ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 278 ทุกอย่างเป็นความผิดของเจียงสื้อสื้อ
- Home
- ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!
- บทที่ 278 ทุกอย่างเป็นความผิดของเจียงสื้อสื้อ
บทที่ 278 ทุกอย่างเป็นความผิดของเจียงสื้อสื้อ
คิดว่านี่แค่เวลาผ่านไปไม่นาน เด็กคนหนึ่งจะวิ่งไปไกลไม่ได้หรอก
แต่จิ้นเฟิงเหราหาทั่วใกล้ๆ ก็ไม่เจอคน
ถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริเวณคฤหาสน์ ก็บอกว่าไม่เห็นเด็ก
นี่ก็แปลกแล้ว!
เสี่ยวเป่าเด็กคนหนึ่งจะวิ่งไปไหนได้?
จิ้นเฟิงเหราเริ่มใจร้อน ดังนั้นรีบโทรหาจิ้นเฟิงเฉิน “พี่ เสี่ยวเป่าหายตัวไป บอกว่าจะไปหาหม่ามี๊”
……
อีกด้านหนึ่ง
ถึงแม้จิ้นเฟิงเฉินไม่มา แต่การประชุมก็ยังดำเนินต่อไป
หลังจากประชุมเสร็จ เจียงสื้อสื้อกลับมาห้องทำงาน ก็ได้ยินเพื่อนร่วมงานกำลังซุบซิบเรื่องที่จิ้นเฟิงเฉินไม่มาครั้งนี้
เธอก้มหัวเดินไปที่นั่งของตัวเอง
เธอไม่อยากเข้าร่วมหัวข้อเรื่องนี้
แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้ยินเสียงของเพื่อนร่วมงาน
“ได้ยินว่าประธานจิ้นมาถึงชั้นล่างแล้วรับโทรศัพท์ ก็รีบเดินออกไป”
“โทรศัพท์อะไรถึงได้สำคัญขนาดนี้?”
“แฟนเหรอ?”
“พวกเธอไม่รู้ตอนนั้นที่เขารับโทรศัพท์ สีหน้านี่เปลี่ยนเลย”
“ตกลงเป็นสายของใครเนี่ย?”
คนอื่นๆสงสัยกันมาก แม้แต่เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ไหวที่จะสงสัย เปิดคอมไปด้วยและหูก็ฟังไปด้วย
“เหมือนว่าเป็นสายของในบ้าน ได้ยินคนที่ตามเขาอธิบาย เหมือนว่าลูกชายของเขาหายไปแล้ว”
“โพ้ง!”
ทุกคนพูดคุยกันอย่างจริงจัง จู่ๆมีเสียงดังขึ้นทำให้พวกเขาทุกคนตกใจ และรีบหันกลับไปตามเสียง
“พี่สื้อสื้อ ทำไมเธอไม่ระมัดระวังแบบนี้เนี่ย?”
ที่แท้เจียงสื้อสื้อทำแก้วน้ำตก
“ขอโทษ ขอโทษ……”เธอ
เจียงสื้อสื้อรีบขอโทษ จากนั้นนั่งยองลงไปเก็บเศษแก้วขึ้นมา
“สื้อสื้อ ระวัง!”
เสียงของเพื่อนร่วมงานยังไม่เงียบ ก็ได้ยินเจียงสื้อสื้อออกเสียงเบาคำหนึ่ง
เพื่อนร่วมงานไม่กี่คนรีบขึ้นไปล้อมรอบดู
นิ้วมือของเจียงสื้อสื้อที่บีบเศษแก้วบาดโดน เจ็บจนสีหน้าซีดเล็กน้อย เธอยิ้มด้วยความทำอะไรไม่ได้ “ฉันนิซุ่มซ่ามจริงๆ”
“ซุ่มซ่ามจริงๆ” พี่เฉินที่อายุเยอะหน่อยเหลือบตาขาวใส่เธออย่างไม่ดี จากนั้นจับมือของเธอไปห้องน้ำล้างแผล
“พี่เฉิน กล่องยาค่ะ”
เพื่อนร่วมงานอีกคนเอากล่องยาไปส่งที่ห้องน้ำ
มองพี่เฉินที่ล้างแผลให้ตัวเอง เจียงสื้อสื้อซาบซึ้งมาก ขอบคุณไม่หยุด :“ขอบคุณพี่นะ พี่เฉินขอบคุณ”
พี่เฉินตลกแล้วมองเธอ“ไม่จำเป็นต้องเกรงใจขนาดนี้ กลับเป็นเธอทำไมไม่ระมัดระวังขนาดนี้ละ?”
