ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 215 ตรวจสอบพบว่าตั้งครรภ์แทน(อุ้มบุญ)
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 215 ตรวจสอบพบว่าตั้งครรภ์แทน(อุ้มบุญ)
บทที่ 215 ตรวจสอบพบว่าตั้งครรภ์แทน(อุ้มบุญ)
รถได้มาถึงร้านอาหารฝรั่งร้านนึง สภาพแวดล้อมของร้านอาหารเงียยสงบสวยงาม เพราะเป็นวันแห่งความรัก ที่นั่งโดยรอบจึงเต็มไปด้วยคู่รักจำนวนมาก สิ่งนี้จึงทำให้เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า พวกเขาก็เหมือนกับคู่รักทั่วๆไป ไม่ได้มีระยะห่างอะไรที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
จิ้นเฟิงเฉินจูงมือของเจียงสื้อสื้อ เดินไปถึงแล้วนั่งลงในนี่นั่งที่จองไว้ จากนั้นก็เรียกบริกรเข้ามาเพื่อสั่งอาหาร
สีของท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นดำแล้ว ร้านอาหารที่อยู่บนตึกสูง จากผนังกระจกมองไป สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามภายนอกยามราตรี นี่ช่างเป็นฉากที่งดงามที่สุด
……..
เปรียบกับการเข้ากันได้ดีของคนทั้งสอง และทางด้านนี้ ซูชิงหยิงทำได้เพียงมาซื้อเหล้าที่บาร์เหล้าเพียงคนเดียว
วันแห่งความรัก แต่คนที่ตนเองชอบกลับไปอยู่กับคนอื่น คาดไม่ถึงว่าผู้ชายแบบจิ้นเฟิงเฉินนี้จะซื้อดอกไม้ให้กับเจียงสื้อสื้อ
ซูชิงหยิงหลับตาลง ภายในใจเป็นทุกข์อย่างสุดขีด แต่ตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี เธอทำได้เพียงมองตาปริบๆกับการพัฒนาไปที่ละขั้นๆของเจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉิน
เวลานี้ มู่จิ่งเซินก็เดินเข้ามา ซูชิงหยิงยกแก้วเหล้าที่วางบนโต๊ะดื่มรวดเดียวหมด ชำเลืองมองมาที่เขาอย่างเย็นชา ทันทีก็เอ่ยปากกล่าวว่า: “คุณมาทำไมอีกล่ะ? ก่อนหน้านี้ที่ฉันบอกไปก็ชัดเจนมากแล้วไม่ใช่หรอ”
ตอนนี้ซูชิงหยิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้วจริงๆ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอก็ไม่สามารถตัดใจจากจิ้นเฟิงเฉินและไปยอมรับคนอื่นได้
“ชิงหยิง คุณชอบจิ้นเฟิงเฉินมากขนาดนั้นจริงๆหรอ?”
หลายวันมานี้ มู่จิ่งเซินจะเห็นซูชิงหยิงมาที่ซื้อเหล้าที่บาร์เหล้า ทุกครั้งก็เห็นว่าเธอเมากลับไป มองเห็นคนที่ตนเองชอบเป็นทุกข์เช่นนี้ไม่มีความสุขเช่นนี้ ในใจของมู่จิ่งเซินไหนเลยจะไม่รู้สึกเหมือนกัน ก็ต้องทุกข์เป็นอย่างมาก
“ใช่ ชอบมากๆ”
เริ่มชอบมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้หลายปีมาก มากจนกระทั่งยอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดของเธอเพื่อจิ้นเฟิงเฉิน แต่จิ้นเฟิงเฉินก็มองไม่เห็นความดีของเธอเลยแม้แต่น้อย สายตาของเขาเต็มไปด้วยเจียงสื้อสื้อ
ซูชิงหยิงยกแก้วเหล้าบนโต๊ะมาดื่มรวดเดียวอีกครั้ง มู่จิ่งเซินมองแล้วช่างเจ็บปวดใจนัก ได้ยินเพียงเขาเอ่ยปากว่า: “ชิงหยิง ฉันสามารถช่วยคุณได้”
ได้ยินอย่างนี้แล้ว ซูชิงหยิงก็มองมู่จิ่งเซิน กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “คุณจะช่วยฉันยังไง?”
เธออดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นอย่างยิ้มเยาะเล็กน้อย ตอนนี้ตัวของเธอเองยังไม่มีวิธี แล้วมู่จิ่งเซินจะช่วยเธอได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้น บนโลกนี้จะมีใครคนไหน ที่จะช่วยให้คนที่ตนเองชอบและคนอื่นได้อยู่ด้วยกัน?
ได้ยินอย่างนี้แล้ว แววตาของมู่จิ่งเซินก็ลึกลับเล็กน้อย
“ก่อนหน้านี้คุณพูดว่าหลายปีก่อนเจียงสื้อสื้อเคยให้กำเนิดเด็กไม่ใช่หรอ?”
ซูชิงหยิงหรี่ตาเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะมองไปยังมู่จิ่งเซิน
“สองสามวันนี้ฉันตรวจสอบมาแล้ว เด็กคนนั้นได้คลอดแล้ว เจียงสื้อสื้อตั้งครรภ์แทนคนอื่น เพียงแต่อีกฝ่ายลึกลับเกินไป ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถตรวจสอบพบครอบครัวนั้นที่ให้ตั้งครรภ์แทนว่าอยู่ที่ไหน ยิ่งเด็กคนนั้นในเวลานั้นก็ยิ่งหาไม่เจอ แต่ว่า……”
…………
ทางด้านนี้ หลังทานอาหารเย็นแล้ว เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินก็เดินเที่ยวเล่นแล้วจึงกลับบ้าน
หลังจากกลับถึงบ้าน เสี่ยวเป่าก็หลับไปแล้ว เมื่อคนทั้งสองแยกกันที่ชั้นล่าง เจียงสื้อสื้อจึงนำกระดุมแขนเสื้อที่ซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าเมื่อวานนี้มอบให้กับจิ้นเฟิงเฉิน
รับของมา จิ้นเฟิงเฉินกำลังคิดที่จะเปิดออก ก็พบว่าเจียงสื้อสื้อที่อยู่ตรงหน้าเขย่งปลายเท้า โน้มคอของเขา จากนั้นก็จูบเบาๆลงบนแก้มของเขา
“สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ วันนี้มีความสุขมาก ฉันไปนอนก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
จิ้นเฟิงเฉินหยุดชะงักไปชั่วขณะ นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงสื้อสื้อจูบเขาเอง ถึงแม้จะเป็นเพียงการจูบแก้ม แต่เขาก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไรเลย คนที่อยู่ตรงหน้าก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว
พระเจ้ารู้ดีว่าการกระทำนี้เจียงสื้อสื้อต้องใช้ความกล้าหาญมากขนาดไหน เธอคิดว่าตลอดชั้วชีวิตนี้ของตนเองไม่เคยกล้าหาญขนาดนี้มาก่อน หลังจากกลับถึงห้อง เจียงสื้อสื้อพิงอยู่หลังประตู หัวใจเต้นเร็วจนสามารถพูดได้ว่าเร็วจนไม่กล้าจินตนาการ ใบหน้าก็ยิ่งแดงระเรื่อ
ชั่วครู่หนึ่ง เจียงสื้อสื้อจึงสงบลงมา หยิบชุดนอนแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำ
ในห้องข้างๆกัน จิ้นเฟิงเฉินมองกล่องกระดุมแขนเสื้อ และกลับไปนึกถึงจูบนั้นที่เพิ่งเกิดขึ้น สีหน้าของผู้ชายก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกับตัวเอง
ราตรีสวัสดิ์ เจียงสื้อสื้อ
…………
คืนนึงที่ฝันดี วันที่สอง บนโต๊ะอาหาร เจียงสื้อสื้อมองไปที่กระบอกแขนเสื้อบนชุดสูทของจิ้นเฟิงเฉินเป็นของที่ตนเองให้เมื่อวาน เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อย
และเสี่ยวเป่า เดิมทีเมื่อวานก็สวมใส่ชุดเด็กและวางแผนที่จะออกไปเล่นกันแด๊ดดี้และน้าสื้อสื้อ แต่ใครจะรู้ว่าจะถูกจิ้นเฟิงเหราขัดขวางไว้
จิ้นเฟิงเหราขู่ไว้ว่า วันพรุ่งนี้ไม่ว่ายังไงก็ตามไม่สามารถไปรบกวนแด๊ดดี้และน้าสื้อสื้อ
