ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 196 เห็นได้ชัดว่าคุณชอบผม
บทที่ 196 เห็นได้ชัดว่าคุณชอบผม
“เจียงสื้อสื้อ คุณจงใจที่จะทำให้ผมโกรธเหรอ?” จิ้นเฟิงเฉินเอ่ยปากถาม
“ไม่ใช่ ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้น คุณซูเป็นว่าที่เจ้าสาวของคุณไม่ใช่เหรอ?”
“ว่าที่เจ้าสาวอะไรกัน ผมยอมรับตอนไหน?”
“ไม่ใช่เหรอ? ถ้าหากไม่ใช่ ทำไมคุณถึงไปโรงพยาบาลแผนกตรวจการตั้งครรภ์กับคุณซู……”
เจียงสื้อสื้อไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไรไป จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกไม่สบายใจ เธอก็รู้สึกแย่เช่นกัน ตอนนี้คิดอะไรก็พูดออกไปหมด
ได้ยินแบบนี้แล้ว จิ้นเฟิงเฉินเหมือนกับนึกบางอย่างขึ้นมาได้ หรือว่าวันนั้น เจียงสื้อสื้อก็อยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนกัน……มิน่าล่ะ! ตั้งแต่วันนั้นปฏิกิริยาของเธอก็เปลี่ยนไป
เธอนึกว่าเขาจะมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น? เพราะเรื่องนี้เลยพยายามหลบหน้าเขามาโดยตลอด เธอไม่เชื่อใจเขาแม้แต่น้อยเลยเหรอ?
“เจียงสื้อสื้อ คุณไม่รู้เหรอว่าผมมีความรู้สึกต่อคุณอย่างไร?”
“ขอโทษที ฉันไม่รู้ ถ้าหากคุณต้องการที่จะล้อเล่นกับความรู้สึกฉันล่ะก็ ไปหาคนอื่นเถอะ”
เจียงสื้อสื้อพูดอย่างนิ่งเรียบ แต่ในใจของเธอกลับว้าวุ่นไปหมด ทำไมเธอถึงจะไม่รู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินคิดกับตนอย่างไร เพียงแค่ตอนนี้เธออยากจะกันเขาให้ออกห่างจากเธอไปมากๆก็เท่านั้น
ได้ยินแบบนี้ สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็เปลี่ยนไปทันที รอยยิ้มของเขาเปลี่ยนเป็นประชดประชันขึ้นมา เขาเคยปฏิบัติกับผู้หญิงคนไหนเช่นนี้มาก่อนเหรอ แต่ตอนนี้เจียงสื้อสื้อกลับบอกว่าเขากำลังเล่นกับความรู้สึกอยู่ เธอกำลังแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริงๆกันแน่?
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เสี่ยวเป่าถามออกมา “แด๊ดดี๊กำลังทะเลาะกับน้าสื้อสื้ออยู่เหรอ? เป็นอะไรไปกัน?”
เสี่ยวเป่ากะพริบตา ก่อนจะดึงมือของเจียงสื้อสื้อและเอ่ยถาม “น้าสื้อสื้อ แด๊ดดี๊รังแกน้าเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อถึงรู้สึกตัวกลับมาว่าตนเองนั้นลืมไปแล้วว่ายังมีเสี่ยวเป่าอยู่ข้างๆ
เธอค่อยๆควบคุมอารมณ์ให้สงบลง มองไปยังเสี่ยวเป่าก่อนจะเอ่ยออกมา “ไม่ใช่หรอก เมื่อกี้น้าสื้อสื้อแค่ตื่นเต้นไปหน่อย ขอโทษทีนะ”
แต่ว่าตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินจะปล่อยเจียงสื้อสื้อไปได้อย่างไรกัน เขาก้าวเดินออกมาและพูดกับเสี่ยวเป่า “เสี่ยวเป่า แด๊ดดี๊มีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณน้า ลูกไปหาคุณลุงคุณป้าก่อนไหม?”
