ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! - บทที่ 289 แม่ซูมาหาถึงบ้าน
บทที่ 289 แม่ซูมาหาถึงบ้าน
“พ่อ ฉันเป็นลูกสาวของท่าน ท่านพูดอย่างนี้กับฉันได้ยังไง?!”
คำพูดของพ่อซูทำให้ซูชิงหยิงโมโห เธอโมโหจนไม่มีที่ระบายร้องไปทั่ว จากนั้นวิ่งขึ้นไปข้างบน
“คุณดูสิ คุณรักลูกสาวคุณเกินไปจนกลายเป็นสภาพแบบไหนแล้วล่ะ?”
พ่อซูโมโหชี้ไปทางที่ซูชิงหยิงขึ้นไปร้องพูดกับแม่ซู
“แล้วฉันเป็นยังไงล่ะ?” แม่ซูก็โมโหเช่นกัน “เดิมทีก็คือคุณไม่ถูก ทั้งๆที่รู้ว่าชิงหยิงชอบจิ้นเฟิงเฉิน คุณยังพูดแบบนั้นอีก นี่ไม่ใช่ตั้งใจใส่น้ำเย็นไปบนกายชิงหยิงหรือ?”
“ชอบก็ต้องปล่อยวางเช่นกัน”
พ่อซูนั่งลงอยู่บนโซฟา พูดต่ออีกว่า “คุณพูดสิพวกเราตระกูลซูคือคู่ปรับของตระกูลจิ้นได้หรือ? ถ้าวันไหนทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่พอใจแล้วพวกเราตระกูลซูก็จบเลย คุณรู้ไหม?”
แม่ซูไม่คิดว่าเรื่องจะหนักถึงขนาดนี้เลย “ก็แค่อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราตระกูลซูกับตระกูลจิ้น เฟิงเฉินไม่กล้าโหดร้ายตัดขาดหรอก”
“ยังไม่กล้าหรือ?” พ่อซูโมโหจนยิ้ม “ก็ก่อนหน้านั้นชิงหยิงผลักคุณเจียงลงเขา เฟิงเฉินต่อกับพวกเราตระกูลซูยังไงล่ะ? คุณลืมไปแล้วหรือ?”
เขาพูดเช่นนี้ขึ้นมา แม่ซูจึงนึกออกยังเคยเกิดเรื่องเช่นนี้อีก
ทันทีนั้นก็รู้สึกตัวถึงเรื่องหนักกว่าที่ตนเองคิด
เธอคิดแล้วคิดอีก พูดว่า “ถ้าไม่ฉันไปพูดโน้มนาวใจชิงหยิงหน่อย?”
“คุณพูดโน้มนาวใจได้หรือ?”
เขาถามถูกแล้ว เธอพูดโน้มนาวใจได้หรือ?
แม่ซูลำบากใจขึ้นมา ด้านหนึ่งเป็นลูกสาวของตนเอง ด้านหนึ่งต้องดูแลตระกูลซูให้ดีๆ ยากที่จะเลือกจริงๆ
เธอสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที “ไม่ได้ ฉันจะไปหาฉินมู่หลันเรียกร้องความรับผิดชอบ”
“คุณบ้าไปแล้วหรือ?” พ่อซูจ้องมองเธออย่างยากที่จะเชื่อ “คุณจะไปหาเธอทำไมหรือ? สิ่งที่ตระกูลจิ้นทำยังไม่ชัดเจนพอหรือ? คุณต้องหาความอัปยศอดสูให้ได้หรือ?”
“ไม่อย่างงั้นจะทำยังไงดีล่ะ? ฉันก็พูดโน้มนาวใจชิงหยิงไม่ได้ด้วย ฉันได้แค่หน้าด้านไปทำแบบนี้!”
แม่ซู ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่งใส่เขาอย่างโมโห จากนั้นไม่สนปฏิกิริยาของเขาไปตระกูลจิ้นเลย
……
“พี่หยาง ช่วงเวลานี้ที่คุณเจียงอยู่ในบ้านนี้ แกต้องดูแลให้เป็นพิเศษหน่อย รู้ไหม?”