เจียงสื้อสื้อก้มหน้า เธอไม่สามารถพูดได้จริงๆว่าตัวเองได้ยินพวกเขาพูดว่าลูกชายของจิ้นเฟิงเฉินหายไป เลยพลาดมือทำแก้วตก
“ก็ไม่ระมัดระวัง”เธอโค้งงอปาก ยิ้มด้วยความไม่รู้ทำตัวยังไง
“งั้นต่อไปต้องระวังหน่อย”พี่เฉินไม่ได้ถามอะไรมาก หลังจากช่วยเธอล้างแผลเสร็จ ไม่ลืมย้ำว่า:“แผลลึกไปหน่อย หลายวันนี้อย่าโดนน้ำ รู้ไหม?”
“รู้แล้วค่ะ ”เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
“งั้นฉันกลับทำงานละ”
พี่เฉินถือกล่องยาเดินออกจากห้องน้ำก่อน
เจียงสื้อสื้อจ้องมองนิ้วมือ ใจวุ่นวายไปหมด
ทำไมเสี่ยวเป่าถึงหายไป?
เธอจะกลับไปดูไหม?
……
จิ้นเฟิงเฉินกลับมาถึงบ้านตอนกลางคืน
พ่อจิ้นแม่จิ้นทำหน้าเครียดนั่งอยู่ห้องรับแขก เงยหน้ามองนาฬิกาบนกำแพงเป็นครั้งเป็นคราว
“พ่อ แม่ สถานการณ์เป็นยังไง?”
จิ้นเฟิงเฉินรีบเดินมาตรงหน้าพวกเขา เอ่ยปากถาม
เห็นเขากลับมา พ่อจิ้นและแม่จิ้นรีบลุกขึ้นมา“ เฟิงเฉิน ลูกกลับมาสักที เสี่ยวเป่าหายตัวไป!”
เห็นท่าทางที่รีบร้อนของพ่อแม่ จิ้นเฟิงเฉินรีบปลอบใจว่า:“ พ่อแม่ พวกคุณอย่ารีบร้อน คนหาเจอได้แน่นอน”
“แต่เฟิงเหราหานานขนาดนั้น ก็ไม่เจอคนนิ”
แม่จิ้นรีบร้อนจนน้ำตาไหลออกมา “โทษฉันเอง ถ้าฉันดูเสี่ยวเป่าดีดี เขาก็คงไม่วิ่งออกไปแล้ว”
“แม่ นี่ไม่ใช่ความผิดของแม่”จิ้นเฟิงเฉินดูรอบๆ ถามว่า :“ในบ้านได้หาดีดีหรือยัง ?หรือว่าซ่อนไว้?”
“หาแล้ว”พ่อจิ้นถอนหายใจ พูดต่อว่า :“ก็เหลือแต่ยกบ้านนี่ขึ้นมา”
ได้ยิน จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว เสี่ยวเป่ายังเล็กขนาดนั้น ตามเหตุผลเป็นไปไม่ได้ที่จะไปไกล นอกจาก……
ความคิดที่เลวร้ายปรากฏขึ้นในหัวสมองของจิ้นเฟิงเฉิน เขามองไปที่แม่ของเขาที่เอาแต่เช็ดน้ำตาไม่หยุด ตัดสินใจไม่พูด เพื่อไม่ให้พวกเขากังวลเกินไป
“พ่อแม่ ผมออกไปหาดูพวกคุณอย่ากังวล ผมจะหาเสี่ยวเป่าให้เจอ”
“ฉันไปด้วย”
แม่จิ้นก็อยากตามไป แต่โดนจิ้นเฟิงเฉินห้ามไว้ แม่ ดึกขนาดนี้แล้ว แม่อย่าไปเลย ไม่งั้นผมยังต้องดูแลแม่อีก”
“นั้นแหละ เธอไปแล้วไม่เพียงแต่ช่วยอะไรไม่ได้ ยังเพิ่มปัญหาให้เฟิงเฉินอีก”พ่อจิ้นก็รู้
แม่จิ้นค่อยล้มเลิกความคิดที่จะตามไป เธอจับมือของจิ้นเฟิงเฉิน“เฟิงเฉิน ลูกต้องพาเสี่ยวเป่ากลับมานะ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า“ ผมจะพากลับมา”
เห็นเขารีบออกไป น้ำตาของแม่จิ้นก็ไหลอย่างหนัก
“ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้?”
