูเชี่ยวชาญชำนาญซะงั้น
เจียงสื้อสื้อเหม่อมองภาพตรงหน้า เขากำลังจะมีลูกกับซูชิงหยิงแล้วแท้ๆ แต่แล้วทำไมถึงยังมาหาเธออีกล่ะ เจียงสื้อสื้อไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าจิ้นเฟิงเฉินกำลังคิดอะไรอยู่
เธอได้แต่พูดย้ำกับตัวเองอยู่ซ้ำๆ ว่าอย่าคาดหวังอะไรอีกเด็ดขาด
หลังจากที่ทำอาหารเสร็จ ทั้งสามคนก็นั่งล้อมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน เสี่ยวเปากับจิ้นเฟิงเฉินก็คืนดีกันในระหว่างนั้น
จากนั้นจิ้นเฟิงเฉินก็ช่วยเจียงสื้อสื้อเก็บจาน แถมยังอาสาล้างเองคนเดียวทุกอย่าง
ในห้องครัว ระหว่างที่เสี่ยวเป่านั่งเล่นอยู่ด้านนอก จู่ๆเจียงสื้อสื้อก็เปรยขึ้นว่า:”จิ้นเฟิงเฉิน ถ้าสมมติในอนาคตคุณเกิดมีลูกอีกคนจริงๆ คุณจะลำเอียงไม่ได้นะ เสี่ยวเป่าเป็นเด็กที่อ่อนไหวง่าย เมื่อวานยังพูดกับฉันอยู่เลยว่าถ้าคุณแต่งงานกับคนอื่นแล้วก็จะไม่รักเขาอีก”
สิ้นเสียง จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้ว พลางเผยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
หรือว่าเขาจะพลาดอะไรไปอีกแล้วงั้นเหรอ?หลังจากที่ได้นั่งกินข้าวด้วยกัน เขาก็รู้สึกได้ลางๆว่าเจียงสื้อสื้อมีท่าทีผิดแปลกไป
จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยถามว่า:”เธอเข้าใจอะไรผิดไปอีกหรือเปล่า?”
แววตาของเจียงสื้อสื้อสั่นไหวเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเอ่ยตอบหน้ายิ้มๆว่า:”ไม่ได้เข้าใจอะไรผิดหรอก ก็แค่บอกคุณไว้ก่อนน่ะ เพราะเสี่ยวเป่าเขายังเด็ก แถมยังอารมณ์อ่อนไหวง่ายอีกต่างหาก ถ้าโตไปแล้วระหว่างพวกคุณมีเรื่องผิดใจกันก็คงจะไม่ดี”
จิ้นเฟิงเฉินจดจ้องเจียงสื้อสื้อ ก่อนจะเอ่ยตอบว่า:”เรื่องนั้นเธอไม่ต้องเป็นห่วง เพราะฉันเชื่อว่าถึงฉันจะแต่งงานกับคนอื่นแล้วมีลูกอีกกี่คน ฉันก็จะยังคงรักและดีกับเสี่ยวเป่าไม่เปลี่ยนแปลง”
คนอื่นที่จิ้นเฟิงเฉินพูดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจียงสื้อสื้อ ความหมายแฝงในคำพูดนั้นก็คือ แม้ว่าในอนาคตพวกเขาจะมีลูกด้วยกันอีกกี่คน เสี่ยวเป่าก็มีแต่จะได้รับความรักจากพวกเขาเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
แต่พอเจียงสื้อสื้อเป็นคนฟังก็กลับเข้าใจผิดเป็นซูชิงหลิงซะงั้น
จู่ๆเธอก็พลันรู้สึกเหมือนมีหินหนักอึ้งหล่นทับอยู่ในอก พลางคิดว่า แล้วซูชิงหยิงล่ะ? เธอจะดีกับเสี่ยวเป่าหรือเปล่า? ถ้าจิ้นเฟิงเฉินไม่อยู่เสี่ยวเป่าจะถูกเธอรังแกไหม?
ถ้าเป็นซูชิงหยิงก็คงไม่หรอก เพราะเธอออกจะรักจิ้นเฟิงเฉินมากขนาดนั้น
เจียงสื้อสื้อพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกในก้นบึ้งของหัวใจ พลันเอ่ยยิ้มๆว่า:”งั้นก็ดีแล้วล่ะ” สักพักเธอก็เอ่ยถามต่อว่า:”แล้ววันนี้คุณจะพาเสี่ยวเป่ากลับไปไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินยังไม่ทันได้ตอบ เสี่ยวเป่าก็พุ่งตัวเข้ามากอดขาเจียงสื้อสื้อแล้วเอ่ยว่า:”ไม่เอา เสี่ยวเป่าไม่กลับ เสี่ยวเป่าจะอยู่กับคุณน้าสื้อสื้อที่นี่”
จิ้นเฟิงเฉินเมื่อเห็นท่าทางของลูกชายแล้วก็ยกยิ้มมุมปากอย่างจนใจ ก่อนจะเอ่ยตอบว่า:”งั้นก็ไม่กลับแล้วล่ะ”
เจียงสื้อสื้อเองก็ไม่ได้คัดค้านอะไรอยู่แล้ว
“งั้นเสี่ยวเป่าก็นอนกับน้าที่นี่เนอะ แล้วคุณล่ะ จะกลับเมื่อไหร่?”
สิ้นเสียง จิ้นเฟิงเฉินก็พลันชะงักกึก นี่มันผลักไสไล่ส่งกันชัดๆ
เสี่ยวเป่ามองแด็ดดี้ตัวเองอย่างเห็นใจ ก่อนจะเอ่ยว่า:”คุณน้า คืนนี้ให้แด็ดดี้นอนที่โซฟาเถอะนะ ดึกขนาดนี้แล้ว…….”
เสี่ยวเป่าอยากให้แด็ดดี้ได้อยู่กับคุณน้านานกว่านี้อีกหน่อย
“ไม่ได้หรอก ถ้าแด็ดดี้หนูปวดตัวขึ้นมาจะทำยังไง เคยนอนโซฟาที่ไหนกันล่ะ” เจียงสื้อสื้อตอบ
จิ้นเฟิงเฉินจึงต้องกลับไปอย่างไม่มีทางเลือก
ิเจียงสื้อสื้อคร้านจะไปส่งเขา ก่อนจะอุ้มเสี่ยวเป่าเข้าไปในห้องอาบน้ำ เป็นอีกครั้งที่จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกได้ถึงการถูกปฏิบัติที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวของเขากับลูกชาย ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่ค่อยจะพอใจมากนัก
ขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เจียงสื้อสื้อกำลังโกรธเขาอยู่แน่ๆ แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จึงทำได้เพียงเเค่ปล่อยเลยตามเลย