ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 216 ความสุขที่ไม่สมควรได้รับ
บทที่ 216 ความสุขที่ไม่สมควรได้รับ
“คุณเจียง สวัสดี ฉันนามสกุลหลี่ ชื่อหลี่อาน คนที่ขอให้คุณให้กำเนิดเด็กเมื่อหกปีก่อน” หลี่อานพูดคำเหล่านี้ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น สีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์
แต่ว่าเจียงสื้อสื้อเมื่อได้ยินคำเหล่านี้ทว่าหน้ากลับซีดเผือด โทรศัพท์ที่เธอถืออยู่ในมือ เวลานี้ลื่มตกจากมือลงพื้นดังโครม ทุกๆคนมองไปที่หลี่อานที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
คนให้อุ้มบุญเมื่อหกปีก่อนมาตามหาเธองั้นหรอ? ชายคนนี้มาตามหาเธอที่นี่เพราะเหตุใด เขาคิดจะทำอะไร?
ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ลางสังหรณ์แห่งความไม่สงบสุขแบบนั้นก็เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ใจของเจียงสื้อสื้อเต้นระรัว อย่างไรก็ไม่สามารถสงบลงได้
หลี่อานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกล่าวขอโทษเล็กน้อยว่า : “คุณเจียง อันที่จริงต้องขอโทษด้วย ที่มาหาคุณกะทันหันแบบนี้ ไม่รู้ว่าคุณจะสะดวกไหม เราไปหาที่นั่งคุยกันหน่อย”
สติกลับมา เจียงสื้อสื้อก็เห็นด้วย
ทั้งสองคนก็ไปหาที่นั่งในละแวกนั้นน เจียงสื้อสื้อเวลานี้สติกลับมาแล้ว ก็เริ่มสงสัยว่าผู้ชายคนนี้โกหกตนเองอยู่หรือเปล่า อย่างไรเสียเรื่องราวหกปีก่อน ไม่ใช่มีเธอเพียงคนเดียวที่รู้ ไม่แน่คนคนนี้บางทีอาจจะสวมรอย……
แต่ว่าหลี่อานเสนอหลักฐานให้จำนวนมาก เขาพูดระบุเวลาตั้งครรภ์และเวลาคลอดของเจียงสื้อสื้ออย่างชัดเจน หลักฐานตรงหน้า เจียงสื้อสื้อจำใจต้องเชื่อ
ทำไมชายคนนี้ถึงปรากฏตัวในเวลานี้? เจียงสื้อสื้อเวลานี้แค่รู้สึกสับสนเล็กน้อย ตอนนี้ไม่รู้ว่าควรจะไปเผชิญหน้ากับจิ้นเฟิงเฉินอย่างไร
หลี่อานยังพูดอธิบายว่า : “ปีนั้นคุณแม่กำลังป่วย เพื่อให้เธอสบายใจ ดังนั้นจึงหาคนมาคลอดลูกให้ คุณเจียง จุดประสงค์ครั้งนี้ก็คืออยากมารับคุณกลับไป”
เจียงสื้อสื้อได้ฟัง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงใสว่า : “คุณหลี่ ตอนแรกเราก็พูดกันเข้าใจแล้ว เงินค่าคลอดเด็กคุณจ่ายให้ฉันก็กันไปจบแล้ว ยังมาหาถึงที่บ้านอีกเพราะอะไร?”