เสี่ยวเป่ามองไปที่ทั้งสองด้วยความลังเล ก่อนที่จะเดินจากไปในที่สุด
“ฉันไม่มีอะไรที่จะพูดกับคุณ คุณไปต้อนรับแขกเถอะ” เจียงสื้อสื้อพูดจบก็หมุนตัวเตรียมเดินหนีไป
จิ้นเฟิงเฉินเห็นสถานการณ์ไม่ดี ก็รีบเดินไปฉุดข้อมือของเจียงสื้อสื้อให้เดินตามเขาออกไปจากงานเลี้ยง
ซูชิงหยิงและจิ้นเฟิงเหราที่กำลังเต้นรำด้วยกันอยู่อีกฝั่งนั้น ถึงแม้จะเต้นรำอยู่ แต่สายตาของเธอก็จับจ้องมองไปยังทิศทางของทั้งสองคนนั้นตลอดเวลา มองเห็นจิ้นเฟิงเฉินลากเจียงสื้อสื้อออกไปแล้ว ซูชิงหยิงก็ถึงกับรีบร้อนขึ้นมา เธอจะปล่อยให้ทั้งสองคนเดินจากไปได้อย่างไร
“ขอโทษที คุณชายรอง ฉันเริ่มเหนื่อยแล้วน่ะ ไม่อยากเต้นรำแล้ว คุณไปหาคู่เต้นรำคนอื่นเถอะ!” ซูชิงหยิงพูดจบก็เตรียมที่จะดึงมือของเฟิงเหราออก
“อย่าเพิ่งสิ! พี่ชิงหยิง เพิ่งจะเต้นได้สักครู่เอง ทำไมเหนื่อยแล้วล่ะ!” จิ้นเฟิงเหราตอบกลับ
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากเต้นแล้ว” ซูชิงหยิงเริ่มโกรธขึ้นมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่ง
พูดจบ เธอก็สะบัดตัวออกจากมือของจิ้นเฟิงเหรา ก่อนจะเดินออกไปจากลานเต้นรำ
จิ้นเฟิงเหรากลับไม่ได้เดินตามไป เพียงแต่ถอนหายใจหนักๆออกมา เฮ้อ ผู้หญิงคนนี้นี่จริงๆเลย ผู้ชายที่เพอร์เฟกต์มีมากมาย แต่กลับเอาแต่กัดพี่ชายของเขาไม่ยอมปล่อย
……
หลังจากมาถึงด้านนอกงาน เจียงสื้อสื้อก็ดึงข้อมือตนออกมาจากมือของจิ้นเฟิงเฉิน ก่อนจะเอ่ยถาม “คุณจะพูดอะไร?”
เฟิงเฉินจ้องมองไปที่เจียงสื้อสื้อ ก่อนจะพูดออกมาตรงๆ “เจียงสื้อสื้อ เห็นได้ชัดว่าคุณก็มีความรู้สึกต่อผมเหมือนกัน ในใจของคุณก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับคุณ ทำไมถึงต้องคอยหลบหนีด้วย?”
“ฉันไม่ได้มีความรู้สึกกับคุณ” เจียงสื้อสื้อปฏิเสธออกมา
“เจียงสื้อสื้อ คุณหลอกคนอื่นได้ แต่คุณหลอกผมไม่ได้”
ทำไมจิ้นเฟิงเหราจะมองไม่ออก เจียงสื้อสื้อชอบเขาเหมือนกันชัดๆ แต่ทำไมถึงต้องคอยหลบหน้าเขาด้วย? หรือว่าเป็นเพราะซูชิงหยิง?
เจียงสื้อสื้อปฏิเสธต่อไป “จิ้นเฟิงเฉิน คุณเป็นคุณชายตระกูลจิ้น มีอิทธิพลสูงส่งมากมาย ใครไม่ชอบคุณล่ะ! ใช่ ฉันชอบคุณ แต่ชอบแค่เงินของคุณ แต่ตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันไม่อยากเข้าไปแย่งชิงสิ่งของใดๆในตระกูลคุณ ดังนั้นคุณปล่อยฉันไปเถอะ!”