แม่จิ้นวางแผนให้เจียงสื้อสื้ออยู่ในห้องพักแขกที่อยู่ชั้นสอง จากนั้นหันหน้าไปสั่งคุณน้าที่อยู่ในบ้าน
พี่หยาง พยักหน้า “คุณหญิง ฉันรู้แล้วค่ะ”
ต่อจากนี้ แม่จิ้นยิ้มพูดกับเจียงสื้อสื้อว่า “คุณเจียง คุณก็คิดว่าบ้านนี้เป็นบ้านของตนเอง อยากกินอะไรอยากดื่มอะไรก็บอกกับ พี่หยาง ก็ไม่ต้องเกร็งเกินไป ตามสบายสักหน่อย”
เจียงสื้อสื้อยิ้มเขินอายหนึ่งที “ขอบคุณคุณน้า ”
“งั้นคุณพักผ่อนให้ดีๆ”
“เอ๊ะ”
จ้องมองแม่จิ้นกับ พี่หยาง ลงไปข้างล่าง เจียงสื้อสื้อจึงปิดประตูลง
เธอพิงอยู่ที่ประตู มองรอบๆในห้องนอน ถอนหายใจยาวๆหนึ่งทีอย่างจนใจ
ไม่มีใครอธิบายสาเหตุได้ ตนเองถึงขนาดเข้ามาอยู่ในตระกูลจิ้นเลย จนถึงตอนนี้เธอยังล้วนไม่สามารถสงบสติกลับมา
เธอค่อยๆเดินไปถึงข้างเตียงและนั่งลง กอดหมอนอยู่ในอก จ้องมองสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยนี้ จากนั้นคิดอีกว่าทุกๆวันล้วนต้องเผชิญหน้ากับพ่อจิ้น แม่จิ้น เธอก็อึดอัดไปหมด
ไม่ได้!
เธอนั่งตัวตรงขึ้นมา จิตสติมั่นคงเป็นพิเศษ
จำเป็นต้องพูดกับจิ้นเฟิงเฉินให้ชัดเจนหน่อย เธอไม่อยากอยู่ที่นี่
หามือถือได้ เธอส่งข้อความหนึ่งให้กับจิ้นเฟิงเฉิน
……
“ฉันไม่อยากอยู่บ้านของคุณ”
จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองตัวหนังสือที่อยู่บนหน้าจอ คิ้วกระบี่ที่ดูดีขมวดขึ้น
“ท่านประธาน?” กู้เนี่ยนเห็นเขามึนงงจ้องมองมือถือ ก็เรียกอย่างระมัดระวัง
ได้ยินเสียง จิ้นเฟิงเฉินเปิดหนังตาเบาๆขึ้นมา สายตาเย็นชาจ้องมองเขา
ในใจกู้เนี่ยนขนลุกหนึ่งที ตัวเองน่าจะไม่ได้รบกวนอะไรแล้วมั้ง?
เขารีบเอาเอกสารที่อยู่ในมือวางอยู่บนโต๊ะ “นี่คือการพัฒนาและออกแบบที่ดินของ เมืองหนาน ผืนนั้น เชิญท่านดูหน่อย”
“วางไว้ก่อน” จิ้นเฟิงเฉินพูดคำหนึ่งอย่างราบเรียบ จุดสังเกตก็อยู่บนมือถืออีก
กู้เนี่ยนอดไม่ได้แปลกใจมากบนมือถือตกลงมีอะไร ถึงขนาดทำให้ท่านประธานจ้องมองอย่างตั้งใจขนาดนี้
งั้นคุณอยากจะอยู่ที่ไหนล่ะ? เพื่อนของคุณหรือ? ลู่เจิงหรือ?
จิ้นเฟิงเฉินตอบข้อความกลับ จากนั้นทิ้งมือถือไว้บนโต๊ะ นี่จึงพบเห็นว่ากู้เนี่ยนยังไม่ได้ออกไป แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน แค่จ้องมองเขาอย่างเงียบๆ
อยู่ในสายตาลึกๆของเขา กู้เนี่ยนถูมือสองข้าง ใบหน้าเต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้มที่เอาใจ “ผมจะออกไปแล้ว ท่านประธาน”
พูดจบ เขารีบหมุนตัว สามก้าวรวมเป็นสองก้าวค่อยๆวิ่งออกไป
จิ้นเฟิงเฉินเก็บสายตากลับมา ตกอยู่บนมือถือ ตายี๋เล็กน้อย เขากลับอยากจะดูว่าเธอจะตอบยังไง
เจียงสื้อสื้อได้รับข้อความ แค่รู้สึกประหลาดใจ
นี่เกี่ยวอะไรกับลู่เจิงล่ะ?
หรือว่าเขาคิดว่าเพื่อนของเธอมีแค่ลู่เจิงคนเดียวหรือ?
เธอสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที พิมพ์ออกมาหนึ่งประโยคอยู่บนมือถืออย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่ยังมีบ้านของคุณอยู่ได้หรือ?
จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองตัวหนังสือที่อยู่บนมือถือ มุมปากค่อยๆงอขึ้น ถือว่าเธอยังรู้ตัวอยู่
อยู่ไปก่อน หลายวันนี้ผมงานค่อนข้างยุ่ง อาจจะไม่มีเวลาดูแลคุณ
เจียงสื้อสื้อทิ้งมือถือไว้ข้างๆ งอเข่าขึ้น วางศีรษะไว้ข้างบน ถอนหายใจหนึ่งทีอย่างจนใจ
เธอก็ไม่ต้องให้คนดูแล
ตกลงว่าคือกลัวเธอไม่มีคนดูแล หรือว่ากลัวเธอจะไม่ลาแล้วไปอีกครั้งล่ะ?