หลี่อานหลับตาลง ก้มหน้าลงกระพริบตาเล็กน้อย
“เด็กไม่มีแม่ไม่ได้……อีกทั้งหลายปีมานี้ฉันก็ตามหาคุณมาตลอด คุณเจียง คุณลองคิดๆดูเถอะ! แม้ว่าเธอจะไม่อยากกลับไปกับฉัน ก็ไปดูเด็กหน่อย หลายปีมานี้ เด็กคนนั้นเฝ้ารอที่จะพบคุณทุกวัน”
เจียงสื้อสื้อจับมือแน่น ยามราตรีที่ไม่แน่นอนอย่างนี้ เธอไม่เคยคิดไม่อยากไปเจอเด็กคนนั้น แต่ว่าพอถึงวันนี้จริงๆแล้ว ทว่าเจียงสื้อสื้อไม่ดีใจเลยสักนิด ตรงข้ามกลับเป็นความกดดันอย่างมาก
หลังจากที่คุยกับหลี่อานจบ เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้กลับไปที่ตระกูลจิ้น แต่กลับไปที่บ้านเช่าของตน
บนเส้นทาง อารมณ์ความรู้สึกของเจียงสื้อสื้อก็แทบจะพังทลาย ปรากฏภาพเด็กเมื่อหกปีก่อน เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปสู้หน้ากับจิ้นเฟิงเฉินได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่รู้ว่าจะไปสู้หน้าเด็กคนนั้นได้อย่างไร……
เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างขมขื่น หลายวันมานี้เธอยังคิดว่าชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปแบบนี้ จริงๆแล้วพระเจ้าทนดูเธอได้รับสิ่งที่ดีเกินไปไม่ได้
กลับมาถึงบ้าน เจียงสื้อสื้อพิงอยู่บนโซฟา ในห้องไม่ได้เปิดไฟ เธอรู้สึกอึดอัดและอยากร้องไห้ เพราะอะไร? เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี ทำไมชายและเด็กคนนั้นต้องมาปรากฏตัวในเวลานี้?
เธอคิดว่าเรื่องราวเมื่อหกปีก่อนจะถูกลืมได้ เธอคิดว่าเธอกับจิ้นเฟิงเฉินจะดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไปได้……แต่ว่าตอนนี้
เจียงสื้อสื้อ คุณควรจะเข้าใจความเป็นจริงให้ชัดเจนก่อน เรื่องราวหกปีก่อนไม่สามารถถูกลบทิ้งไปได้ คนอย่างคุณนี้ไม่สมควรที่จะได้รับความสุข
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ เวลานี้ ฉับพลันเสียงโทรศัพท์ก็ขัดจังหวะความคิดของเธอ
เป็นจิ้นเฟิงเฉินโทรมา
เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากปรับอารมณ์ดีแล้วจึงรับโทรศัพท์
“อยู่ไหน? ยังไม่กลับบ้าน”
จิ้นเฟิงเฉินกลับจากงานเลี้ยงมาถึงคฤหาสน์แล้ว แต่ว่าเวลานี้แล้วเจียงสื้อสื้อทว่ายังไม่กลับบ้าน เขากังวลใจเล็กน้อยในเวลานี้
ได้ฟังเสียงที่คุ้นเคยนี้ ขอบตาเจียงสื้อสื้อก็เปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่รู้ตัว เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ ใช้น้ำเสียงปกติพูดออกไปว่า : “ฉันกลับบ้านแล้ว จิ้นเฟิงเฉิน ฉันคิดๆดูแล้ว ฉันย้ายออกมาจากคฤหาสน์น่าจะดีกว่า! จำได้ไหมว่าคุณจะช่วยคุยกับเสี่ยวเป่าให้ฉัน”
เธอในตอนนี้ ยังมีศักดิ์ศรีอะไรไปสู้หน้าจิ้นเฟิงเฉินกับเสี่ยวเป่าอีก เจียงสื้อสื้อฝืนยิ้มเล็กน้อย
เจียงสื้อสื้ออยู่ที่คฤหาสน์ก็ไม่มีข้างของอะไรไป ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปเก็บ นี่ก็เป็นการหลีกเลี่ยงการพบหน้าเสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเฉินด้วย
จิ้นเฟิงเฉินในสายนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนหน้าเธอรับปากแล้วไม่ใช่หรอว่าจะมาอยู่ที่นี่? เพราะเหตุใดต้องย้ายออกอย่างกะทันหัน?