เจียงสื้อสื้อสบตากับจิ้นเฟิงเฉิน ก่อนจะพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาทีละคำอย่างชัดเจน
ถึงแม้จะรู้ว่าเธอกำลังพูดโกหกอยู่ แต่กลับต้องทนมองเจียงสื้อสื้อปฏิเสธว่าไม่ได้ชอบเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วยังพูดจาแบบนี้ออกมาอีก……
จิ้นเฟิงเหราโกรธหัวหมุน จับท้ายทอยของเธอให้เงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่จะก้มลงประทับจูบลงไปยังริมฝีปากของเจียงสื้อสื้อ
“อื้อ……”
เจียงสื้อสื้อที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับทำตัวไม่ถูก เธอพยายามดิ้นรน แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับใช้แขนโอบรอบเอวของเธอแน่น ทำให้เธอถูกกักขังอยู่ในอ้อมกอดของเขา
จุมพิตนี้ค่อนข้างดุดันและป่าเถื่อนมาก เต็มไปด้วยความอยากลงโทษอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ผู้ชายตรงหน้าถึงค่อยๆยอมถอนจุมพิตออก
“ไม่ชอบจริงๆเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อไม่อยากยอมรับ เธอชอบเขา แต่ว่ายอมรับแล้วจะมีประโยชน์อะไร เขาและเธอไม่มีทางเป็นไปได้ มีแต่จะทำให้วุ่นวายมากขึ้นไปอีกเท่านั้น
จิ้นเฟิงเฉินทำแบบนี้กับเธอ ทำให้เธอรู้สึกน้อยใจสุดขีด ก่อนที่จะดื้อดึงไม่ยอมพูดอะไรออกมา
จิ้นเฟิงเฉินเห็นว่าเธอยังไม่ยอมรับ ก็ก้มลงประกบจูบอีกครั้ง ครั้งนี้จูบอย่างดูดดื่มมากกว่าเดิม อีกทั้งยังทำตามใจที่ตัวเองอยากทำอีก
ชั่วพริบตาเดียว ร่างกายของเจียงสื้อสื้อก็เริ่มสั่นขึ้นมา น้ำตาที่อยู่รอบขอบตาค่อยๆไหลลงมา
เหมือนว่าจะรับรู้ได้ถึงน้ำตาของเธอ จิ้นเฟิงเฉินรีบหยุดลงทันที
เขาถึงรู้ว่าตนเองสูญเสียการควบคุมไปแล้ว มองเห็นลักษณะของเจียงสื้อสื้อที่เป็นเช่นนี้แล้วก็รู้สึกอยากขอโทษขึ้นมา อยากจะเข้าไปช่วยเช็กน้ำตาให้เธอ แต่ก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องสัมผัสเธอ
จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้าลงก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “ขอโทษที”
เจียงสื้อสื้อไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เพียงแต่น้ำตาไหลเยอะเป็นสองเท่า
ทำไมกัน? ทำไมมาร่วมงานเลี้ยงนี้ถึงต้องมาเจอกับคนพวกนี้ ทำไมจิ้นเฟิงเฉินถึงไม่ยอมปล่อยเธอไป……เจียงสื้อสื้อรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจอย่างมาก เรื่องมากมายกดทับเธอไว้อยู่จนเธอแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขารีบดึงเจียงสื้อสื้อเข้ามาในอ้อมกอด
ผู้หญิงของเขา……ทำไมเธอถึงไม่ยอมบอกเขา ให้เขาร่วมเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยกัน ถึงแม้จะโกรธ แต่กลับเจ็บใจมากกว่า
เจียงสื้อสื้อพยายามที่จะผลักเขาออก แต่กลับไม่เป็นผล
……
อีกมุมหนึ่ง ซูชิงหยิงที่เพิ่งสลัดตัวออกมาจากจิ้นเฟิงเหราได้นั้นก็ออกมาเห็นภาพตรงหน้าพอดี เธอรู้สึกเหมือนโดนใบมีดทิ่มแทงเข้ามาที่สมอง จะลบยังไงก็ลบไม่ออก
ซูชิงหยิงกำมือแน่นขึ้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าหาว่าเธอไม่เตือนก็แล้วกัน
มองไปที่ร่างของทั้งสองอีกครั้ง ก่อนที่นัยน์ตาของซูชิงหยิงจะปรากฏความโหดร้ายขึ้น