ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 195 เธอให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนผู้หญิงอื่น?
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 195 เธอให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนผู้หญิงอื่น?
บทที่ 195 เธอให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนผู้หญิงอื่น?
หลังจากเดินเข้าไปภายในงานเลี้ยง ฉินมู่หลันก็รีบถามคุณท่านตระกูลฉิน “คุณพ่อ พ่อไปรู้จักกับคุณเจียงได้อย่างไรกัน?” อีกทั้งความสัมพันธ์ของทั้งสองยังสนิทกันขนาดนั้นอีก ในฐานะลูกสาวของพ่อ ฉินมู่หลันไม่เคยเห็นท่านเอ็นดูคนนอกตระกูลขนาดนี้มาก่อน
คุณปู่หัวเราะออกมาก่อนจะตอบ “เจอกันโดยบังเอิญน่ะ เด็กคนนั้นชอบการชงชา ค่อนข้างเข้ากันได้ดี และก็เรียนกับฉันอยู่ระยะเวลาหนึ่งน่ะ”
ได้ยินแบบนี้แล้ว ฉินมู่หลันก็ขมวดคิ้วขึ้น นึกไม่ถึงว่าคุณปู่จะสอนการชงชาให้กับคนอื่น ฉินมู่หลันมองไปยังเจียงสื้อสื้อ ในใจคิดว่าเด็กคนนี้มีความสามารถอะไรกัน หลานและลูกของตนล้วนชอบพอในตัวเธอ ตอนนี้แม้แต่คุณพ่อก็ชอบไปด้วย
ฉินมู่หลันไม่ได้ถามต่อ เพียงแต่มองไปยังทิศทางที่ซูชิงหยิงยืนอยู่
ใบหน้าของซูชิงหยิงยังคงงดงามอยู่เช่นเดิม แต่ว่าในใจของเธอกลับโมโหจนแทบลุกเป็นไฟ เธอนึกว่างานเลี้ยงคืนนี้เจียงสื้อสื้อจะไม่มาเข้าร่วม ตนเองจะได้ถือโอกาสแสดงออกให้คุณปู่ได้เห็นอย่างเต็มที่ เพื่อที่เธอจะได้คบกับจิ้นเฟิงเฉิน
นึกไม่ถึงว่าเจียงสื้อสื้อจะมาร่วมงานเลี้ยง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคุณปู่อีก
เวลาไม่กี่ปีมานี้ ถึงแม้ซูชิงหยิงจะอาศัยอยู่ต่างประเทศ แต่เธอก็คอยเอาใจใส่คุณปู่และซื้อของขวัญมาฝากคุณปู่อยู่ตลอด
ดูเหมือนว่าคุณท่านตระกูลฉินก็จะชอบพอในตัวตนอยู่เช่นกัน แต่ท่านไม่เคยแสดงออกอย่างสนิทสนมกับตนเช่นนั้นมาก่อน ตรงกันข้ามกับที่แสดงออกกับเจียงสื้อสื้อ
และดูจากท่าทางแล้ว คุณท่านตระกูลฉินคงจะสนับสนุนให้เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินได้คบหากัน
ซูชิงหยิงกำมือแน่นขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกว่าตนมักจะเป็นตัวตลกอยู่เสมอ ทั้งๆที่ตนพยายามมาโดยตลอด แต่กลับแพ้ให้กับผู้หญิงคนนั้นทุกครั้งไป
ฉินมู่หลันสังเกตได้ถึงความไม่พอใจของซูชิงหยิง ก็ปลอบใจโดยการตบหลังมือของเธอเบาๆ
เธอถอนหายใจออกมา ก่อนหน้านี้เธอก็พูดเรื่องไม่ดีของเจียงสื้อสื้อให้กับคุณท่านตระกูลฉินฟังอยู่มาก ตอนแรกจะถือโอกาสให้คุณท่านตระกูลฉินช่วยเกลี้ยกล่อมให้จิ้นเฟิงเฉินคบหากับซูชิงหยิง แต่นึกไม่ถึงว่า คุณท่านตระกูลฉินจะรู้จักกับเจียงสื้อสื้อโดยส่วนตัว อีกทั้งยังเอ็นดูขนาดนั้นอีก……
ซูชิงหยิงมองมาที่ฉินมู่หลัน ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา
คุณท่านตระกูลฉินเป็นประธานของงานเลี้ยงนี้ ยังมีแขกอีกมากมายที่ท่านต้องทำการต้อนรับ ดังนั้นเลยเอ่ยออกมา “เฟิงเฉิน หลานช่วยพาสื้อสื้อไปเดินดูรอบๆหน่อย”
