ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 154 เหลือทางรอด
บทที่ 154 เหลือทางรอด
บทสนทนาถูกดำเนินไปอย่างราบรื่น
ซูชิงหยิงเอ่ยอธิบายงานเกี่ยวกับการประมูลซื้อขายที่ดินในครั้งนี้ เดิมทีตระกูลซูมีทางเลือกอื่นอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เห็นว่าหลานซื่อกรุ๊ปจะใช้ที่ดินผืนนี้สร้างอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตระกูลซูจึงคิดว่าโครงการนี้น่าจะมีศักยภาพที่จะถูกพัฒนาไปได้อีกไกล และตัดสินใจจะให้โอกาสกับหลานซื่อกรุ๊ป
หลานซือเฉินเอ่ยเสียงหนักแน่นว่า:”หลานซื่อกรุ๊ปของเราจะทำให้ดีที่สุดและเต็มกำลังความสามารถอย่างแน่นอนครับ”
“อืม ฉันเชื่อในความสามารถของท่านประธานหลานอยู่แล้วค่ะ” ซูชิงหยิงเอ่ยตอบ
“คุณซู หวังว่าการได้ร่วมงานในครั้งนี้จะผ่านไปด้วยดีนะครับ”
ซูชิงหยิงเผยยิ้ม:”เช่นกันค่ะ ทางเราก็จะรีบเตรียมเอกสารสัญญาให้เร็วที่สุด แล้วจะส่งไปให้ที่บริษัทนะคะ”
“งั้นก็รบกวนแล้วนะครับ”
หลังจากคุยเรื่องงานและทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซูชิงหยิงก็หยิบเอาการ์ดใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะยื่นให้เจียงนวลนวลแล้วเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า:”คุณเจียง นี่เป็นบัตรวีไอพีของชมรมสุขภาพความงามSK ถ้าคุณไปแล้วก็แจ้งชื่อฉันขอส่วนลดกับทางร้านได้เลยค่ะ คนท้องก็ไปทำทรีตเมนต์บำรุงผิวเป็นครั้งคราวได้นะคะ”
เจียงนวลนวลเผยท่าทางดีใจ ก่อนจะยื่นมือรับบัตรมาแล้วเอ่ยยิ้มๆว่า:”ขอบคุณนะคะคุณซู ไว้คราวหลังไปด้วยกันไหมคะ?”
“ได้สิคะ ดีเลย!”
ซูชิงหยิงตอบตกลง เป้าหมายของเธอก็คือพยายามตีสนิทกับตระกูลเจียงหรือตระกูลหลานเข้าไว้ เพื่อจะได้รู้เรื่องของเจียงสื้อสื้อมากกว่านี้ เมื่อทำตามแผนที่วางไว้ได้แล้ว ซูชิงหยิงก็ขอตัวกลับ
หลังออกมาจากร้าน หญิงสาวก็โทรถามผู้ช่วยว่าสืบค้นเรื่องที่เจียงสื้อสื้อหายตัวไปเมื่อหกปีก่อนได้ถึงไหนแล้ว
ปลายสายตอบกลับมาว่า:”ขออภัยนะคะคุณหนู เรื่องเมื่อหกปีก่อนที่คุณเจียงหายตัวไปเหมือนเป็นปริศนาลับเลย ฉันเองก็ยังไม่เจอเบาะแสที่สำคัญอะไรเลยค่ะ”
ซูชิงหยิงฟังแล้วขมวดคิ้ว เรื่องอะไรกันทำไมถึงได้สืบยากสืบเย็นขนาดนี้ พลันหันไปมองร้านอาหารครูหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าตระกูลเจียงจะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือเปล่า ดูเหมือนว่าเธอต้องหาเวลาไปเยี่ยมเยือนเองซะแล้ว
……..
