ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 237 แด๊ดดี้ที่ไม่มีตัวตน
บทที่ 237 แด๊ดดี้ที่ไม่มีตัวตน
“ชู่! ไม่ต้องพูดแล้ว ระวังถูกได้ยินล่ะ” คนนั้นยังพูดสาปแช่งไม่หยุดปาก
ถึงแม้ที่เธอด่าออกมาจะเป็นคำในใจหลายๆ คน แต่ก็ยังมีคนเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
“กลัวอะไร เธอยังด่าประจานพวกเราต่อหน้าคนอื่นได้ แล้วพวกเราจะพูดบ้างไม่ได้เหรอ?”
และซูชิงหยิงเพิ่งตรงเข้ามายังแผนกวางแผน พอได้ยินเสียงด่าของเขา ก็ห้ามไม่ให้เปลี่ยนสีหน้าไม่ได้ สับเท้าฉับๆ เดินตรงมาหาพวกเขา
“บริษัทจ่ายเดือนให้พวกคุณสูง ไม่ได้ให้พวกคุณมาจัดงานเลี้ยงน้ำชาที่นี่ หรือว่าอยากจะโดนไล่ออกจริงๆ?”
คนแผนกวางแผนต่างก็ทนกับอารมณ์ร้ายของเธอมามากพอตั้งนานแล้ว แล้วตอนนั้นก็มีคนสะบัดมือทิ้งไม่ทำต่อแล้ว
และคนในห้องเลขา ก็รีบรายงานกับพ่อซูทันที
ตอนแรกพ่อซูก็อยู่บนเส้นทางมาบริษัทอยู่แล้ว เดิมทีเขาอยากไปดูความคืบหน้า ไม่คิดเลยว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้
เขาเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งขรึม ทุกคนในแผนกวางแผนทักทายเขาด้วยความเคารพ
พ่อซูเอ่ยขอโทษพวกเขาแทนซูชิงหยิง: “เจ้าเด็กชิงหยิงคนนี้เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เขาเลยนิสัยดื้อรั้นไปหน่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ทุกคนโปรดให้อภัย”
“ประธานซู คุณเกรงใจกันไปแล้ว เป็นสิ่งที่พวกเราควรต้องช่วยประธานซูน้อยอยู่แล้ว” พนักงานเบื้องล่างทยอยกันพูด
“เธอมากับฉัน” พูดไป พ่อซูก็เดินนำไปที่ห้องทำงานของซูชิงหยิง
ซูชิงหยิงเดินตามไปอย่างไม่เข้าใจ เธอถามด้วยความโมโห: “คุณเป็นถึงประธานของซูซื่อกรุ๊ป ทำไมต้องทำตัวต่ำขนาดนี้”
พ่อซูทำสีหน้าเย็นยะเยือก แล้วยกเหตุผลมาพูดทีละอย่างๆ : “พวกเขาล้วนเป็นคนมีความสามารถสูงที่พวกเราใช้เงินมากมายเฟ้นหามา แต่ปกติคนมีความสามารถ ก็ต้องมีอารมณ์โกรธบ้างไม่มากก็น้อย”
ยิ่งคนที่มีความสามารถ ก็ยิ่งต้องเกรงใจพวกเขา ไม่อย่างนั้นพอพวกเขาโกรธขึ้นมา ถ้าบอกว่าจะไปก็คือไป
ซูชิงหยิงพ่นเสียงฟึดฟัดออกจมูก “หรือว่าพวกเขาคิดว่าถ้าจากOwenไปแล้วจะมีที่ที่ดีกว่าอย่างนั้นเหรอ?”
พ่อซูเห็นเธอยังไม่ได้สติ ก็พูดตำหนิเสียงต่ำ: “ดูท่าตอนเธอยังอยู่ข้างๆ จิ้นเฟิงเฉิน ก็ยังไม่ได้เรียนรู้ว่าทำยังไงถึงจะเป็นผู้นำที่โดดเด่นสินะ”
พอซูชิงหยิงได้ยินคำว่า “จิ้นเฟิงเฉิน” ในใจเธอก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นอย่างมากทันที
“ไม่ให้ฉันพูดถึงเขาแล้วเหรอ?” พ่อซูพูดตักเตือนจากใจจริง “ไม่ใช่ว่าเจียงสื้อสื้อก็กำลังยุ่งกับการแย่งชิงโครงการนี้กับเธออยู่เหรอ?”