ดูเหมือนจะสังเกตุได้ถึงความผิดปกติเล็กน้อย จิ้นเฟิงเฉินจึงถามออกไปว่า : “เป็นอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไร ก็รู้สึกว่าไปอยู่กับคุณนั้นจะไม่ค่อยดี เอาล่ะ ฉันจะนอนแล้ว คุณพักผ่อนเร็วหน่อยนะ”
หลังจากพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็รีบวางสายโทรศัพท์ไป
ด้านนี้ เสี่ยวเป่าก็เอ่ยถามจิ้นเฟิงเฉินว่า : “แดดดี๊ เกิดอะไรขึ้น? น้าสื้อสื้อล่ะ? ทำไมดึกขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่กลับมา?”
“น้าสื้อสื้อคิดว่าจะย้ายออกไปแล้ว ตอนนี้เธอกลับไปอยู่ที่พักของตนเอง”
ได้ยิน ใบหน้าสีชมพูของเสี่ยวเป่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หนุ่มน้อยก็ขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่เข้าใจว่า : “ห๊ะ? ก่อนหน้าน้าสื้อสื้อตัดสินใจจะย้ายเข้ามาแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงต้องไปอย่างกะทันหันล่ะ?”
จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่เข้าใจเช่นกัน เพียงแต่นำโทรศัพท์โยนลงข้างๆอย่างหงุดหงิด
เสี่ยวเป่ารู้สึกหดหู่จนยากเกินจะบรรยาย เขาคิดว่าหลังจากนี้เขาสามารถอยู่ด้วยกันกับเจียงสื้อสื้อได้ทุกวัน แต่ว่าคาดไม่ถึงว่า……
สองพ่อลูกอารมณ์เดียวกัน คืนนี้ ทั้งสามคนนอนไม่หลับ โดยเฉพาะเจียงสื้อสื้อ
……
เวลาผ่านไปเร็วมาก สองวันไปแล้ว สองวันนี้ เขียงสื้อสื้อซ่อนตัวจากจิ้นเฟิงเฉินโดยไม่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เพราะเธอไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้เธอควรเผชิญหน้ากับชายคนนี้ได้อย่างไร……
จิ้นเฟิงเฉินก็เคยมาหาเจียงสื้อสื้อ บอกว่าตัวเขาเองวางแผนอยากจะพาเสี่ยวเป่าไปเที่ยว แต่เจียงสื้อสื้อปฏิเสธและให้เหตุผลว่าช่วงนี้งานยุ่งไม่มีเวลาออกไปข้างนอก
เกิดเรื่องราวขึ้นอย่างนี้ เจียงสื้อสื้อไม่รู้ว่าควรจะไปสู้หน้าเสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเฉินอย่างไร ยังมีกะจิตกะใจไปเที่ยวเล่นได้อย่างไร
จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้บีบบังคับอีก สรุปการทำอาหาร บรรยากาศก็ดูแปลกๆไป
หลังจากส่งเจียงสื้อสื้อกลับบ้าน จิ้นเฟิงเฉินก็มาถึงบริษัท ภายในห้องทำงาน เกือบจะสองทุ่มแล้ว เขายังยุ่งอยู่กับงาน
จิ้นเฟิงเหราเปิดประตูเข้ามา มองเห็นพี่ชายของเขาที่อารมณ์ไม่ค่อยดี ด้วยเหตุนี้จึงถามออกไปว่า : “พี่ ได้ยินเสี่ยวเป่าพูดว่าพี่สะใภ้ย้ายออกไปจากคฤหาสน์แล้ว นี่เป็นเพราะอะไร? เกิดอะไรขึ้นกับคุณสองคน?”
ก่อนหน้าที่ไปทำงานนอกสถานที่กับตนก็ยังดีๆอยู่ หลังจากกลับมามันเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้อย่างไร? จิ้นเฟิงเหราอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ดูเหมือนยากที่พี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาจะอยู่ด้วยกันได้ดี!
“ไม่รู้” จิ้นเฟิงเฉินเม้มปาก บอกเขาโดยสัญชาตญาณว่า เจียงสื้อสื้อต้องการที่จะหลบซ่อนตน
ได้รู้ว่าเจียงสื้อสื้อปฏิเสธที่จะออกไปเที่ยวกับจิ้นเฟิงเฉินเนื่องจากมีงาน จิ้นเฟิงเหราโทรหาซูซานทันทีเพื่อสอบถามสถานการณ์