อีกด้านภายในร้านอาหาร เจียงนวลนวลมองบัตรวีไอพีในมือพลางเอ่ยเสียงลิงโลดว่า:”ดีจัง ถ้าในอนาคตเราตีสนิทกับตระกูลซูได้สำเร็จแล้วล่ะก็ งั้นโอกาสทองของสองตระกูลเราก็จะมาถึงแล้ว”
เจียงนวลนวลรู้สึกว่าซูชิงหยิงไม่ใช่แค่อยากจะร่วมงานกับพวกเขา แต่ที่อีกฝ่ายให้บัตรวีไอพีใบนี้กับเธอก็เพราะอยากจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาด้วย
ฐานะของตระกูลซูในเมืองจิ่นและอำนาจที่พวกเขามีอยู่ในมือก็ไม่ใช่น้อยๆเลย ถ้าได้ร่วมงานกับพวกเขา ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหลานซื่ออีกต่อไปที่จะฟื้นฟูตัวเองกลับไปเหมือนอย่างเก่า
แน่นอนว่าฐานะและอำนาจของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“พี่ซือเฉิน พี่ว่าฉันนัดคุณซูให้ออกมาอีกทีตอนไหนดี? เขาคงไม่ปฏิเสธฉันหรอกใช่ไหม”
เจียงนวลนวลยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกดีใจ ต่างจากหลานซือเฉินที่ค่อนข้างรอบคอบและระมัดระวัง เขาเอ่ยหน้าคิ้วขมวดว่า:”ไม่ใช่ว่าซูชิงหยิงจะแต่งงานกับจิ้นเฟิงเฉินแล้วหรอกเหรอ? ตามหลักแล้วซูชิงหยิงไม่น่าจะร่วมงานกับเราเลยด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น ไม่แน่เธออาจจะมีเป้าหมายแฝงอะไรก็ได้ อย่าเพิ่งดีใจเร็วไปจะดีกว่า จะเจอกับเธอก็ยังคงต้องระมัดระวังไว้”
เพราะตอนงานวันเกิดของเสี่ยวเป่าเมื่อครั้งก่อน ตระกูลหลานถึงกับโดนตระกูลจิ้นไล่ออกจากที่นั่นต่อหน้าแขกเหรื่อในงาน คนของตระกูลจิ้นต่างก็เกลียดคนของตระกูลหลานเข้าไส้ แล้วทำไมตระกูลซูถึงยังเลือกที่จะร่วมงานกับพวกเขากัน?
เจียงนวลนวลฟังแล้วยิ้มเสียงขำ
“คุณซูเธอจะไปมีเป้าหมายแฝงอะไรได้ยังไงล่ะคะ ถึงมีก็คงไม่พ้นเรื่องของเจียงสื้อสื้อแน่”
เจียงนวลนวลเข้าใจความคิดของคนที่เป็นผู้หญิงด้วยกันอยู่แล้ว ซูชิงหยิงชอบจิ้นเฟิงเฉิน แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับชอบเจียงสื้อสื้อ ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นมีใครบ้างที่ไม่อยากกำจัดยัยนั่นทิ้ง!
“เจียงสื้อสื้อคือศัตรูของหัวใจของเธอ ก็ไม่แปลกที่ซูชิงหยิงจะเห็นยัยนั่นขัดหูขัดตา เดาว่าเธอก็คงอยากจะได้ข้อมูลอะไรไปจากเรานั่นแหละ ถ้าช่วยเธอได้สักเล็กน้อยฉันก็ไม่เกี่ยงเหมือนกัน”
เพราะอย่างน้อยถ้ามันสามารถทำให้ยัยเจียงสื้อสื้อนั่นซวยได้งั้นเธอก็ยินดี ที่สำคัญคือหากเจียงสื้อสื้อได้แต่งงานกับจิ้นเฟิงเฉินแล้วมีตระกูลจิ้นคอยคุ้มกะลาหัวไว้ งั้นเธอจะคิดบัญชีกับยัยนั่นได้ยังไง เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องลงเรือลำเดียวกันกับซูชิงหยิง ไม่ใช่แค่ตระกูลหลานกับตระกูลเจียงเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่ยังทำให้ยัยเจียงสื้อสื้อนั่นตกอับได้อีกด้วย มีแต่ได้กับได้เรื่องอะไรเธอต้องยอมปล่อยโอกาสนี้ไป
“อีกอย่างถ้าเราช่วยซูชิงหยิงจัดการยัยเจียงสื้อสื้อนั่นทิ้งได้ ถึงตอนนั้นถ้าซูชิงหยิงกับจิ้นเฟิงเฉินได้แต่งงานกัน เราก็จะได้ตีสนิทกับตระกูลจิ้นด้วยเลยไง เห็นไหมว่าเรื่องนี้เรามีแต่ได้กับได้”
หลานซือเฉินฟังที่เจียงนวลนวลพูดแล้วก็รู้สึกสมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังคงเอ่ยเตือนว่า:”งั้นถ้าเธอได้เจอกับซูชิงหยิงเมื่อไหร่ ก็จำไว้นะว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด”
สิ้นเสียง เจียงนวลนวลก็ชักสีหน้าไม่พอใจทันที เธอเหลือบมองหลานซือเฉิน ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า:”ทำไม ผ่านไปตั้งหลายปีขนาดนี้แล้วพี่ก็ยังคิดถึงมันอยู่อีกเหรอ? จนถึงตอนนี้ก็ยังจะปกป้องมันอีกงั้นหรือไง? กลัวว่าฉันจะบอกเรื่องตอนนั้นกับซูชิงหยิง แล้วทำให้ยัยเจียงสื้อสื้อนั่นตกอับสินะ!”
หลานซือเฉินขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเอ่ยปฏิเสธทันควันว่า:”พูดจาเพ้อเจ้ออะไรของเธอน่ะ อย่างน้อยเจียงสื้อสื้อก็ยังเป็นพี่สาวเธอนะ ตอนนั้นเป็นเราสองคนเองที่ผิดกับเธอก่อน อย่างน้อย……ก็เหลือทางรอดไว้ให้เธอสักทางก็ยังดี”
ที่จริงแล้วในใจลึกๆหลานซือเฉินก็รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกัน หลายปีที่ผ่านมา เขาเห็นและรู้ว่าเจียงสื้อสื้อเป็นผู้หญิงที่ดีมากขนาดไหน ไม่ใช่แค่สวยแต่ยังเก่งและจิตใจดีอีกด้วย ทว่าตอนนี้เจียงนวลนวลท้องแล้ว แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่มีทางจะทำเรื่องอะไรอีก
เจียงนวลนวลลอบแค่นยิ้มเย้ยหยันในใจ ทีตอนนั้นไม่เคยคิด มาตอนนี้กลับแสดงท่าทีเห็นใจซะงั้น เหอะ จนถึงตอนนี้หลานซือเฉินก็ยังคิดถึงยัยเจียงสื้อสื้อนั่น ทั้งที่เธอเองก็ท้องแล้วแท้ๆ ยัยเจียงสื้อสื้อ ยัยแพศยา
เจียงนวลนวลเก็บความคุกรุ่นไว้ในใจ พลางตอบยิ้มๆว่า:”วางใจเถอะน่า พี่พูดถูก ยังไงซะเจียงสื้อสื้อก็ยังเป็นพี่สาวฉัน ฉะนั้นฉันจะไม่ปากพล่อยพูดอะไรที่ไม่ควรพูดกับซูชิงหยิงหรอก”
แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ในใจเจียงนวลนวลจะปล่อยยัยนั่นไปได้ยังไง เธอเกลียดนังแพศยานั่นเข้ากระดูกดำ ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะฉีกยัยนั่นให้เป็นชิ้นๆเลยด้วยซ้ำ
หลานซือเฉินพยักหน้า ก่อนจะโอบไหล่เจียงนวลนวลแล้วเอ่ยเตือนอีกครั้งว่า:”อืม เวลาอยู่กับคุณซูก็สำรวมหน่อยนะ อย่าเผลอไปทำให้เขาโกรธเข้าล่ะ”
“รู้แล้วล่ะค่ะพี่ซือเฉิน วางใจเถอะ!”
ทั้งคู่กินไปพลางพูดคุยไปพลาง หลังจากกินอาหารเสร็จพวกเขาก็ไปเดินช้อปปิ้งซื้อของต่อ
เจียงนวลนวลแวะกลับไปที่บ้านตระกูลเจียง เมื่อได้ข่าวว่าตระกูลหลานได้ร่วมงานกับตระกูลซูแล้วเจียงเจิ้นกับเสิ่นซูหลันก็ดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้น
สองสามีภรรยายังคงแค้นเรื่องที่เจียงสื้อสื้อทำให้พวกเขาต้องขายหน้าในงานเลี้ยงเมื่อคราวก่อนจนฝังใจไม่เคยลืม พลันเริ่มวางแผนกันเป็นตุเป็นตะว่าหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นถูกจิ้นเฟิงเฉินทิ้งแล้วพวกเขาจะสั่งสอนมันยังไงดี
ณ อีกด้านหนึ่ง เจียงสื้อสื้อยังไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าตัวเองกำลังถูกตระกูลเจียงและซูชิงหยิงวางแผนทำร้ายอีกแล้ว หลังจากตื่นนอน เธอกับเสี่ยวเป่าก็กินอาหารเช้าด้วยกัน วันนี้พ่อบ้านติดธุระมารับพวกเขาไม่ได้ เจียงสื้อสื้อจึงต้องส่งเสี่ยวเป่าไปโรงเรียนแทน
เมื่อมาถึงโรงเรียน เจียงสื้อสื้อก็จูงมือเสี่ยวเป่าไปที่หน้าประตูทางเข้า ที่นั่นมีเพื่อนตัวน้อยๆอีกหลายคน และมีทั้งที่รู้จักกับเสี่ยวเป่าด้วย หนึ่งในนั้นมีคนเอ่ยขึ้นว่า:”เสี่ยวเป่า นี่หม่ามี๊นายเหรอ? หม่ามี๊นายสวยจังเลย หน้าเหมือนนายมากด้วย!”