พูดจบ ท่านก็หันมาพูดกับเจียงสื้อสื้อ “หลานสาว ฉันยังต้องไปต้อนรับแขกคนอื่นอีก ก็คงต้องให้หลานชายฉันช่วยดูแลไปก่อนแล้ว ในงานเลี้ยงมีของอร่อยอีกมากมาย ทานเยอะๆล่ะ”
เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้ถือสาอะไร “คุณปู่ฉิน วางใจได้ค่ะ! หนูดูแลตนเองได้”
คุณท่านตระกูลฉินยิ้มและพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินจากไป ฉินมู่หลันมองไปยังเจียงสื้อสื้อหนึ่งที ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับคุณท่านตระกูลฉิน
บริเวณนั้นเหลือเพียงแค่ เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉิน อีกทั้งยังมีเสี่ยวเป่า ซูชิงหยิงและจิ้นเฟิงเหรา
นาทีนี้ใบหน้าของจิ้นเฟิงเหรานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนหน้านี้เขายังกังวลว่าพี่ชายตนจะถูกเร่งให้แต่งงานขึ้นมา
ไม่นึกว่าพี่สะใภ้จะปรากฏตัวขึ้น ตอนนี้เขาถึงนึกคำพูดที่ซูซานบอกขึ้นมาว่าวันนี้เจียงสื้อสื้อขอลางานหนึ่งวัน ที่แท้ก็ลางานมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่นี่เอง
เขาก็บอกแล้วว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้นั้นเป็นคู่ที่ฟ้าลิขิต
จิ้นเฟิงเหราไม่อยากรบกวนทั้งสอง เตรียมตัวจะอุ้มเสี่ยวป่าวเดินจากไป แต่นึกขึ้นได้ว่าซูชิงหยิงก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน
จิ้นเฟิงเหรารู้สึกว่าบางคนก็ควรจะรู้ตนเองว่าควรจะเดินออกมาไหม
แต่นอกจากซูชิงหยิงไม่มีท่าทีว่าจะไปแล้ว ยังเดินเข้าไปพูดคุยด้วยอีก “คุณเจียง เดี๋ยวฉันพาคุณเดินดูรอบๆไหม เฟิงเฉินยังมีแขกที่ต้องรองรับอยู่อีก ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณแทนเถอะ”
คำพูดนี้ทำให้จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
จิ้นเฟิงเหราก็ขมวดคิ้วเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ นอกจากจะไม่ยอมจากไปแล้วยังหน้าไม่อายอีก
พอได้ยินเช่นนี้แล้ว เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา ก่อนจะปฏิเสธออกไป
“ไม่จำเป็นหรอก งานเลี้ยงนี้ฉันเป็นคนออกแบบเอง ฉันค่อนข้างที่รู้ตำแหน่งต่างๆของงานดีเลยทีเดียว เดี๋ยวฉันพาเสี่ยวเป่าไปหาของอร่อยๆกินดีกว่า”
พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็จูงมือเสี่ยวเป่าเดินจากไป เธอไม่อยากสนทนากับซูชิงหยิงอีกต่อไป
จิ้นเฟิงเฉินเห็นว่า เจียงสื้อสื้อเดินจากไปแล้ว ก็รีบก้าวเท้าเดินตามไปทันที
ก่อนหน้านี้เธอเอาแต่หลบหน้าเขา วันนี้เจียงสื้อสื้อมาร่วมงานเลี้ยงด้วยตนเอง จิ้นเฟิงเฉินคงจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปแน่
ซูชิงหยิงเห็นสถานการณ์แล้วก็เตรียมจะตามขึ้นไป แต่จิ้นเฟิงเหราไวกว่าหนึ่งก้าว เขารีบรั้งข้อมือของซูชิงหยิงเอาไว้
“พี่ชิงหยิง อีกสักครู่ต้องเต้นเปิดงานเลี้ยงแล้ว ผมยังไม่มีคู่เต้น พี่เป็นคู่ของผมแล้วกัน!”