เสี่ยวเป่าไม่สมัครใจ แต่ในที่สุดก็ทำได้เพียงเชื่องฟังคำพูด เมื่อวานผ่านไปแล้ว เพราะฉะนั้นจึงวางแผนว่าวันนี้จะไปเล่นที่ไหนดีแต่เช้าตรู่
“เสี่ยวเป่าอยากไปที่ไหนล่ะ! วันนี้น้าสื้อสื้อต้องไปทำงาน รอหาเวลาว่างวันไหนแล้วไปด้วยกัน”
คิดๆแล้ว เสี่ยวเป่าก็กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า: “ปีนเขาท่องเที่ยวอะไรก็ได้หมด เสี่ยวเป่าอยากจะไปเที่ยวกับน้าสื้อสื้อและแด๊ดดี้สักครั้ง”
ถ้าได้ออกไปด้วยกันกับน้าสื้อสื้อและแด๊ดดี้ เสี่ยวเป่าคิดๆแล้วก็มีความสุข
ได้ยินอย่างนี้แล้ว สีหน้าของเจียงสื้อสื้อก็สดใส ใช่! พวกเขายังไม่เคยออกไปไหนด้วยกัน! คิดแล้วในใจเธอก็เฝ้ารออยู่แล้ว
จิ้นเฟิงเฉินเม้มปากแล้วกล่าวว่า: “ฉันจะไปจัดเตรียม”
“อื้ม” เสี่ยวเป่าพยักหน้าด้วยความดีใจ
หลังทานอาหารเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินก็ไปส่งเจียงสื้อสื้อหน้าบริษัท
……….
เพียงเดินเข้าประตูแผนก สวีหน้าก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าอยากซุบซิบนินทา
“พี่สื้อสื้อ เมื่อวานคุณกับประธานจิ้นเป็นยังไงบ้าง? เที่ยวกันสนุกไหม? มอบของขวัญให้ไปหรือยัง?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “มอบให้ไปแล้ว แล้วก็สนุกดี”
ไม่ถูก ควรจะพูดว่าสนุกมากๆ อย่างไรเสียก็เป็นครั้งแรกที่ได้รับมอบดอกไม้จากจิ้นเฟิงเฉิน เป็นครั้งแรกที่คนทั้งสองได้ฉลองวันวาเลนไทน์ มันเป็นสิ่งที่ตราตรึงอยู่ในใจ
สวีหน้ามองใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขของเจียงสื้อสื้อเธอก็ยิ่งดีใจ “พี่สื้อสื้อ คุณและประธานจิ้นจะต้องอยู่ด้วยกันดีๆนะ ถ้าในที่สุดแล้วได้เดินไปด้วยกัน ฉันก็คือคนที่จะเป็นประจักษ์พยานให้กับพวกคุณ! คิดๆแล้วก็ตื่นเต้นอาาาา!”
เดินไปถึงวันสุดท้ายเรื่องแบบนี้เจียงสื้อสื้อไม่กล้าที่จะคิด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้เรื่องราวเหล่านี้ทำให้เธอคิดอยากที่จะเดินไปถึงวันสุดท้ายมากจริงๆ คำพูดเช่นนั้น ยิ่งทำให้ตนเองมีความสุข
เจียงสื้อสื้อหยุดความคิดที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ในสมอง แล้วเริ่มตั้งใจทำงาน
ผ่านไปสองสามวัน การใช้ชีวิตในคฤหาสน์เป็นไปอย่างเรียบง่ายและหวานชื่น ความรักความผูกพันของจิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น
เย็นวันนี้ ที่บริษัทของเจียงสื้อสื้อมีทำโอที ด้วยเหตุนี้จึงได้ออกมาในเวลาที่ดึกมาก
เย็นนี้จิ้นเฟิงเฉินมีงานคบค้าสมาคม ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถมารับเจียงสื้อสื้อได้ทัน
เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้ใส่ใจ เมื่อเดินออกมาจากทางเข้าบริษัท ก็พบชายคนนึงเดินเข้ามาหา
“สวัสดีครับ ขอโทษนะครับคุณคือคุณเจียงใช่ไหม?” ผู้ชายเอ่ยปากถามอย่างสุภาพ
มองคนแปลกหน้าที่อยู่เบื้องหน้า เจียงสื้อสื้อก็ตกใจทันที
“คุณคือ?”
คนที่อยู่ตรงหน้ารูปร่างหน้าตาธรรมดา ดูแล้วจะเป็นคนซื่อๆอย่างมาก ท่าทางอายุราวๆยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เจียงสื้อสื้อได้พบเขา กลับมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นภายในใจอย่างคาดไม่ถึง