พ่อจิ้นโอบกอดไหล่ของเธอ“ พอแล้ว อย่าร้องแล้ว ต้องเชื่อเฟิงเฉินพวกเขา ต้องหาเสี่ยวเป่ากลับมาได้แน่นอน”
แม่จิ้นเช็ดน้ำตา จู่ๆพูดด้วยความโกรธ:“ เป็นเพราะเจียงสื้อสื้ออี่นั้น”
ได้ยินคำพูดนี้ พ่อจิ้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “นี่เกี่ยวอะไรกับเขา อย่าโทษคนอื่นไปเลื่อย”
“หรือว่าไม่ใช่เหรอ ?”แม่จิ้นออกเสียง หึ“ตั้งแต่เธอปรากฏตัว ชีวิตของบ้านเราไม่เคยสงบสุขสักวัน ก็ไม่รู้ว่าเฟิงเฉินกับเสี่ยวเป่ากินยาหลงเสน่ห์อะไร ชอบเธอขนาดนั้น”
ถึงแม้พ่อจิ้นรู้สึกเจียงสื้อสื้อไม่คู่ควรกับลูกชายคนโต แต่ก็ไม่ถึงขั้นไม่ดีอย่างที่ปากแม้จิ้นพูด
ดังนั้นก็เลยพูดว่า:“นิสัยของเฟิงเฉินเธอไม่ใช่ว่าไม่รู้ เขาฉลาดขนาดนั้นจะมองผู้หญิงคนหนึ่งไม่ออกหรือไง?เจียงสื้อสื้อคนนั้นน่าจะมีความสามารถที่ดีอะไรที่ทำให้เฟิงเฉินชอบเธอขนาดนั้น”
“ความสามารถที่ดี?ฉันว่าเป็นกระหรี่ตัวหนึ่ง”
ความโกรธของแม่จิ้นก็ขึ้นมา ด่าด้วยความไม่ถูกต้องเผลอพูดออกมา
พ่อจิ้นทำหน้ามืดมนลงมา “ห้ามด่าคนอื่นแบบนี้ นี่ไม่เหมือนสิ่งที่เธอพูด”
แม่จิ้นรู้ตัวว่าตัวเองพูดไม่ดี หายใจเข้าลึกๆ พูดว่า:“ตอนนี้ใจฉันวุ่นวายมาก ถ้าหาเสี่ยวเป่าไม่เจอ ฉันจะไม่ปล่อยเจียงสื้อสื้ออี่นั้นเด็ดขาด”
พูดตรงๆก็คือ เธอรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเจียงสื้อสื้อ
เห็นเธอดื้อรั้นขนาดนั้น พ่อจิ้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่ถอนหายใจ พูดว่า:“คำนี่ทางที่ดีที่สุดเธออย่าพูดตรงหน้าเฟิงเฉิน เผื่อเขารู้สึกเธอเป็นแม่ที่ไม่พูดเหตุผล”
“ฉัน……”แม่จิ้นอยากย้อนกลับไป แต่พอคิดว่าเขาก็ถูก เลยพูดด้วยความลำบากใจว่า:“ ฉันรู้แล้ว”
……
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว ขับรถหาเสี่ยวเป่าไปทั่ว
จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เฟิงจิ้นเหราโทรมา
“พี่ พี่อยู่ไหน?”
จิ้นเฟิงเฉินมองออกไปด้านนอกรถ บอกที่อยู่ แล้วถามตรงๆว่า:“ สถานการณ์ของนายตรงนั้นเป็นยังไง?”
“ก็ยังหาไม่เจอ”
จิ้นเฟิงเหราหามาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้อะไรมา ในใจเขามีการทายไม่ดี
“พี่ มีเรื่องหนึ่งฉันไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด”
“พูด”
จิ้นเฟิงเหราลังเลสักพัก ค่อยพูดว่า:“ พี่ เสี่ยวเป่าโดนลักพาตัวหรือเปล่า?”