ไม่ว่าอย่างไร จิ้นเฟิงเหราก็ไม่ยอมที่จะให้ซูชิงหยิงเข้าไปรบกวนพี่ชายและพี่สะใภ้ของตนได้ จึงต้องทำอะไรบางอย่างขึ้น
ซูชิงหยิงขมวดคิ้วขึ้น ดวงตายังมองตามไปยังทิศทางที่จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อได้เดินจากไป “ทางนั้นยังมีคนอีกมากมายที่รอคำเชิญชวนของเฟิงเหราน่ะ”
“ไม่ได้สิ คำเชิญนี้ แน่นอนว่าต้องเชิญผู้ที่สวยที่สุดในงานสิ พี่ชิงหยิงให้โอกาสผมเถอะ”
พูดจบ จิ้นเฟิงเหราก็ลากซูชิงหยิงเดินจากไป
ซูชิงหยิงไม่ยินยอมอย่างมาก ตอนแรกอยากจะสะบัดมือออก แต่ที่นี่คืองานเลี้ยง คุณหนูซูอย่างเธอจะทำเรื่องไม่ได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะขายหน้าคนทั้งงานก็เป็นได้
ซูชิงหยิงทำได้เพียงแค่ยอมเดินตามจิ้นเฟิงเหราจากไป
นัยน์ตาของจิ้นเฟิงเหราปรากฏความได้ใจขึ้น อยากจะไปรบกวนพี่ชายกับพี่สะใภ้เหรอ ไม่มีทาง!
……
อีกฝ่าย เจียงสื้อสื้อและเสี่ยวเป่าเลือกของกินมาส่วนหนึ่ง
เสี่ยวเป่าถูกเจียงสื้อสื้อจูงมืออยู่ตลอดเลยดูดีใจเป็นพิเศษ
“เสี่ยวเป่าอยากทานอะไรเหรอ?” เจียงสื้อสื้อย่อตัวลงก่อนจะยิ้มและถามออกมา
“น้าสื้อสื้อทานอะไร เสี่ยวเป่าก็ทานสิ่งนั้น!”
หลังจากที่ได้ยินคำตอบ นัยน์ตาของเจียงสื้อสื้อนั้นก็เต็มไปด้วยความเอ็นดูขึ้นมา พอเห็นจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังเดินเข้ามาใกล้แล้ว เธอก็ยืนขึ้นมาก่อนที่จะเหลือบมองไปยังซูชิงหยิงที่อยู่ด้านหลังไกลๆ “ทำไมคุณถึงเดินมาแล้วล่ะ? ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณซูหรอกเหรอ?”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วขึ้น เม้มปากแน่นก่อนเอ่ย “คุณปู่ให้ผมคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
เจียงสื้อสื้อหมุนตัวกลับไปเลือกของกิน ไม่ได้สนใจจิ้นเฟิงเฉินอีก
“คุณไม่ต้องทำตามที่คุณปู่บอกหรอก เสี่ยวเป่าอยู่เป็นเพื่อนฉันก็พอแล้ว”
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ ความอดทนของจิ้นเฟิงเฉินก็ไปถึงขั้นสูงสุดแล้ว เธอมาร่วมงานเลี้ยงนอกจากจะไม่มองเขาตรงๆแล้ว เขายอมเดินเข้ามาหาเธอเอง แต่เธอกลับให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนอื่น?
นึกถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นตลอดไม่กี่วันมานี้ น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินก็เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น