เขาเตือนซูชิงหยิง ให้ตอนนี้เธอควรไปนัดทานมื้อเย็นกับจิ้นเฟิงเฉิน
บางทีตอนนี้เธอยังมีโอกาสให้ฉกฉวยมาได้ และบางทีอาจจะสามารถแอบถามถึงรายละเอียดการวางแผนของเจียงสื้อสื้อได้
ซูชิงหยิงตอบตกลงในทันที เตรียมตัวไปทันทีที่เลิกงาน
เมื่อใกล้เวลาเลิกงาน
สวีหน้าจัดการเรียบเรียงเอกสารให้ดีตามคำขอร้องของเจียงสื้อสื้อ “พี่สื้อสื้อ วันนี้พี่ควรต้องเลิกงานก่อนเวลาจริงๆนะ ยิ่งฝืนต่อไป คุณก็จะล้มป่วยได้”
เจียงสื้อสื้อเอ่ยตอบรับแบบลวกๆ จริงๆ ยังอยากอยู่ทำงานต่ออีกสักครู่หนึ่ง
เธอเพิ่งเปิดเอกสาร สายของจิ้นเฟิงเฉินก็โทรเข้ามา
“สื้อสื้อ ฉันทางนี้มีประชุมด่วนกะทันหัน คุณปู่คุณย่าเสี่ยวเป่าก็ออกไปกันแล้ว ต้องรบกวนให้คุณไปรับเสี่ยวเป่าเสียแล้ว”
เจียงสื้อสื้อรีบพูด: “ไม่เป็นไร ฉันทางนี้เองก็เสร็จแล้วพอดี จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“อื้ม รับเสร็จพวกคุณก็มีที่บริษัทด้วยกันเถอะ” จิ้นเฟิงเฉินไม่ลืมที่จะกำชับเธอ
พอวางสาย เจียงสื้อสื้อก็วางงานในมือลง แล้วไปรับเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าตามหลังคุณครูมา ตอนแรกเป็นเพราะเพื่อนๆ ในห้องมีคนมารับไปหมดแล้ว สภาพจิตใจก็เศร้าอย่างมาก
แต่พอเห็นเจียงสื้อสื้อ ใบหน้าเขาก็เผยรอยยิ้มสดใส แล้วก็รีบวิ่งสุดกำลังไปยังอ้อมกอดของเจียงสื้อสื้อ
คุณครูพอเห็นเจียงสื้อสื้อที่วิ่งหอบแฮ่กๆ มา ก็พูดด้วยความอ่อนโยนอย่างมาก: “ฉันยังไม่เคยเห็นใครมารับเสี่ยวเป่าแล้วเขามีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม: “ขอโทษจริงๆ ค่ะ พอพ่อของเด็กบอกฉัน ฉันก็ออกมาทันที แต่รถติดนิดหน่อย เลยเสียเวลา”
คุณครูยิ้มกล่าวไม่เป็นไร เสี่ยวเป่าเอ่ยลาคุณครูด้วยตัวเอง แล้วก็ตามเจียงสื้อสื้อไปจิ้นกรุ๊ป
เจียงสื้อสื้อจับมือเสี่ยวเป่า เดินก้าวใหญ่เข้าไป แทบไม่มีใครมาขวางพวกเขาเลย
เธอและเสี่ยวเป่าเดินเข้าไปห้องทำงานประธานของจิ้นเฟิงเฉินอย่างไร้ซึ่งอุปสรรคติดขัด
กู้เนี่ยนกำลังตรงมาทางนี้ พอเห็นพวกเขา ก็รีบเอาเอกสารไปด้วย กล่าวไปด้วย: “คุณเจียงและคุณชายเสี่ยวเป่า รอก่อนนะครับ อีกสักพักหนึ่งประธานจิ้นถึงจะประชุมเสร็จ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า เสี่ยวเป่าเอาการบ้านงานฝีมือที่ครูให้มาวันนี้ออกมาด้วยตัวเอง
“เสี่ยวเป่ากำลังทำอะไรครับ?” เธอขยับเข้าไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น มองเสี่ยวเป่าเอาอุปกรณ์ทุกอย่างออกมาอย่างกับกำลังเล่นมายากล
เสี่ยวเป่าพูดแนะนำทีละอัน: “อันนี้คือกากเพชร อันนี้คือกระดาษสี อันนี้คือจานกระดาษ……”
เขายังพูดอย่างมหัศจรรย์ด้วยว่า: “คุณครูให้พวกเราทำรูปจากกากเพชรที่สวยมากๆ ลงบนจานกระดาษ”