อยู่ดีๆเธอพบเห็นว่าตนเองดูความคิดของเขาไม่ออกจริงๆ
หงุดหงิดจนจับหัวแล้วจับหัวอีก
ช่างมันเถอะ ช่างมันเถอะ ไม่อยากคิดแล้ว
ไหนๆก็มาแล้วก็จงอยู่อย่างมีความสุขเถอะ
……
“พี่หยาง บาดแผลของคุณเจียงยังไม่หายดี อาหารการกินพยายามรสจืดหน่อย เตรียมผลไม้ให้เธอกินมากหน่อย”
แม่จิ้นฝั่งนี้ยังสั่ง พี่หยาง อยู่ พ่อบ้านฝั่งโน้นวิ่งเข้ามาอย่างเร่งด่วน
“คุณหญิง คุณหญิงซู มาแล้ว”
แม่จิ้นขมวดคิ้ว “เธอมาทำอะไรหรือ?”
“ไม่รู้ครับ แต่ว่าลักษณะของเธอดูแล้วเหมือนโมโหมาก”
คงไม่ใช่มาเพราะเรื่องของเจียงสื้อสื้อมั้ง?
แม่จิ้นคิดไปทีหนึ่ง จากนั้นพูดว่า “เชิญเธอเข้ามา”
แม่ซูมีลักษณะท่าทางที่ดุดันเดินเข้ามา มองเห็นแม่จิ้นแล้ว ใส่หัวและใส่หน้าโครมๆถามว่า “มู่หลัน คุณหมายความว่าอะไรหรือ?”
แม่จิ้นจ้องมองเธออย่างตลก “วันนี้คุณมาเพื่อประณามความผิดหรือ?”
“ประณามความผิด ฉันไม่กล้า ฉันแค่มาขอความยุติธรรม” แม่ซูนั่งลงอย่างโมโห สูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที พูดต่ออีกว่า “ฉันได้ยินว่าคุณให้เจียงสื้อสื้อคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านเลย เป็นเรื่องจริงหรือ?”
“ใช่สิ เป็นยังไงแล้วล่ะ?”
“เธอทำไมให้หล่อนเข้ามาอยู่ล่ะ? เธอไม่ใช่ไม่ชอบหล่อนหรือ?” แม่ซูจ้องมองเธออย่างไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย
แม่จิ้นยิ้ม “นี่คือบ้านฉัน ฉันจะให้ใครเข้ามาอยู่ หรือว่ายังต้องผ่านความเห็นชอบจากคุณหรือ?”
แม่ซูสำลัก นี่จึงรู้สึกตัวว่าตนเองวู่ว่ามเกินไปแล้ว รีบแก้ตัวพูดว่า “ฉันเพียงแค่ประหลาดใจเท่านั้น เธอไม่ใช่ไม่ชอบหล่อนมาโดยตลอดหรือ?”
“ฉันไม่ชอบเขาก็จริง” แม่จิ้นพยักหน้าอย่างจิตใจเยือกเย็นไม่สะทกสะท้าน “แต่ว่าเธอช่วยหลานของฉัน”
“แม้ว่าเป็นเช่นนี้ เธอก็ไม่ควรให้หล่อนเข้ามาอยู่ไง หากบังเอิญหล่อนคิดว่าเธอยอมรับหล่อนแล้วล่ะ?”
“หล่อนไม่กล้าคิดเช่นนี้”
ความคาดคิดของเธอมั่นใจมาก แม่ซูอดไม่ได้ยิ้มแล้ว “เธอจะรู้ได้ยังไงว่าหล่อนไม่กล้าล่ะ?”
แม่จิ้นไม่อยากพัวพันกับเธอในเรื่องนี้ ก็เลยเปลี่ยนเรื่องพูด ถามว่า “คุณมาหาฉัน ตกลงมีเรื่องอะไรกันแน่?”
เปลี่ยนเรื่องพูดแล้ว แม่ซูตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย อึ้งไปสักพัก จึงพูดว่า “คือเรื่องของชิงหยิงกับเฟิงเฉิน คุณเคยพูดว่าชิงหยิงของบ้านเราคือตัวเลือกที่จะเป็นลูกสะใภ้ที่คุณพอใจที่สุด คุณไม่ลืมมั้ง?”
แม่จิ้นขมวดคิ้ว “ไม่ลืม”
แต่ว่านั่นคือเรื่องก่อนหน้านั้นแล้ว
แน่นอนคำพูดนี้เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะพูดออกมาต่อหน้าแม่ซู