เขาเริ่มลงมือทำการประดิษฐ์อย่างเต็มที่ เจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้รบกวนเขาอีก ตรงไปนั่งยึดโต๊ะทำงานของจิ้นเฟิงเฉิน แล้วเริ่มยุ่งกับงานต่อ
ก่อนเลิกงาน แบบแผนขั้นต้นของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่แก้ไขและเพิ่มรายละเอียดอีกเล็กน้อยก็เสร็จลุล่วง
เธอทุ่มเททำงานใจจดใจจ่อด้วยความรอบคอบ เรียบเรียงข้อมูลไปด้วย และปรับแก้ไปด้วย
ก่อนจิ้นเฟิงเฉินจะเข้ามา สีหน้าเขายังครึ้มขมุกขมัวอยู่ ใครจะไปรู้ พอเขาเข้าห้องทำงานแล้วเจอผู้ใหญ่หนึ่งเด็กหนึ่ง กำลังจมอยู่ในโลกของตัวเอง สีหน้าเขาก็พลันสว่างไสวขึ้นทันที รอยยิ้มขึ้นไปถึงดวงตา
กู้เนี่ยนที่อยู่ด้านหลัง ในที่สุดก็ได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก พวกเขาเกือบจะโดนแรงกดดันของเขาทับตายอยู่แล้ว
สีหน้าจิ้นเฟิงเฉินเผยแววอบอุ่น และก็ไม่รบกวนพวกเขา เข้ามาก็นานแล้ว พวกเขาก็ไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของเขาเลยสักนิด
จนกระทั่ง……
เจียงสื้อสื้อทำแบบแผนเสร็จเรียบร้อย พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเขายืนอยู่ตรงหน้า
“คุณ…..” ดูท่าเขาคงจะเข้ามานานมากแล้ว แล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที “งานเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมไม่เรียกฉันล่ะ?”
“พวกคุณตั้งใจกันขนาดนั้น ฉันไม่กล้าไปกวนหรอก” จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะ “พวกคุณกินข้าวกันหรือยัง?”
เสี่ยวเป่าทำรูปกากเพชรเสร็จแล้ว เขาลูบที่หิวจนแทบไม่ไหวของตัวเอง “แด๊ดดี้ เสี่ยวเป่าหิวจะตายอยู่แล้วครับ”
“งั้นไปกันเถอะ แด๊ดดี้พาพวกเธอไปกินอะไรอร่อยๆ” จิ้นเฟิงเฉินก้มตัวช่วยเขาเก็บของใส่กระเป๋า
เจียงสื้อสื้อจัดเก็บเอกสารของตัวเองลวกๆ วางไว้บนโต๊ะทำงานอย่างเป็นระเบียบ
เธอเดินไปจะช่วยเสี่ยวเป่าสะพายกระเป๋าแทน เสี่ยวเป่าเบี่ยงตัวหลบ “ครูของพวกเราบอกว่า เรื่องของตัวเองต้องจัดการเอง”
เธออดมองสบตากับจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ แล้วก็พูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัด: “โอเคจ้ะ โอเค จัดการเองเลย”
เสี่ยวเป่าทำท่าทางเรียบร้อย เอากระเป๋าสะพายไว้บนหลังเสร็จ ก็เอารูปกากเพชร ส่งไปตรงหน้าของเจียงสื้อสื้อ “น้าสื้อสื้อ ครูบอกว่า พรุ่งนี้เอาไปที่โรงเรียนเสร็จ ก็เอามาให้คนที่อยากให้ที่สุดได้”
เสี่ยวเป่ากลัวว่าเธอจะฟังไม่เข้าใจ ก็ยังพูดเสริมไปอีกประโยค “คนที่เสี่ยวเป่าอยากให้คือน้าสื้อสื้อครับ!”
จิ้นเฟิงเฉิน:?
คนที่เป็นแด๊ดดี้อย่างเขาช่างไร้ตัวตนเกินไปแล้ว
แต่ว่า เสี่ยวเป่าชอบสื้อสื้อขนาดนี้ เขาเองก็ดีใจ
สุดท้าย ทั้งสามคนก็เดินยิ้มร่าออกจากบริษัทไป